ประเทศไทยถือเป็นฐานการผลิต “ยางรถยนต์” ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยแบรนด์ชั้นนำต่างเข้ามาตั้งฐานการผลิตในประเทศไทยด้วยเหตุผลหลายประการ ทั้งในด้านการเป็น แหล่งผลิตน้ำยางดิบ, ฐานการผลิตรถยนต์ จึงทำให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตสำคัญ
ขณะที่ ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีนได้เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้แบรนด์ยางรถยนต์สัญชาติจีนเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นจากการเป็นยางติดรถยนต์ที่นำเข้ามาจากจีน ซึ่งล่าสุดบริษัทแม่ของแบรนด์ยางรถยนต์สัญชาติจีนอย่าง SAILUN (ไซลุน) มองเห็นโอกาสจึงได้เข้ามาดำเนินธุรกิจอย่างจริงจัง
SAILUN ได้รับการจัดอันดับโดย Brand Finance ประจำปี 2025 ซึ่งแบรนด์ดังกล่าวเป็นแบรนด์สัญชาติจีนรายเดียวที่ติดอันดับ ท็อป 10 (Top 10) แบรนด์ยางรถยนต์ที่มีมูลค่าสูงสุดของโลก โดย ไซลุน ไทร์ เป็นผู้จัดหายางอย่างเป็นทางการของการแข่งขัน Formula 4
สำหรับ บริษัท ไซลุน ไทร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ได้ก่อตั้งเมื่อปี 2564 เพื่อเป็นสำนักงานขายในประเทศไทย ภายใต้บริษัท ไซลุน กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตยางรถยนต์ชั้นนำในประเทศจีน ดำเนินธุรกิจในการนำเข้า ยางรถยนต์นั่ง และยางที่ใช้ในเชิงพาณิชย์ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เติบโตอย่างรวดเร็วในประเทศไทย
ปัจจุบัน ไซลุน มีผลิตภัณฑ์ใน 6 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ประกอบด้วย 1.ยางรถยนต์นั่งส่วนบุคคล และรถเอ็มพีวี 2.ยางรถอีวี 3.ยางรถเอสยูวี 4.ยางรถกระบะทั่วไป 5.ยางเรเดียลสำหรับรถบรรทุกและรถโดยสาร และ 6.ยางเพื่อเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม
Autolifethailand ได้ร่วมสัมภาษณ์พิเศษ “สตีฟ จาง” ผู้อำนวยการทั่วไปประจำประเทศไทยและกัมพูชาของบริษัท ไซลุน ไทร์ (ไทยแลนด์) จำกัด โดยระบุว่า ปี 2567 ไซลุน ไทร์ มีรายได้รวมกว่า 4.436 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโตขึ้น 22.42% ถือเป็นอันดับที่ 1 ของบริษัทผู้ผลิตยางที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของจีน และเป็นบริษัทผู้ผลิตยางอันดับที่ 10 ของโลก
สำหรับในประเทศไทยบริษัทได้แนะนำเทคโนโลยีล่าสุดอย่าง EcoPoint3 ยางสำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่ครอบคลุมถึงรถยนต์ไฟฟ้าลงสู่ตลาดในประเทศไทยใน 4 รุ่นดังนี้
- ERANGE PERFORMANCE
- ATREZZO ERANGE
- ERANGE PREMIUM
- ATREZZO ZSR2
ขณะที่ บริษัทวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ไว้ในระดับพรีเมี่ยม ซึ่งนำเสนอเทคโนโลยีที่ดีที่สุดของแบรนด์และเชื่อว่าจะสามารถแข่งขันได้กับแบรนด์ยางรถยนต์ชั้นนำได้ซึ่งมีราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่า ส่วนระยะต่อไปบริษัทจะนำเสนอตัวเลือกยางรุ่นใหม่ลงสู่ตลาดในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันมีการนำเข้าจากประเทศจีน และมีแผนที่จะเปลี่ยนการนำเข้าจากประเทศเวียดนามเร็ว ๆ นี้
ประเทศไทยถือเป็นตลาดสำคัญในกลยุทธ์ของภูมิภาคเอเชีย โดยทาง ไซลุน ไทร์ (ไทยแลนด์) ได้ร่วมมือกับ บริษัท เค พี เอส แอ็คเซสเซอรี่ส์ จำกัด เป็นผู้จัดจำหน่ายยาง SAILUN อย่างเป็นทางการในประเทศไทย เพื่อวางแผนด้านผลิตภัณฑ์, ช่องทางจำหน่าย, แบรนด์ และการบริการ ในตลาดประเทศไทย โดยในอนาคต ไซลุน ไทร์ จะยังคงลงทุนอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมร่วมมือกับ บริษัท เค พี เอส แอ็คเซสเซอรี่ส์ จำกัด และพันธมิตรในการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง
ด้านเป้าหมายในอีก 5 ปีข้างหน้าบริษัทคาดว่าจะมีส่วนแบ่งตลาดไม่น้อยกว่า 10% ในแต่ละกลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก จากปัจจุบันมีส่วนแบ่งตลาดรวม 4% ของตลาดยางรถยนต์ในประเทศไทยที่มีจำนวนราว 10 ล้านเส้นต่อปี และมีแผนการดำเนินธุรกิจในกลุ่มผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์นั่ง 4 แนวทางหลัก ได้แก่
- การพัฒนาผลิตภัณฑ์ : เพิ่มสัดส่วนผลิตภัณฑ์ระดับสูง โดยเน้นยางรุ่น EcoPoint3 เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของตลาดระดับกลางถึงบน
- การขยายช่องทาง : เสริมสร้างความร่วมมือกับ บริษัท เค พี เอส แอ็คเซสเซอรี่ส์ จำกัด ผู้แทนจัดจำหน่าย เพื่อเพิ่มจำนวนร้านค้าที่ครอบคลุมทั่วประเทศ
- การพัฒนาบริการ : ยกระดับการฝึกอบรมทีมงานและการตอบสนองหลังการขาย เพื่อมอบประสบการณ์บริการที่เป็นเลิศ
- การสร้างแบรนด์ : ใช้กิจกรรมทดลองขับและการมีส่วนร่วมกับผู้บริโภค เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ที่ดีต่อแบรนด์
สตีฟ จาง กล่าวว่า ปัจจุบันโรงงานผลิตยางรถยนต์ของบริษัทมีจำนวน 9 แห่งทั่วโลก ได้แก่ ประเทศจีน 5 แห่ง, เวียดนาม, อินโดนีเซีย, กัมพูชา และ เม็กซิโก ซึ่งมีกำลังการผลิตเพียงพอต่อความต้องการทั่วโลก ดังนั้นเองจึงยังไม่มีแผนการลงทุนตั้งโรงงานในประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม แผนในอนาคตบริษัทคาดว่าจะร่วมมือกับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีนในการวางจำหน่ายยางรถยนต์ทดแทนในศูนย์จำหน่ายและบริการ (โชว์รูม) ด้วยความแข็งแกร่งในฐานะพันธมิตรทางธุรกิจในระดับโลกกับ BYD, Changan, Geely และแบรนด์อื่น ๆ จึงมั่นใจว่าบริษัทจะสามารถบรรลุเป้าหมายดังกล่าวที่วางไว้ได้ในอนาคต