ซอนเทส (ZONTES) ผู้ผลิตรถจักรยานยนต์สัญชาติจีน เปิดตัวแบรนด์อย่างเป็นทางการในประเทศไทยในช่วงเดือน มิถุนายน ที่ผ่านมา กับผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม สกู๊ตเตอร์ พิกัด 350 ซีซี. ในรุ่น ZONTES 350E และ ZONTES 350D ในนาทีนั้นก็มีกระแสความร้อนแรงไม่น้อยด้วยยอดจองราว 5,000 คัน ทันทีหลังเปิดตัวไม่กี่วัน ซึ่งนับตั้งแต่เปิดตัวมาต้องยอมรับว่ากระแสดังกล่าวยังดีต่อเนื่องไม่มีตกจนกระทั่งในงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41 หรือ มอเตอร์เอ็กซ์โป 2024 (Motor Expo 2024) ได้ส่งผลิตภัณฑ์ในรุ่น ZONTES 368G ในกลุ่ม แอดเวนเจอร์ สกู๊ตเตอร์ ลงสู่ตลาดส่งผลให้เกิดกระแส “รถขิง” (รถสีทองสีเดียวกับขิง) อีกครั้ง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ซอนเทส บุกตลาดในไทยเปิดตัวสกู๊ตเตอร์ 350 ซีซี. 2 รุ่นใหม่ ราคาเริ่ม 1.41 แสนบาท
Autolifethailand ได้สัมภาษณ์พิเศษ “กวิน ร่วมใจพัฒนกุล” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไดนามิค มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ ซอนเทส อย่างเป็นทางการในประเทศไทย เล่าให้ฟังว่า ในช่วง มอเตอร์เอ็กซ์โป 2024 ที่ผ่านมา บริษัทมียอดจองในงานอยู่ที่ 1,818 คัน และยอดจองทั่วประเทศรวมอยู่ที่ 3,225 คัน ถือเป็นยอดจองอันดับ 1 ของแบรนด์รถจักรยานยนต์ภายในงานดังกล่าวสะท้อนการตอบรับที่ดีของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์
อะไรที่ทำให้ ZONTES มีผลตอบรับที่ดีในระยะเวลาอันรวดเร็ว?
ต้องยอมรับว่าอาจมีหลายปัจจัย หนึ่งในนั้นคือลูกค้าให้การยอมรับ “แบรนด์จีน” มากขึ้นจากเดิมที่ยอมรับเฉพาะ “แบรนด์ญี่ปุ่น” ซึ่งเป็นผลมาจากสินค้าแบรนด์จีนในประเทศไทยที่ลูกค้าให้การยอมรับมากขึ้นในหลากหลายอุตสาหกรรม ทำให้เป็นส่วนหนึ่งที่ผู้บริโภค “เปิดใจ” ยอมรับแบรนด์จีนมากขึ้นในทุกวันนี้ รวมถึงการมอบความคุ้มค่าและความครบครันของผลิตภัณฑ์ที่บริษัทมอบให้ลูกค้า อีกทั้งความเชื่อมั่นในฐานะที่บริษัทเป็นผู้ทีมีประสบการณ์ในการทำธุรกิจรถจักรยานยนต์ ในด้านบริการหลังการขาย และการตัดสินใจนำเสนอผลิตภัณฑ์ในเซกเมนต์ที่ถูกต้องรวมถึง ราคาที่ใช่!
ขณะเดียวกัน การรับรู้ของผู้บริโภคมีลักษณะเดียวกันกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ที่แบรนด์สัญชาติจีนมอบสเป็คความคุ้มค่าของผลิตภัณฑ์ เพื่อแข่งขันกับแบรนด์ญี่ปุ่น และคุณภาพผลิตภัณฑ์ถือเป็นคำตอบที่ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกซื้อในวันนี้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : เจาะสเป็ค ZONTES 368G แอดเวนเจอร์สกู๊ตเตอร์ ราคา 1.78 แสนบาท
ซอนเทส มีแผนในการดำเนินธุรกิจปี 2568 เป็นอย่างไร?
บริษัทจะเปิด ZONTES Exclusive Showroom จำนวน 30 แห่งในปี 2568 โดยล่าสุดได้มีการเปิดให้บริการแห่งแรกที่ ถ.พระราม 4 ในช่วงกลางเดือน ธ.ค. 2567 แล้วจากนั้นจะมีการขยายให้ครอบคลุมทั่วประเทศผ่านความร่วมมือกับผู้แทนจำหน่าย (ดีลเลอร์) โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนรวมมากกว่า 100 ล้านบาท (ใช้เงินลงทุนราว 5 ล้านบาทต่อแห่ง)
พร้อมกันนี้ ยังได้มีการเจรจากับบริษัทแม่ประเทศจีนในการแนะนำผลิตภัณฑ์อย่างน้อย 2 รุ่นใหม่ ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะเปิดตัวลงสู่ตลาดในประเทศไทยได้แก่ ในกลุ่มรุ่นเครื่องยนต์ขนาด 700 ซีซี. และอีกรุ่นหนุ่งคือ ในกลุ่มราคาเริ่มต้น (Entry Level) เพื่อผลักดันให้เป้าหมายในปี 2568 ไปอยู่ในระดับ 15,000-20,000 คัน จากในปี 2567 คาดว่าจะปิดตัวเลขอยู่ที่ 8,000-10,000 คัน
นอกจากนั้น ยังตั้งเป้าหมายยอดขายอันดับ 1 ของแบรนด์ นอกประเทศจีน และตั้งเป้าเป็นแบรนด์รถจักรยานยนต์ที่มียอดขายอันดับ 3 ของตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม มองว่าในปี 2568 ตลาดรถจักรยานยนต์จะยังคงอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่ต้องจับตา จากภาวะหนี้ครัวเรือนสูง, เศรษฐกิจในประเทศทรงตัว รวมถึงการพิจารณาสินเชื่อ (ไฟแนนซ์) ที่มีความเข้มงวด ซึ่งอาจจะมีความรุนแรงมากกว่าในปี 2567 อีกก็เป็นได้
ด้านทิศทางของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าของ ซอนเทส ตามแผนธุรกิจยังไม่มีโมเดลที่เป็นเทคโนโลยีดังกล่าว ซึ่งแบรนด์มุ่งเน้นโฟกัสรถจักรยานยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน โดยข้อสังเกตุของเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้าในรถจัรกยานยนต์ อาจจะมีข้อจำกัดเรื่องระยะทางในการวิ่งต่อการชาร์จ, ราคาจำหน่าย, ความคุ้มค่า รวมถึงพื้นที่ในการติดตั้งแบตเตอรี่ ซึ่งอาจจะเป็นเงื่อนไขสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าวในรถจักรยานยนต์
บริษัทแม่ที่ประเทศจีนมองแบรนด์ ซอนเทส ในประเทศไทยอย่างไร?
ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่มีศักยภาพของตลาดรถจักรยานยนต์ และถือเป็นตลาดสำคัญแห่งหนึ่งของแบรนด์ ซึ่งได้มีการส่งทีมงานผู้เชี่ยวชาญมาประจำที่ประเทศไทยเพื่อควบคุมการประกอบในประเทศและอบรมทีมงานด้านบริการหลังการขายในประเทศไทย พร้อมการสนับสนุนด้านราคาจำหน่ายและการทำการตลาด โดยหากเมื่อเปรียบเทียบราคา ซอนเทส 368G ในประเทศไทยกับประเทศมาเลเซีย ที่ประเทศไทยถือว่ามีราคาเปิดตัวที่ต่ำกว่าประเทศมาเลเซ๊ยราว 20,000 บาท และถือว่ามีราคาใกล้เคียงกับที่ประเทศจีนอย่างมาก
อีกทั้งยังได้มีการประสานในการเพิ่มโควต้าการผลิตเพื่อให้ลดระยะเวลาการส่งมอบ (Back Order) ลง โดยปัจจุบันในรุ่น 368G มีระยะเวลารอรับรถราว 2-3 เดือน
“เราทำงานร่วมกับบริษัทแม่ในการนำเสนอความคุ้มค่าต่อผู้บริโภคและหลังจากนี้มีความเป็นไปได้ว่าแคมเปญที่ติดตั้ง กล้อง Built-in จากโรงงานมาใน 368G ช่วงเปิดตัว จะมีการขยายระยะเวลาและอาจติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานของตัวรถ เนื่องจากถือเป็นจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ในรุ่นนี้”
ไดนามิค มอเตอร์ คือใคร ?
ไดนามิค มอเตอร์ คือผู้แทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์หลายยี่ห้อ อาทิ เปอโยต์ (PEUGEOT), มาลากูติ (MALAGUTI) และ แลมเบรตต้า (Lambretta) และล่าสุดคือ ซอนเทส ซึ่งวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์เป็นผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์พรีเมี่ยม โดยปัจจุบันโฟกัสธุรกิจหลักของบริษัทมุ่งเน้นในการทำตลาด 2 แบรนด์หลักคือ แลมเบรตต้า และ ซอนเทส โดยอนาคตหลังจากนี้อาจจะมีการขยายกลุ่มเพิ่มแบรนด์ในการทำตลาด โดยเฉพาะในกลุ่ม Entry Level ซึ่งมีทั้งการเพิ่มเซกเมนต์ในแบรนด์ปัจจุบันและเพิ่มแบรนด์ใหม่ เพื่อครอบคลุมกับความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลาย
นอกจากนี้ สำหรับแบรนด์ Lambretta ในปี 2567 สถานการณ์เป็นไปตามทิศทางตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศไทยที่ชะลอตัว ซึ่งแบรนด์นี้มีคาแรคเตอร์ที่ชัดเจนและมีกลุ่มลูกค้าที่ต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์ ปัจจุบันบริษัทมีเครือข่ายผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์แบรนด์ดังกล่าวจำนวน 70 แห่งทั่วประเทศ โดยในปี 2568 มีความเป็นไปได้ที่จะมีการเปิดตัวรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่มีการเปิดตัวในต่างประเทศไปก่อนหน้านี้ พร้อมทั้งการเปิดตัวรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ เพื่อสร้างสีสันและผลักดันยอดขายให้เติบโตขึ้น
จากทิศทางในการดำเนินธุรกิจดังกล่าวของ “ไดนามิค มอเตอร์” ที่โฟกัสแบรนด์ ซอนเทส อย่างจริงจัง รวมถึงเป้าหมายในการตลาดที่เข้มข้น กับการตัดสินใจเลือกนำเสนอผลิตภัณฑ์, ความคุ้มค่า และราคา ที่เป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคเปรียบเทียบกับแบรนด์รถจักรยานยนต์ญี่ปุ่นเจ้าตลาดทั้งหลาย ทำให้แบรนด์สัญชาติจีนแบรนด์นี้น่าสนใจไม่น้อยกับการเข้าไปมีบทบาทครองใจผู้บริโภคด้วยผลลัพท์ที่ดีในระยะเวลาอันรวดเร็ว