สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานโดยอ้างถึง “เซอิจิ ซูกิอุระ” นักวิเคราะห์อาวุโสของ Tokai Tokyo Intelligence Laboratory ซึ่งระบุว่า ปริมาณความต้องการของ รถยนต์ไฮบริด ที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลให้กำไรของ โตโยต้า (Toyota) ในการรายงานผลประกอบการทั่วโลก แม้ว่านักลงทุนจะเฝ้าระวังสัญญาณใด ๆ ของผลกระทบที่ใกล้จะเกิดขึ้นจากภาษีของสหรัฐอเมริกา ก็ตาม
ทั้งนี้ นักลงทุนให้ความสนใจอย่างใกล้ชิดว่า โตโยต้า จะคำนึงถึงผลกระทบจากภาษีของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ต่อกำไรในอนาคตอย่างไร เนื่องจากคาดว่าภาษีดังกล่าวจะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อผู้ผลิตรถยนต์ที่ทำธุรกิจในสหรัฐฯ อีกประเด็นหนึ่งที่ต้องให้ความสนใจคือสิ่งที่ โตโยต้า จะมองเกี่ยวกับอุตสาหกรรมยานยนต์หลังจากนี้
นอกจากนั้น การชะลอตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่อาจเกิดขึ้น หรือการส่งออกของ โตโยต้า ไปยังตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลกจาก แคนาดา และ เม็กซิโก ซึ่งเป็นฐานการผลิตของบริษัทและผลิตโมเดลยอดนิยมบางรุ่น ยังไม่ได้ถูกคำนึงถึง
ก่อนหน้านี้ โตโยต้า กล่าวว่าจะยังคงดำเนินการตามปกติ และมุ่งเน้นที่การลดต้นทุนคงที่ โดยไม่นำมาตรการที่รุนแรงกว่า เช่น การปรับขึ้นราคาของรถยนต์เพื่อตอบสนองต่อภาษีดังกล่าวมาใช้
แหล่งข่าวระบุกับรอยเตอร์ว่า โตโยต้ากำลังพิจารณาการผลิต RAV4 SUV รุ่นถัดไปซึ่งเป็นรุ่นขายดีที่สุดในสหรัฐฯเพื่อป้องกันตัวเองจากความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากภาษีและอัตราแลกเปลี่ยนของสหรัฐฯ
ที่มา : Reuters