MINI Cooper ตัวถังล่าสุด ซึ่งนับเป็น generation ที่ 5 ได้ประเดิมตลาดไปก่อนหน้าด้วยรุ่นที่ใช้ขุมพลัง EV บัดนี้ รุ่นที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในได้ตามมาสมทบแล้ว ตามแนวคิด Power of Choice (ทางเลือกของขุมพลัง) กับสองระดับความแรงในรหัส Cooper C และ Cooper S พร้อมคงเอกลักษณ์การขับขี่ Go-Kart และดีไซน์แบบ Minimal ส่วนตัวถังยังมี 3 ประตูอยู่แบบเดียว
MINI Cooper คงอัตลักษณ์ดีไซน์หน้าท้ายสั้น ผสานกับระยะฐานล้อยาว ด้านหน้าปรับไปใช้กระจังหน้าแบบ 8 เหลี่ยม โดยด้านในเป็นจุดติดตั้งเซนเซอร์เรดาร์ ultrasonic ขนาดเล็กจำนวน 12 จุด ส่วนไฟ LED DRL เป็นวงแหวนด้านในโคมทรงกลมเช่นเคย ด้านหลังมีกราฟฟิกไฟท้ายทรงธงชาติอังกฤษ ในส่วนของระบบไฟสามารถเล่นกราฟฟิกได้ร่วมกับกุญแจ MINI Digital Key Plus เมื่อผู้ใช้งานเดินใกล้เข้ามาในระยะ 3 เมตร ปิดท้ายกับล้อที่มีขนาดให้เลือก 16 – 18 นิ้ว
ห้องโดยสารของ MINI Cooper ติดตั้งหน้าจอสัมผัส OLED ขนาด 240 มิลลิเมตร เครื่องเสียงทำงานร่วมกับ MINI Operating System 9 พร้อมระบบผู้ช่วยเสมือนจริง MINI Intelligent Personal Assistant ที่สั่งการได้ด้วยการพูดว่า Hey MINI ที่แดชบอร์ดซึ่งมักเป็นจุดติดตั้งแผงควบคุมระบบปรับอากาศ กลายเป็นจุดควบคุมหลักทั้งเบรกมือ, ปุ่มควบคุมระบบหลัก, ไฟฉุกเฉิน และปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ เบาะหลังปรับพับได้ในสัดส่วน 60:40 ปรับพื้นที่บรรทุกสัมภาระได้ 210 – 725 ลิตร
ขุมพลังของ MINI Cooper C เป็นเครื่องยนต์เบนซิน แบบ 3 สูบ เทอร์โบ กำลังสูงสุด 156 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 230 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 7.7 วินาที ส่วน MINI Cooper S เป็นเครื่องยนต์เบนซิน แบบ 4 สูบ เทอร์โบ กำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 6.6 วินาที
ช่วงล่างของ MINI Cooper ปรับแต่งมาให้ตอบโจทย์ทั้งความสนุกในการขับขี่ และความสะดวกสบาย รวมถึงระบบความปลอดภัย ส่วนระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่มีการติดตั้ง Safe Exit มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยไม่เพียงแต่แจ้งเตือนผู้ใช้งานที่กำลังจะเปิดประตู แล้วระบบพบว่ามียานพาหนะกำลังวิ่งเข้ามา แต่ระบบจะชะลอการเปิดประตู พร้อมกับส่งสัญญาณไฟเตือนรถยนต์คันอื่นด้วย
MINI Cooper เครื่องยนต์สันดาปรุ่นล่าสุด เปิดตัวเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2024 พร้อมตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายด้วยรุ่นย่อย Essential, Classic, Favoured และ JCW ทั้งยังมีสีสันให้เลือกภายนอกและภายในหลายรูปแบบ ในส่วนของสีหลังคามีให้เลือก 4 สี พร้อมลูกเล่น Multitone Roof ที่นำเทคโนโลยี Spray-Tech มาใช้เพื่อไล่โทนสี 3 สีด้วยกันบนหลังคารถยนต์คันเดียว
ที่มา: MINI