slide 1
slide 1
Image Slide 2
Image Slide 2
previous arrowprevious arrow
next arrownext arrow
Homeข่าวสาร“ฮอนด้า วันเมคเรซ 2024” ปิดฉากสนามสุดท้ายที่ สงขลา กรังด์ปรีซ์

“ฮอนด้า วันเมคเรซ 2024” ปิดฉากสนามสุดท้ายที่ สงขลา กรังด์ปรีซ์

ฮอนด้า วันเมคเรซ 2024” โดย บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนลจำกัด (มหาชน) ปิดฉากอย่างยิ่งใหญ่หลังดวลสนามสุดท้ายที่ สงขลา สตรีท เซอร์กิต โดยผลปรากฏว่าวีธนาศิวณัฐ พงสินนัชอาชัญ นักแข่งจาก PT Autobacs X Mugen Thailand สร้างผลงานเหมาชัยชนะไปทั้ง 2 เรซ คว้าแชมป์ประจำปีโอเวอร์ออลล์

การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ รายการ ฮอนด้า วันเมคเรซ 2024 ดวลความเร็วสนามสุดท้ายเมื่อวันที่ 17-20 ตุลาคมที่ผ่านมา ที่ สนามพีที สตรีท เซอร์กิต จ.สงขลา ภายใต้มหกรรมมอเตอร์สปอร์ต สงขลา กรังด์ปรีซ์ ซึ่งมีแฟนความเร็วเข้าชมกว่าแสนคนตลอดทั้งสุดสัปดาห์ ไฮไลต์อยู่ที่การลุ้นแชมป์ประจำปีแต่ละรุ่นของศึก ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ค วันเมคเรซ ที่ต้องเดินทางมาตัดสินกันที่ สงขลา โดยก่อนแข่งวีธนาศิวณัฐ นำเป็นจ่าฝูงเหนือทีมเมทอย่างบิ๊กฐิติพงศ์ อาจิณภัทรา อยู่ 14 คะแนน โดยฝ่ายหลังทำความเร็วอย่างยอดเยี่ยมตลอดการซ้อมใน 2 วันแรก แต่น่าเสียดายที่รถแข่งประสบปัญหาเครื่องยนต์พัง จนไม่สามารถลงแข่งขันได้

ฮอนด้า วันเมคเรซ 2024

เรซแรกมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 19 ตุลาคมวีธนาศิวณัฐ ภายใต้รถแข่งหมายเลข 39 ได้ออกตัวจากโพล แต่พลาดท่าโดนเต้ยอัฐพล แก้วอาษา จาก บีควิก เรซซิ่ง ขยับขึ้นนำ ทำให้เกมเข้มข้นอย่างมาก จนต้องไปตัดสินถึงรอบสุดท้าย  โดยวีธนาศิวณัฐ อาศัยความแม่นยำไล่แซงอย่างเฉียบขาดคว้าชัยชนะไปครองอย่างสุดมันส์หลังครบ 14 รอบสนาม ด้วยเวลา 22 นาที 19.192 วินาที เหนือเต้ยอัฐพล เพียง 1.334 วินาที ขณะที่อันดับ 3 เป็นของมินนี่สิตาวีร์ เข้าป้ายอันดับ 3 ตามหลัง 6.874 วินาที  ส่วนอันดับ 4 ได้แก่ เกรียงไกร ศุภวาณิชยานนท์ จาก 4K Sharisma by Netwealth ตามหลัง 46.893 วินาที พร้อมคว้าชัยในรุ่นเกียร์อัตโนมัติไปครอง เหนือเบสต์กันตเมศฐ์  จิรโชคชัยวงษ์ จาก AAS Motorsport Pakelo Racing Team ตามหลังผู้ชนะ 52.754 วินาที

เกมเรซ 2 ในวันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา ไม่มีอะไรพลิกผันเมื่อวีธนาศิวณัฐ ออกตัวจากโพลก่อนซิ่งนำม้วนเดียวจบคว้าชัยชนะไปครองแบบเหนือชั้นด้วยเวลา 22 นาที 31.202 วินาที ทิ้งห่างมินนี่สิตาวีร์ อันดับ 2 ถึง 8.854 วินาที ส่วนอันดับ 3 ได้แก่ เกรียงไกร ตามหลัง 41.155 วินาที ตามด้วยอาร์มวิทยาสิทธิ์ พรหมพวก จาก Mugen Thailand Singha RPM ในอันดับ 4 ตามหลัง 43.588 วินาที และ มิตซูฮิโระ เอ็นโดะ นักขับญี่ปุ่นจาก M & K Management Racing ตามหลังร่วม 1 รอบสนาม ในอันดับ 5

ฮอนด้า วันเมคเรซ 2024

จบฤดูกาล 2024 ปรากฏว่าแชมป์ประจำปีในคลาสโอเวอร์ออลล์ ตกเป็นของวีธนาศิวณัฐ ที่กวาดไปทั้งสิ้น 8 โพเดียม 6 ชัยชนะเก็บไปทั้งสิ้น 76 คะแนน คว้าสิทธิ์ร่วมทีม M&K Racing จากประเทศญี่ปุ่น เข้าร่วมการแข่งขันในศึก ENEOS Super Taikyu Series 2024 สนามสุดท้ายระหว่างวันที่ 16-17 พฤศจิกายนนี้ ที่ ฟูจิ อินเตอร์เนชั่นแนล สปีด เวย์ ประเทศญี่ปุ่น ส่วนรองแชมป์ได้แก่ทีมเมทอย่างบิ๊กฐิติพงศ์ มีทั้งสิ้น 42 คะแนน ด้านมินนี่สิตาวีร์ รั้งอันดับ 3 มี 38 คะแนน ขณะที่แชมป์ในคลาสบี เป็นของมินนี่สิตาวีร์ มีทั้งสิ้น 62 คะแนน ตามด้วยบิ๊กฐิติพงศ์ ในอันดับ 2 มี 56 คะแนน ส่วนอันดับ 3 ได้แก่ ภูริมาศ ถินจันทร์ มี 14 คะแนน ด้านแชมป์ในคลาสซีเป็นของ  วีธนาศิวณัฐ เป็บไป 80 แต้มเต็ม ตามด้วยเบสต์กันตเมศฐ์ ในอันดับ 2 มี 46 คะแนน ส่วนอันดับ 3 ได้แก่ ณัฐ อิ่มจิตรปัญญา จาก The Drive มี 36 คะแนน

นอกจากนี้ สุดสัปดาห์ที่ผ่านมายังมีการแข่งขันคลับเรซ ที่รวมรถแข่งไว้มากถึง 30 คัน โดยเรซแรกในวันเสาร์ต้องจบลงด้วยธงแดง ชัยชนะเป็นของ อนันต์ธร ตั้งเนียรนาทชัย ตามด้วย วุฒา ใจสำราญ และ ยุรนันท์ โอฬารประเสริฐ ส่วนเรซที่ 2 ในวันอาทิตย์ ไล่บี้อย่างดุเดือด ชัยชนะยังคงเป็นของ  อนันต์ธร ด้วยเวลา 7 นาที 24.665 วินาที เฉือน หทัย ไชยวรรณ อันดับ 2 เพียง 1.748 วินาที ตามด้วย นันทวัฒน์ ชำนาญ ในอันดับ 3 ตามหลัง 1.768 วินาทีเท่านั้น

บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชนโดย กรังด์ปรีซ์ มอเตอร์สปอร์ต ฝ่ายจัดการแข่งขัน ฮอนด้า วันเมคเรซ ยืนยันอย่างเป็นทางการว่าจะเดินหน้าจัดการแข่งขันต่อสในฤดูกาลหน้า โดยจะมีการปรับเปลี่ยนกฎเทคนิคตัวรถให้มีสมรรถนะสูงขึ้น และรูปแบบด้านต่างๆ ให้สดใหม่มากขึ้น รวมถึงสนามของการแข่งขัน ที่จะประกาศอีกครั้งเร็วๆ นี้

- Advertisement -spot_img
Mitsubishi Mega Deal
Mitsubishi Mega Deal
ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน แบล็ก เอดิชัน
land rover
previous arrow
next arrow
- Advertisement -spot_img
- Advertisement -spot_img

Stay Connected

400,000FansLike
6,955FollowersFollow
153,000FollowersFollow
319FollowersFollow
107,000SubscribersSubscribe

Must Read

Related News