นายวัลลภ เฉลิมวงศาเวช กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ Hyundai กล่าวว่า ยอดขาย 8 เดือน (มกราคม–สิงหาคม) บริษัทมียอดขายรวมอยู่ที่ 3,500 คัน และภายในสิ้นปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 5,000 คันโดยในสถานการณ์ปัจจุบันของภาพรวมตลาดถือได้ว่าเป็นปีที่ยากลำบากที่สุดปีหนึ่งของประเทศไทย
ทั้งนี้ มองว่าในสถานการณ์ปัจจุบันหากภาครัฐต้องการกระตุ้นตลาดรถยนต์ อยากให้กระตุ้นผู้ที่มีกำลังซื้อเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง เนื่องจากหากกระตุ้นในกลุ่มผู้ที่ไม่มีกำลังซื้ออาจจะเกิดปัญหาหนี้วนเวียนไม่รู้จบ โดยมองว่า มาตรการลดหย่อนภาษี จะเป็นส่วนช่วยกระตุ้นได้
“การช่วยอุตสาหกรรมยานยนต์ไม่ใช่แค่เฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเดียว เพราะตอนนี้ก็ช่วยรถยนต์ไฟฟ้าเยอะแล้ว แต่เรายังมีเทคโนโลยีอื่น ๆ อีก ซึ่งมีการเก็บภาษีสรรพสามิตในอัตราที่สูงกว่าซึ่งหากมีมาตรการลดหย่อนภาษีให้ผู้บริโภคก็จะเกิดการสร้างรายได้เข้ารัฐอีกด้วยเช่นกัน”
สำหรับ การตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ในประเทศไทย บริษัทได้มีการตั้งบริษัทใหม่ชื่อ Hyundai Mobility Manufacturing Thailand (HMMT) ซึ่งร่วมกับผู้ประกอบการในประเทศ (Local Partner) โดยเป็นการลงทุนร่วมกันในสัดส่วน ฮุนได 80% และ ผู้ประกอบการในประเทศ 20%
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : Hyundai ทุ่ม 1,000 ล้าน ตั้งฐานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า-ประกอบแบตฯ ในไทย
ขณะที่ โรงงานดังกล่าวจะตั้งอยู่ที่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ บนพื้นที่รวม 28,500 ตร.ม. ซึ่งแบ่งเป็น 2 อาคาร ประกอบไปด้วย อาคารโรงงานประกอบแบตเตอรี่ตั้งแต่ขั้นตอน Module ไปจนกระทั่งการ Pack ซึ่งสามารถประกอบแบตเตอรี่ 800V และอีกอาคารหนึ่งเป็นโรงงานประกอบรถยนต์ไฟฟ้าซึ่งมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 5,000 คัน/ปี โดยคาดว่าจะเริ่มผลิตได้ในปี 2569 เป็นต้นไป โดยเป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศเป็นหลัก
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ บริษัทจะเน้นการปรับภาพลักษณ์แบรนด์ให้มีความหลากหลายเนื่องจากตลอดระยะเวลาการดำเนินธุรกิจ 15 ปีในประเทศไทย แบรนด์ Hyundai มีภาพลักษณ์แบรนด์ในการจำหน่ายรถตู้เพียงอย่างเดียว และเราคุยกับผู้บริโภคกลุ่มเดียวมาโดยตลอด รวมถึงการพัฒนาด้านบริการหลังการขายไปควบคู่กัน