บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย เปิดไลน์การผลิตรถไฮบริดรุ่นล่าสุด ALL NEW MG3 HYBRID+ ที่นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเออีสเทิร์นซีบอร์ด 2 (WHA ESIE 2) จังหวัดชลบุรี บนพื้นที่ทั้งหมด 437.5 ไร่ ที่พัฒนาขึ้นภายใต้งบการลงทุนกว่า 30,000 ล้านบาท มีกำลังการผลิตสูงสุด 100,000 คันต่อปี โดยมีพื้นที่ของโรงประกอบตัวถัง (Body Shop) โรงพ่นสีรถยนต์ (Paint Shop) โรงประกอบรถ (General Assembly Shop) ครอบคลุม ไปถึงส่วนของคลังจัดเก็บอะไหล่เพื่อรองรับรถยนต์ของเอ็มจีทุกรุ่น
ทั้งนี้ รวมถึงพื้นที่ NEW ENERGY INDUSTRIAL PARK โรงประกอบแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าแห่งแรกในภูมิภาคอาเซียน ประกอบด้วยสายการผลิตอัตโนมัติโดยใช้หุ่นยนต์ (Robotic) ในการผลิตเพื่อประกอบแบตเตอรี่ Cell-To Pack ได้สูงสุดมากกว่า 50,000 แพ็คต่อปี
สำหรับ ที่ไลน์ผลิตดังกล่าวได้เริ่มผลิตรถยนต์ไฟฟ้าภายในประเทศไทย เริ่มต้นด้วยโกลบอลโมเดลอย่าง NEW MG4 ELECTRIC และได้ขยายไลน์การผลิตเพื่อรองรับการผลิตรถไฮบริดอย่าง ALL NEW MG3 HYBRID+
นายจ้าว เฟิง กรรมการผู้จัดการบริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด กล่าวว่า การเปิดไลน์ผลิตครั้งนี้ได้ตอกย้ำให้เห็นถึงเทคโนโลยียานยนต์ที่ผสมผสานทั้งระบบเครื่องยนต์สันดาปภายใน และระบบไฟฟ้า เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ ให้สามารถเปลี่ยนผ่านไปสู่ยานยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสอดรับกับทิศทางเทคโนโลยีสมัยใหม่ เป็นอีกหนึ่งเซ็กเมนต์ที่ไทยมีโอกาสเป็นฐานการผลิตระดับโลกได้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ‘บอร์ดอีวี’ เคาะมาตรการลดภาษีรถ HEV คาดหนุนการลงทุน 5 หมื่นล้าน
นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยกับ Autolifethailand ว่า บริษัทได้ใช้เงินลงทุนมูลค่า 750 ล้านบาท เพื่อปรับไลน์ผลิตรองรับการผลิตรุ่นล่าสุดอย่าง ALL NEW MG3 HYBRID+ โดยจากมติคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ดอีวี) ที่มี นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ได้เห็นชอบ “มาตรการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านไปสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า” โดยการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตสำหรับรถยนต์นั่งและรถยนต์โดยสารขนาดที่นั่งไม่เกิน 10 คน แบบไฮบริด (HEV) ซึ่งเป็นเทคโนโลยียานยนต์ที่ผสมผสานทั้งระบบเครื่องยนต์สันดาปภายในและระบบไฟฟ้า ซึ่งมาตรการสนับสนุนการผลิตรถยนต์ ไฮบริด (HEV) จะปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตให้อยู่ในระดับคงที่ในช่วงปี 2571 – 2575 จากเดิมอัตราภาษีจะเพิ่มขึ้น 2% ทุก 2 ปี โดยต้องมีการลงทุนจริงเพิ่มเติม โดยบริษัทผู้ผลิตรถยนต์และ/หรือบริษัทในเครือในประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2567 – 2570 ไม่น้อยกว่า 3,000 ล้านบาท
“จากการลงทุนของบริษัทมูลค่า 750 ล้านบาท เพื่อผลิตรถยนต์ไฮบริดในรุ่น ALL NEW MG3 HYBRID+ สอดคล้องกับมาตรการของรัฐที่ออกมาตรการสนุบสนุนออกมา และระยะเวลาลงทุนของมาตรการ มีความเป็นไปได้ที่จะลงทุนเพิ่มอีก 2,250 ล้านบาท หรือมากกว่าเพื่อเข้าเงื่อนไขของมาตรการดังกล่าวรองรับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ในอนาคต”
นอกจากนี้ การเปิดไลน์ผลิตรถยนต์ในครั้งนี้ ได้รับเกียรติจากคณะผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐ ร่วมเป็นสักขีพยานในการพิธีปล่อยรถ ได้แก่ นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รักษาการรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรม, นายณัฐกร อุเทนสุต ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาระบบการควบคุมทางสรรพสามิต และ นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) พร้อมคณะและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : MG 3 Hybrid+ 194 แรงม้า เปิดราคาในไทย 20 สิงหาคม นี้ ! 2 รุ่นย่อย ราคา 5xx,000 บาท เคลมน้ำมัน 1 ถังวิ่งจริง 970 km.++
ALL NEW MG3 HYBRID+ จะเปิดตัวและประกาศราคาอย่างเป็นทางการในไทย วันที่ 20 สิงหาคม 2567โดยรถยนต์ดังกล่าวถือเป็นอีกหนึ่งรุ่นเรือธงที่ เอ็มจี มุ่งมั่นให้เป็นหนึ่งในยนตรกรรมที่สะท้อนถึงแนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของ เอ็มจี ที่พร้อมผลักดันการผลิตรถไฮบริดแทนที่รถยนต์สันดาปภายใน รองรับการเปลี่ยนผ่านสังคมยานยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มขั้นตามแนวทางของอุตสาหกรรมยานยนต์โลก
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน MG ยังมีการจำหน่ายรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน 2 รุ่น คือ เอ็มจี5 (MG5) และ เอ็มจี แซดเอส (MG ZS) ขณะที่รุ่นอื่น ๆ เป็นรถยนต์พลังงานทางเลือกแล้วทั้งหมด