บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย เปิดเกมรุกตลาดรถหรูตั้งแต่ต้นปี ด้วยการเปิดตัว BMW 320d M sport รุ่นประกอบในประเทศ (CKD) ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2563 ในราคาต่ำกว่ารุ่นนำเข้า (CBU) ถึง 5 แสนบาท โดยมีราคาค่าตัวอยู่ที่ 2.459 ล้านบาท แต่ลูกค้าได้ชุดแต่ง M ออปชั่นเพิ่มเพียบ แถมBSI อีก 5 ปีเพิ่มการรับประกันเป็น5ปีไม่จำกัดระยะทาง
BMW 320d M sport คือรถที่ บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย นำมาประกอบในประเทศไทย เป็นรุ่นแรกหลังจากที่เปิดตัว BMW 3-Series 2019 รหัสตัวถัง G20 ใหม่ ที่ถือเป็นเจเนอเรชั่นที่ 7 ต่อจากโฉม F30 ที่เลิกผลิตไปแล้ว ไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว (2562) ซึ่งการเปิดตัวในครั้งนั้น บีเอ็มฯ ประเทศไทย นำเข้า BMW 3-Series ใหม่มาทำตลาด 2 รุ่นด้วยกันคือBMW 330i M Sport และ BMW 320d Sport
ในวันนั้น บีเอ็มฯ ประเทศไทย ตั้งราคา BMW 3-Series รุ่นนำเข้าทั้ง 330i M Sport ไว้ที่ 3,359,000 บาท และ BMW 320d Sport ไว้ที่ 2,959,000 บาท
ซึ่งด้วยราคาดังกล่าวได้สร้างความ “สะเทือนใจ” ให้กับตัวแทนจำหน่ายไม่น้อย เพราะเป็นราคาที่ค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับคู่แข่งคนสำคัญอย่าง เมอร์เซเดส เบนซ์ E-Class ที่จำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ C 220d Avantgarde ที่ราคา 2,349,000 บาท ขณะที่ รุ่น C 220d Exclusive ราคา 2,680,000 บาท และรุ่นท็อปสุดคือ C 220d AMG Dynamic ราคาอยู่ที่ 2,890,000 บาท เท่านั้น
เมื่อราคารุ่นนำเข้าไม่สามารถฝ่ากระแสการแข่งขันได้อย่างเห็นได้ชัด บีเอ็มฯ ประเทศไทย จึงจำเป็นต้องนำ BMW 3-Series มาประกอบในประเทศเพื่อ “ทำราคา” ให้สามารถแข่งขันได้ และ BMW 320d คือตัวเลือกนั้น เนื่องจากตลาดรถกลุ่มนี้เครื่องยนต์ดีเซล ยังคงเป็นเครื่องยนต์ที่ได้รับความนิยม ทั้งในเรื่องของความประหยัดและคงทน
ประกอบกับคู่แข่งคือเมอร์เซเดส เบนซ์ก็ใช้เครื่องยนต์ “ดีเซล” เป็นรุ่นเริ่มต้นสำหรับบุกตลาดนี้ เพราะเมื่อหันไปมองรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริดอย่าง C 300e (CKD) ราคาเริ่มต้นก็ขยับไปที่ 2,699,000 บาท-3,215,000 บาท
ดังนั้น การเริ่มต้นรุ่นประกอบในประเทศของ BMW 3-Series ใหม่ จึงเริ่มต้นที่เครื่องยนต์ดีเซลในราคาที่ลูกค้าจับต้องได้ คือราคา 2.495 ล้านบาท ลดลงมาจากรุ่นนำเข้าสูงถึง 5 แสนบาท
นอกจากราคาที่ลดลงมาแล้วทาง บีเอ็มฯ ประเทศไทย ยังจับชุดแต่ง M และช่วงล่าง M ยัดใส่เข้าไปในเจ้า 320dให้กลายร่างเป็น 320d M sport เรียกว่าเอาให้หล่อเพิ่มขึ้นในราคาที่ลดลง
นอกจากชุดแต่ง M แล้ว option ที่ถูกเพิ่มเข้าไปใน 320d M sport ก็คือ option ที่ใส่ไว้ใน 330i M Sport นั่นเอง ไม่ว่าจะเป็น
–ไฟหน้า LED พร้อมฟังก์ชั่นส่องสว่างขณะเลี้ยวโค้ง
–ไฟตัดหมอก LED
–คาลิเปอร์เบรก M Sport
–ระบบนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ และกล้องมองหลัง (Parking Assistant with Rear View Camera)
–ระบบเปิด–ปิดกระโปรงท้ายไฟฟ้า
–พวงมาลัยหุ้มหนังดีไซน์ M Sport
–ภายในตกแต่งด้วยอลูมิเนียมลาย Tetragon
–มาตรวัด BMW Live Cockpit Professional (M) ขนาด 12.3 นิ้ว
–หน้าจออินโฟเทนเม้นท์ขนาด 10.25 นิ้ว
-iDrive 7.0
–ระบบเสียงรอบทิศทาง ไม่ใช่ของ Harman Kardon แต่เป็น Hifi loudspeaker
–ส่วนระบบชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย ไม่มีใน 320d M sport
ที่สำคัญ บีเอ็มฯ ประเทศไทย ยังเพิ่มแพกเกจการรับประกันจาก 3 ปี เป็น 5 ปี แบบไม่จำกัดระยะทางอีกด้วย และเพิ่มระยะเวลาการบริการดูแลรักษา (BSI) สูงสุด 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร ให้อีกด้วย
ขณะที่เครื่องยนต์ เป็นเครื่องยนต์รุ่นเดิมคือ เครื่องยนต์ดีเซล BMW TwinPower Turbo แบบ 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน–เมตร ที่ 1,750-2,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Steptronic อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. อยู่ที่ 6.8 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 240 กม./ชม. มีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยบน ECO Sticker อยู่ที่ 21.7 กม./ลิตร
และเชื่อว่าอีกไม่นาน บีเอ็มฯ ประเทศไทย จะต้องเปิดตัว 330e เพื่อมาขับเคี่ยวกันในตลาดนี้อีกอย่างแน่นอน ไม่นานเกินรอได้เห็นกันแน่ๆ