นาย บี. โกวินดาราจัน ราจัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรยัล เอ็นฟีลด์ (Royal Enfield) เปิดเผยว่า บริษัทใช้เงินลงทุนมูลค่ากว่า 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 50 ล้านบาท) ในการตั้งโรงงานประกอบรถมอเตอร์ไซค์ในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นโรงงานแห่งแรกที่ โรยัล เอ็นฟีลด์ เป็นเจ้าของและดำเนินการเองในประเทศไทย และเป็นแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และเป็นแห่งที่ 6 นอกประเทศอินเดีย ต่อจาก อาร์เจนตินา, โคลอมเบีย, บราซิล, บังกลาเทศและเนปาล
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : Royal Enfield แย้มแผนลงทุนใหญ่ในไทย มั่นใจยอดขายปีนี้โตสวนตลาด
สำหรับโรงงานแห่งนี้ตั้งอยู่ในโครงการบางกอกฟรีเทรดโซน (BFTZ) จ.สมุทรปราการ โดยเช่าพื้นที่โรงงานสำเร็จรูปและนำเข้าเครื่องจักรพร้อมเทคโนโลยีเข้ามาติดตั้ง บนพื้นที่รวม 5,200 ตารางเมตร กำลังการผลิตรวม 30,000 คัน/ปี โดยเริ่มต้นจะผลิตเพื่อรองรับตลาดในประเทศไทยเป็นหลัก ก่อนที่จะขยายการส่งออกไปยังภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกตามลำดับ
“การประกาศการลงทุนครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยส่งเสริมธุรกิจของบริษัทในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และตอกย้ำถึงความเชื่อมั่นของ Royal Enfield ที่มีต่อประเทศไทย โรงงานแห่งใหม่นี้นับเป็นโรงงานประกอบระบบ CKD (Completely Knocked Down) แห่งที่ 6 ของ โรยัล เอ็นฟีลด์ และหลังจากนี้โรงงานในประเทศไทยจะมีการประกอบมอเตอร์ไซค์ทุกรุ่นของแบรนด์”
อย่างไรก็ตาม ภายหลังการเปิดตัว รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า Flying Flea ที่งาน EICMA 2024 ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของแบรนด์ โดยมี 2 รุ่น ได้แก่ Flying Flea C6 ดีไซน์คลาสสิก และ Flying Flea S6 สไตล์สแครมเบลอร์ โดยมีแผนที่จะเปิดตัวในประเทศไทยในช่วงปี 2569
ขณะที่ มองว่าทิศทางการพัฒนารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเป็นเรื่องการนำเสนอเทคโนโลยีแห่งอนาคต ซึ่งจะต้องประกอบด้วยหลายองค์ประกอบที่สนับสนุนให้ได้รับความนิยมในวงกว้าง อาทิ การสนับสนุนด้านภาษีของภาครัฐ, ระยะทางการวิ่งต่อการชาร์จ รวมถึงฟีลลิ่งในการขับขี่ที่ได้เช่นเดียวกับรถจักรยานยนต์สันดาปภายใน
ทั้งนี้ บริษัทได้มีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ในทุกมิติตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทั้งรถจักรยานยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในและรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นเทรนด์ของโลกที่ปฏิเสธไม่ได้ในวันนี้