รถไฟฟ้า หรือ รถ EVในวันนี้ ได้กลายเป็นพาหนะที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง และไม่ใช่เรื่องที่ “ไกลตัว” ของผู้บริโภคอีกต่อไปแล้ว ค่ายรถยนต์หลายต่อหลายค่ายต่างนำเสนอผลิตภัณฑ์รถ EV เข้าสู่ตลาดรถยนต์บ้านเรากันเป็นว่าเล่น
ในวันนี้เรามีโอกาสเห็นรถ EV ราคาตั้งแต่ 390,000 บาท ไปจนถึงรถ EV ราคาเกือบ 10 ล้านบาท ในตลาดรถยนต์เมืองไทย
และรถไฟฟ้าแต่ละรุ่นต่างมีจุดเด่นของตัวเองทั้งสิ้น แต่จุดเด่นส่วนใหญ่ของรถไฟฟ้าแต่ละรุ่นจะเน้นไปที่ ระยะทางการวิ่งต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้งรวมถึง option ที่ใส่เข้ามาในตัวรถ แต่ในเรื่องของรูปร่างหน้าตานั้น ก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละบุคคล
แต่เราจะหารถไฟฟ้าที่มี “ความเป็นสปอร์ต” ในตัวเองโดยที่ไม่ต้องมา “แต่งหน้าทาปาก” ให้ มากขึ้นยากเต็มที แถมควรจะต้องมีระยะทางวิ่งได้ไกลยิ่งดี
มองกวาดตาไปในตลาดรถ EV ผมก็เห็นแค่ ORA GOOD CAT GT จากค่าย GWM เพียงรุ่นเดียวเท่านั้น ที่มีดีไซน์สปอร์ตโฉบเฉี่ยวไม่แพ้ใครในตลาด ที่บอกได้เลยว่า คุณไม่ต้องแต่งอะไรเพิ่มแล้ว หากคุณได้เป็นเจ้าของ แมวไฟฟ้า สปอร์ต คันนี้ แถมวิ่งได้ไกล 500 ก.ม./ชาร์จ อีกต่างหาก
และที่น่าปรบมือให้คือ เจ้าแมวไฟฟ้าคันนี้ ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาจาก ORA GOOD CAT รุ่นธรรมดาที่แสนมุ้งมิ๊ง สาวๆ เห็นเป็นต้องชอบ เป็นต้องมองเหลียวหลัง แต่พอมาใส่ชุดแต่ง GT รอบคันทั้งภายในภายนอก แล้วเจ้ารถไฟฟ้าคันนี้จะกลายเป็นรถไฟฟ้าพันธุ์ดุ พันธุ์เท่ ของผู้ชายสายสปอร์ต ได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ผมสะดุดตาตั้งแต่ กระจังหน้าแบบสปอร์ตลายคาร์บอนไฟเบอร์ ที่ทำให้แมว กลายเป็นเสือได้อย่างไม่ยากเย็น รวมถึงสปอยเลอร์ดีไซน์โฉบเฉี่ยวพร้อมตราสัญลักษณ์ GT ด้านหลัง ยิ่งทำให้รถคันนี้ ดูดุดันมากขึ้นอีกเป็นกอง แถมรองเท้าคู่สวย ที่เป็นล้ออัลลอยทูโทนขนาด 18 นิ้ว มาพร้อมกับดิสก์เบรค คาลิปเปอร์สีแดง
โคตรดุ!! เลย
และยังมีสีพิเศษ อะควาเกรย์ (Aqua Grey) ที่มีเฉพาะรุ่น GT อีกด้วย ก็ยิ่งทำให้รถคันนี้โดดเด่นมากขึ้น เวลาวิ่งอยู่บนท้องถนนทั่วไป หรือหากใครอยากจะหล่อมากกว่านี้ ก็สามารถหาชุดแต่ง มาแต่งเติมความหล่อ เพิ่มสะท้อนความเป็นตัวของคุณได้ไม่ยากอีกด้วย
และที่ผมชอบคือ ความเท่ ความสวยขที่ไม่ได้มีแค่ภายนอกเท่านั้น แต่ภายในยังมีความเป็นสปอร์ตตามไปอีกด้วย
ตั้งแต่สีสันของภายในที่เป็นแบบทูโทนสีดำและสีแดงเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตั้งแต่พวงมาลัย เบาะนั่ง คอนโซล ไปจนถึงพนักพิงศีรษะที่มีตราสัญลักษณ์ GT และเข็มขัดนิรภัยสีแดง!! ตรงนี้บอกได้เลยว่าลงตัวมาก และยังคิดไม่ออกว่าจะไปแต่งอะไรเพิ่มอีก เพราะที่ GWM ให้มาก็ลงตัว และดูสปอร์ตไม่น้อยแล้วนะ โดยเฉพาะพนักพิงศีรษะที่มีตราสัญลักษณ์ GT เหมือนกับรถสปอร์ตยุโรปเหมือนกันนะเนี่ยะ
ส่วนเครื่องเสียง และหน้าจอกลางนั้น หากไม่ใช่หูเทพจริงๆ พอนะ เพราะหน้าจอแบบ Interactive Double Screen พาดยาวบริเวณคอนโซลของตัวรถ มีขนาด 17.25 นิ้ว ความละเอียดสูง แบ่งออก 2 หน้าจอ คือ หน้าจอแสดงผลการขับขี่แบบดิจิทัล (Full TFT) ขนาด 7 นิ้ว และหน้าจอระบบมัลติมีเดียพร้อมระบบสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว บอกเลยว่ายังไม่มี หน้าจอเครื่องเสียงแบบ third party ยี่ห้อไหน มีหน้าจอใหญ่ขนาดนี้แน่ๆ แถมถ้าไปทำเครื่องเสียงใหม่ เวลาติดตั้งแล้ว จะลงตัวกับคอนโซลของรถหรือเปล่าด้วย ส่วนลำโพงทีติดมากับรถนั้นมารอบทิศทาง จำนวน 6 ตัว เหลือๆ
วัสดุภายในห้องโดยสาร แม้ว่าจะไม่เนี้ยบเท่ากับ มาสด้า ที่ถือว่าเป็นรถยนต์ระดับกลางที่มีวัสดุภายในดีที่สุดในคลาสแล้ว วัสดุภายในอยู่ในเกณฑ์ที่ใช้ได้เลยทีเดียว นุ่มๆมือทีเดียว
เบาะนั่งก็นั่งสบายระดับนึงนะ แถมมีระบบเบาะนวดไฟฟ้าและระบบระบายอากาศให้กับผู้ขับอีกด้วย และปรับด้วยไฟฟ้าได้ 6 ทิศทาง มาพร้อมระบบบันทึกตำแหน่ง อันนี้ผมชอบนะ แต่เบาะผู้โดยสารหลังเบาะสั้นไปหน่อย นั่งไกลๆ นานๆ อาจจะเมื่อยได้ แต่ในเรื่องความกว้างขวางภายในห้องโดยสารใช้ได้ พนักพิงเบาะด้านหลังพับได้แบบ 60:40 อีกด้วย
นั่งสบายอย่างเดียวไม่พอ มีเท่ ด้วยหลังคาพาโนรามิคซันรูฟอัจฉริยะ เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า รับชมวิวกันไปเพลินๆ แต่ต้องรับมือกับไอร้อนที่เข้ามาด้วยนะ
ความสปอร์ตของรุ่น GT ถ้ามีแค่ ภายนอก กับ ภายใน ก็ไม่ได้น่าสนใจอะไรมากนัก แต่ความเป็นสปอร์ตของรถคันนี้ยังรวมไปถึง สมรรถนะการขับขี่ ที่แตกต่างจากรุ่นปกติอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นกำลังสูงสุด 171 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร ความเร็วสูงสุด 152 กม./ชม. อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 8.5 วินาที (ด้วยระบบขับขี่แบบสปอร์ต) และมีระบบขับขี่ทั้งหมด 5 แบบ ได้แก่ 1) มาตรฐาน 2) สปอร์ต 3) ECO 4) ECO+ และ 5) อัตโนมัติ ซึ่งผู้ขับขี่สามารถปรับได้เองตามความต้องการและลักษณะการขับขี่
ขับแรงแล้วงัย?? ถ้าช่วงล่างไม่ได้ถูกปรับให้รองรับการขับขี่แบบสปอร์ต แต่รถคันนี้ยังถูกปรับแต่งช่วงล่างใหม่ ด้วยการเสริมระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระแมคเฟอร์สันสตรัท (MacPherson Strut) พร้อมเหล็กกันโคลง และระบบช่วงล่างด้านหลังแบบทอร์ชันบีม (Torsion Beam) บน GWM LEMON E PLATFORM ที่เป็นแพลตฟอร์มที่ถูกพัฒนาเพื่อใช้งานกับรถไฟฟ้า (BEV)
นี่แหละที่ชอบ ช่วงล่างมันต้องสปอร์ต ด้วยสิ ถึงจะใช่ ไม่ใช่สปอร์ตแต่หน้าตา ไม่ใช่!! ช่วงล่างของรุ่น GT หนึบ แน่น ใช้ได้ แต่ก็มีแอบกระด้างๆ หน่อย เหมาะกับวัยรุ่น วัยทำงานที่ชอบช่วงล่างรถยนต์แบบกระด้างนิดๆ แต่ไม่ถึงกับกระเด้งกระดอนนะ เหมาะกับขับแบบสปอร์ตจริงๆ พวงมาลัยแม่นมากครับ ไว้ใจได้เลย
รถสวย หน้าตาสปอร์ต ขับแรง ขับเร็ว คือที่สุดหรือเปล่า ต้องบอกว่าไม่ใช่ เราต้องมาดูเรื่อง ระบบความปลอดภัยรอบคันด้วยว่า มีอะไรมาให้เราบ้าง ทั้งระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ (Auto Reversing Assistance) ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ 3 รูปแบบ (Integrated Intelligent Parking) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ (Adaptive Cruise Control with Intelligent Cornering) กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา (360° Surround Camera) และระบบช่วยเบรกฉุกเฉินบนทางตรงและทางแยก (Auto Emergency Braking + Intersection) ว้าววว
ผมเองลองขับรุ่น GT นี้มาแล้วทั้งระยะใกล้ ระยะไกล ต้องบอกเลยว่า เป็นรถ EV สายสปอร์ต ที่ไม่ได้มีดีแค่สวย กับสปอร์ต เท่านั้นนะครับ แต่ในวันที่คุณไม่ได้ขับซิ่ง ขับซ่า คุณก็ยังสามารถใช้เจ้า GT ในแบบรถ EV ธรรมดาๆ ชาร์จครั้งเดียว ขับไกล 500 ก.ม. สบายๆ
รถ EV สวย สปอร์ต ปลอดภัย แต่งสวยแต่งหล่อได้ตามสไตล์ตัวคุณ แถมวิ่งได้ไกล 500 ก.ม. ORA GOOD CAT GT คือหนึ่งในทางเลือกของคุณครับ
และหากแฟนๆ ท่านใดสนใจรถไฟฟ้า ORA GOOD CAT GT ละก็ ช่วงนี้เป็นโอกาสที่ดีมาก Motor Expo 2022 นี้ท่านจะได้พบกับ ORA GOOD CAT GT สีใหม่นั่นคือ Halmilton White จากเดิมที่เราจะมีแต่สี aqua grey ซึ่งสีขาวใหม่นี้ น่าจะถูกใจวัยรุ่นสายซิ่งไม่น้อย เพราะสีขาว halmilton white นั้นเป็นพื้นสีขาวพอแต่งกับชุดแต่ง GT แล้วบอกคำเดียว ดุแบบเท่ๆ ในสไตล์รักสะอาดเสียด้วย
ที่สำคัญยังสามารถจับจองได้ในราคาเดิมคือ 1,286,000 บาท (ราคาหลังหักส่วนลดภาษีรัฐบาล)
นอกจากนี้ภายในงาน Motor Expo 2022 แฟนๆ ยัง ORA GOOD CAT ในทุกแบบ ไม่ว่าจะเป็น ORA GOOD CAT สีเขียวใหม่ Pistachio Green และพิเศษครั้งแรกกับการเผชิญหน้ากับ ORA Grand Cat รถแมวเหมียวไฟฟ้า ซีดาน แสนแรง เป็นครั้งแรกในไทยอีกด้วย