Volvo XC90 มีรุ่น Facelift ตามมาเสริมทัพแล้ว โดยพร้อมเปิดรับจองแล้วในยุโรป ตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน 2024 และจะมีการทยอยเปิดตัวในแต่ละตลาดต่อไป ส่วนกำหนดการผลิตจะมีขึ้นในช่วงปลายปี 2024 และพร้อมเริ่มส่งมอบรถยนต์ ภายในปลายปีนี้ ด้านความเปลี่ยนแปลงไม่ได้มีแค่ดีไซน์ภายนอกเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงภายในด้วย เริ่มต้นกับห้องโดยสารที่เก็บเสียงดีกว่าเดิม จากการเพิ่มวัสดุซับเสียงในหลายจุด
Volvo XC90 Facelift ปรับแดชบอร์ดใหม่รวมถึงช่องแอร์แนวตั้ง ทั้งยังปรับนำวัสดุรีไซเคิลแบบใหม่มาใช้ รวมถึงมีไฟเรืองแสงเพิ่มความพรีเมี่ยมยามค่ำคืน คอลโซลเกียร์เปลี่ยนใหม่ตามความเห็นลูกค้า ทั้งเพิ่มช่องเก็บของรวมถึงที่วางแก้ว พร้อมกับย้ายแท่นชาร์จไร้สายไปอยู่หน้าเกียร์ ช่วยให้ใช้งานง่ายและเป็นสัดส่วนขึ้น เครื่องเสียงเป็นของ Bowers & Wilkins High Fidelity ทั้งยังมีการปรับหน้าจอสัมผัสแบบใหม่ ให้มีขนาดใหญ่ขึ้นและมีความละเอียดสูงขึ้น
ขุมพลังของ Volvo XC90 Facelift มีให้เลือกด้วยกันสามแบบ ดังรายละเอียดโดยสังเขปดังนี้
- แบบ Mild Hybrid ทั้งรหัส B5 และ B6 ทำงานร่วมกับแบตเตอรี่ lithium-ion ขนาด 48 โวลต์และ integrated starter / generator ช่วยลดอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงและการปล่อยมลพิษลง 15%
- แบบ Plug-in Hybrid รหัส T8 สามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างเดียว เป็นระยะทางสูงสุด 70 กิโลเมตร และหากเชื้อเพลิงเต็มถังทั้งสองแบบ จะขับได้ไกลสุดมากกว่า 800 กิโลเมตร ตัวเลขทั้งสองแบบอ้างอิงตามมาตรฐาน WLTP
ช่วงล่างของ Volvo XC90 Facelift ยังปรับปรุงใหม่โดยโช๊คอัพแต่ละต้น สามารถปรับการตอบสนองได้ตามสภาพถนน ตอบโจทย์ทั้งความสบายและเกาะถนน ทั้งยังสามารถติดตั้งช่วงล่างถุงลมได้ โดยทำงานร่วมกับแชสซีส์ด้วยความถี่ 500 ครั้งต่อวินาที เพื่อความนุ่มนวลสูงสุดและยังสามารถปรับระดับได้ โดยลดลงสูงสุด 20 มิลลิเมตร หรือปรับขึ้นสูงสุด 40 มิลลิเมตร
ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ยังคงเป็นผู้นำสมชื่อค่าย โดย Volvo XC90 Facelift มีทั้งกล้องมองภาพด้านหน้าและเรดาร์ เพื่อใช้ในการทำงานร่วมกับระบบดึงพวงมาลัยกลับเข้าช่องจราจร หากพบว่ากำลังขับสวนเลน รวมทั้งยังสามารถลดความเร็วพร้อมหักหลบได้ หากตรวจพบยานพาหนะคันอื่น, คนเดินถนน, จักรยาน และสัตว์ขนาดใหญ่รวมถึงกวางมูส
ที่มา: Volvo