หลังจากประเดิมตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเป็นครั้งแรกของค่าย Porsche ในช่วงปลายปี 2019 และกวาดยอดขายสะสมทั่วโลกไปมากกว่า 150,000 คัน ล่าสุด เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2024 บริษัทได้เปิดตัว Porsche Taycan Facelift โดยไม่ได้มีเพียงแต่ความเปลี่ยนแปลงภายนอกและภายใน แต่ยังรวมไปถึงการปรับปรุงสมรรถนะอย่างรอบด้านทั้งเบาลง, แรงขึ้น และขับขี่ได้ไกลกว่าเดิม
Porsche Taycan Facelift ปรับโคมไฟหน้าใหม่ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง โดยไฟหน้าจะดูเพรียวลงช่วยให้ตัวถังดูกว้างขึ้น เสริมด้วยเทคโนโลยี HD marix และไฟ LED 4 จุด ส่วนไฟท้ายมีโลโก้แบรนด์อยู่ด้านใน ดีไซน์ให้ดูสามมิติและกระจกครอบอยู่ด้านนอก ทั้งยังมีกราฟฟิกเล่นกับผู้ใช้งาน ทั้งต้อนรับและลาจากเป็นครั้งแรก ล้อเปลี่ยนลายใหม่ขนาด 21 นิ้ว ในรุ่น Turbo และ Turbo S แตกต่างจากรุ่นอื่นด้วยการใช้สีเทา Turbonite ตกแต่งรอบคัน
ห้องโดยสารของ Porsche Taycan Facelift ปรับใหม่หลายจุดทั้งมาตรวัด, คอลโซลกลาง และหน้าจอแสดงผลฝั่งผู้โดยสาร ปุ่มกดบนพวงมาลัยยังปรับใหม่ ส่วนรุ่นที่มี Chrono package และ Performance Battery Plus จะเพิ่มปุ่ม push-to-pass เพิ่มกำลังสูงสุดอีก 95 แรงม้า เป็นเวลา 10 วินาที ก้านพวงมาลัยมาปุ่มปรับใหม่ไว้คุมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ส่วน Apple CarPlay ยังเชื่อมต่อเข้ากับรถยนต์ให้ทำงานและแสดงผลได้หลากหลายแบบมากขึ้น
ขุมพลังของ Porsche Taycan Facelift เป็นระบบไฟฟ้า EV มีให้เลือกสี่แบบเช่นเคย พร้อมทางเลือกทั้งระบบขับเคลื่อนล้อหลังและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ เบื้องต้นมีการระบุรายละเอียดบางส่วนดังนี้
- Taycan กำลังสูงสุดมากกว่ารุ่นก่อน 82 แรงม้า ทำอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 4.8 วินาที เร็วกว่ารุ่นก่อน 0.6 วินาที
- Taycan Turbo S กำลังสูงสุดเมื่อใช้ Launch Control 952 แรงม้า มากกว่ารุ่นก่อน 190 แรงม้า ทำอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 2.4 วินาที เร็วกว่ารุ่นก่อน 0.4 วินาที
แบตเตอรี่ของ Porsche Taycan Facelift เพิ่มขึ้นจาก 93 เป็น 105 kWh เฉพาะรุ่น Performance Battery Plus ส่งผลให้ระยะทางขับขี่สูงสุดเพิ่มเป็น 678 กิโลเมตร สูงจากเดิม 175 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP การชาร์จยังรองรับขนาด 800 โวลต์ DC กำลังสูงสุด 320 kW มากกว่ารุ่นก่อนหน้า 50 kW เวลาในการชาร์จจึงรวดเร็วขึ้นแม้ขนาดแบตจะใหญ่ขึ้นจากเดิม โดยรุ่นก่อนหน้าที่อุณหภูมิ 15 องศาเซลเซียส การชาร์จไฟจาก 10 – 80% จะใช้เวลา 37 นาที แต่ในรุ่นใหม่ภายใต้เงื่อนไขเดียวกันทั้งหมด เวลาที่ใช้จะลดเหลือเพียง 18 นาที
Porsche Taycan Facelift ติดตั้งระบบช่วงล่าง Adaptive Air Suspension เป็นมาตรฐาน แม้อุปกรณ์มาตรฐานจะเพิ่มขึ้นมาก แต่น้ำหนักรถยนต์ลดลง 15 กิโลกรัม ส่วนหนึ่งมาจากแบตเตอรี่ที่เบาลง แม้จะความจุมากขึ้น Porsche Taycan Facelift จะยังคงมีให้เลือก 3 แบบตัวถังเช่นเคยทั้ง Taycan, Taycan Cross Turismo และ Taycan Sport Turismo ส่วนกำหนดการเริ่มส่งมอบที่เยอรมนี จะเริ่มขึ้นในฤดูใบไม้ผลิ 2024 หรือราวเดือนมีนาคม – มิถุนายนนี้
ที่มา: Porsche