BYD Seal (MY2025)
BYD Seal (MY2025) เปิดตัวแล้วที่มาเลเซีย โดยความเปลี่ยนแปลงภายนอก เริ่มจากสีตัวถังที่ปลดระวางสีฟ้าอ่อน Arctic Blue และ แทนที่ด้วยสีใหม่อย่างสีเทา Shark Grey รวมเป็นทั้งหมด 4 สี ประกอบด้วย สีดำ Cosmos Black, สีขาว Aurora White และ สีฟ้า Atlantis Grey ล้อเปลี่ยนลายใหม่ขนาด 19 นิ้ว รัดด้วยยางขนาด 235/45 R19 ในรุ่นย่อย Performance เพิ่ม คาลิปเปอร์เบรกหน้าหลังสีแดง
ห้องโดยสารของ BYD Seal เพิ่มม่านบังแดด เลื่อนเปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้าสำหรับหลังคา Panoramic Roof ที่ลูกค้าต้องการ พร้อมกับเพิ่มที่เก็บแว่นตามาให้ฝั่งคนขับ และ เพิ่มระบบ Bluetooth เพื่อใช้มือถือแทนกุญแจรถ เสริมจากของเดิมที่มี NFC Key Card ด้านประโยชน์ใช้สอย เพิ่มความจุพื้นที่เก็บของใต้ฝากระโปรงหน้าจากเดิม 50 เป็น 53 ลิตร ส่วนอุปกรณ์อื่นคงเดิม ทั้งมาตรวัดขนาด 10.25 นิ้ว, หน้าจอสัมผัสขนาด 15.6 นิ้ว และ เครื่องเสียง Dynaudio 12 ลำโพง นอกจากนี้ BYD Seal ยังได้ระบบช่วงล่างใหม่ Adaptive FSD suspension DiSus-C
สรุปความเปลี่ยนแปลงของ BYD Seal (MY2025)
- เปลี่ยน ช่วงล่างใหม่ Adaptive FSD suspension DiSus-C
- เพิ่ม ม่านหลังคา เลื่อนเปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า
- เปลี่ยน ล้อ 19 นิ้ว ดีไซน์ใหม่
- เพิ่ม ระบบกุญแจ Bluetooth Key
- ยกเลิก สีตัวถังภายนอก สีฟ้าอ่อน Arctic Blue
- เพิ่ม สีตัวถังภายนอก สีเทา Shark Grey
Powertrain ขุมพลัง
ขุมพลังของ BYD Seal คงเดิมกับระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า100% EV ที่มาพร้อมแบตเตอรี่ LFP Blade ขนาด 82.56 kWh รองรับการชาร์จด DC สูงสุด 150 kW ใช้เวลาในการชาร์จจาก 30 – 80% ใน 32 นาที
Premium
มอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว พละกำลังสูงสุด 313 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 360 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหลัง RWD Rear-Wheel Drive
- อัตราเร่ง 0 – 100 km/h ใน 5.9 วินาที
- วิ่งระยะทาง 570 กิโลเมตร (WLTP)
Performance AWD
มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว พละกำลังสูงสุด 530 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 670 นิวตันเมตร ขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD All-Wheel Drive
- อัตราเร่ง 0 – 100 km/h ใน 3.8 วินาที
- วิ่งระยะทาง 520 กิโลเมตร (WLTP)
ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ใน BYD Seal คงเดิม ทั้งระบบลดความเร็วโดยอัตโนมัติเมื่อเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ, ระบบล็อคความเร็วอัตโนมัติ แปรผันตามรถยนต์คันหน้า, ระบบรักษาตำแหน่งให้อยู่กึ่งกลางช่องจราจร และ กล้องมองภาพรอบคัน สำหรับราคาจำหน่ายในมาเลเซียอยู่ที่ 171,800 ริงกิต (ราว 1,311,000 บาท) ในรุ่น Premium และ 191,800 ริงกิต (ราว 1,464,000 บาท) ในรุ่น Performance โดยราคารุ่นใหม่ของทั้ง 2 รุ่นย่อย ถูกกว่ารุ่นก่อนหน้า 8,000 ริงกิต (ราว 61,000 บาท)
สำหรับในไทย BYD Seal ยอดจดทะเบียนเหลือระดับไม่ถึงร้อยคันต่อเดือน ต้องรอติดตามกันว่า รุ่นนี้ยังทำตลาดต่อไหม ?! หรือ รุ่นใหม่กำลังจะเข้ามา
ที่มา: BYD / เรียบเรียงข้อมูลทั้งหมดโดย www.autolifethailand.tv