slide 1
slide 1
Image Slide 2
Image Slide 2
previous arrowprevious arrow
next arrownext arrow
Homeข่าวสารข่าวรถยนต์BYD เปิดตัวระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่แบบล่าสุด God’s Eye พร้อมติดตั้งในทุกรุ่นของค่ายที่จีน

BYD เปิดตัวระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่แบบล่าสุด God’s Eye พร้อมติดตั้งในทุกรุ่นของค่ายที่จีน

ก่อนหน้านี้ BYD ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในจีนว่า ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ยังเป็นรองจากค่าย startup ค่ายอื่น จนกระทั่งวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2025 ทาง BYD ได้เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด God’s Eye หรือ เนตรของพระเจ้า โดย Wang Chuanfu ตำแหน่ง Chairman ของ BYD ระบุว่าบริษัทมีฐานข้อมูล car cloud ขนาดใหญ่ที่สุดของจีน ทั้งยังมีวิศวกรราว 110,000 คน ในมือ โดย 5,000 คนในนี้ รับผิดชอบด้านเทคโนโลยีขับขี่อัจฉริยะทั้งสิ้น และในปี 2024 ได้มีการทดสอบระบบ ADAS สูงถึง 72 ล้านกิโลเมตรต่อวัน

ทั้งหมดนี้ นำไปสู่การพัฒนาเทคโนโลยี God’s Eye โดยบริษัทเชื่อมั่นว่าในอีก 2 – 3 ปีนับจากนี้ ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่จะเป็นปัจจัยที่สำคัญมาก ที่ผู้บริโภคพิจารณาเวลาซื้อรถยนต์ BYD จึงพร้อมที่จะติดตั้งเทคโนโลยีดังกล่าวในรถยนต์ทุกรุ่นของค่าย ไม่เว้นแม้แต่รุ่นเริ่มต้นอย่าง Seagull ซึ่งมีผลไม่น้อยกว่า 21 รุ่น โดยในแต่ละรุ่นจะมีขีดความสามารถลดหลั่นกัน เนื่องจาก God’s Eye มี 3 ระดับด้วยกัน ดังรายละเอียดต่อไปนี้

God’s Eye C เป็นระดับเริ่มต้นไว้ใช้กับรถยนต์รุ่นทั่วไป ภายใต้แบรนด์ BYD มาพร้อมกับกล้องด้านหน้า 3 ตัว ทำงานร่วมกับ DiPilot 100 และประมวลผลผ่านระบบ 100 TOPS ทั้งยังมีกล้อง 12 ตัว (รวมกล้อง 3 ตัวแรก – กล้องมุมกว้าง Panoramic 5 ตัว และกล้องรอบคันอีก 4 ตัว), คลื่นเรดาร์ความยาว 5 มิลลิเมตร, เซนเซอร์ Ultrasonic อีก 12 ตัว โดยเรดาร์หน้าประมวลผลเบื้องหน้าได้ 300 มิลลิเมตร และมีความแม่นยำในการจอดระดับ 2 เซนติเมตร

God’s Eye B เป็นระดับถัดมา ไว้ใช้กับรุ่นระดับเรือธงบางรุ่นของแบรนด์ BYD และแบรนด์ Denza ทำงานร่วมกับ DiPilot 300 และประมวลผลผ่านระบบ 300 TOPS

God’s Eye A เป็นระดับสูงสุดสงวนไว้ใช้กับแบรนด์ Yangwang ทำงานร่วมกับ DiPilot 600 และประมวลผลผ่านระบบ 600 TOPS เพิ่มเติมด้วย LiDAR อีก 3 ตัว

BYD ยังอธิบายเพิ่มเติมเรื่องขีดความสามารถของการทำงานด้วยว่า God’s Eye C รองรับระบบขับขี่อัตโนมัติทำงานร่วมกับระบบนำทาง (NOA – Navigation on Autopilot) ภายใต้เงื่อนไขขับขี่บนทางหลวงเท่านั้น ในขณะที่ God’s Eye B และ God’s Eye A รองรับลูกเล่นแบบเดียวกันภายใต้การขับขี่ในเมือง แต่มีการคาดการณ์ว่าในระยะยาว จะสามารถอัพเดทแบบ over-the-air ให้ God’s Eye C สามารถใช้ลูกเล่นระดับเดียวกันได้

BYD ระบุว่ารถยนต์ทุกคันจากค่ายที่มาพร้อมเทคโนโลยี God’s Eye จะมาพร้อมกับ One Brain (หนึ่งสมอง – ส่วนประมวลผลหลัก), Two Ends (Cloud AI และ AI ภายในรถยนต์), Three Networks (สามเครือข่าย – Internet ของรถ, เครือข่าย 5G และ เครือข่ายดาวเทียม) และ Four Chains (สี่ห่วงโซ่ – ห่วงโซ่เซนเซอร์, ห่วงโซ่ควบคุม, ห่วงโซ่ข้อมูล และห่วงโซ่กลไก) พร้อมทิ้งท้ายด้วยวีดีโอสาธิตการทำงานของ God’s Eye A ใน Yangwang U9 ขับขี่เองในสนามแข่ง โดยไร้ซึ่งผู้ควบคุม

 

ที่มา: carnewschina, carscoops

- Advertisement -spot_img
Mitsubishi Mega Deal
Mitsubishi Mega Deal
ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน แบล็ก เอดิชัน
ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน แบล็ก เอดิชัน
previous arrow
next arrow
- Advertisement -spot_img
- Advertisement -spot_img

Stay Connected

400,000FansLike
6,955FollowersFollow
153,000FollowersFollow
319FollowersFollow
107,000SubscribersSubscribe

Must Read

Related News