NETA V Minorchange (NETA AYA) รถไฟฟ้า100% เตรียมเปิดตัวต้นปี 2024 ผลิตในไทย ! ไฟท้าย LED Strip ยาว แบต 40.7 kWh วิ่งไกล 400 km. คาดราคาใกล้เคียงเดิม
NETA V รถไฟฟ้า100% เปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทย เมื่อเดือน สิงหาคม 2022 ที่ผ่านมา ถือเป็นรถไฟฟ้า100% Hatchback แบบ 5 ที่นั่ง ที่ราคาย่อมเยาที่สุดในไทย ก่อนหน้านี้มีการเซ็นสัญญาจับมือกับ บริษัท บางชันเยนเนอเรลเอเซมบลี จำกัด หรือ BGAC ร่วมลงนามข้อตกลงเข้าร่วมมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้ากับกรมสรรพสามิต เดินหน้าโครงการประกอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่โรงงานประกอบรถยนต์บางชัน ในนิคมอุตสาหกรรมบางชัน
ล่าสุด NETA ประเทศไทย เตรียมประกอบรถไฟฟ้า100% ในไทย คาดว่าจะใช้ชื่อ ” NETA V2 “ หรือก็คือ NETA V Minorchange ซึ่งเพิ่งตัวในประเทศจีนเมื่อเดือน กรกฎาคม 2023 ที่ผ่านมาในชื่อ NETA AYA
ถือเป็นค่ายที่สองต่อจาก Mercedes-Benz ที่มีการประกอบรถไฟฟ้า100% ในไทย และ ถือเป็นค่ายแรกที่เซ็น MOU รับส่วนลดจากภาครัฐ 150,000 บาท และ เริ่มผลิตในไทย (นำเข้า 1 คัน ต้องผลิตคืน 1 คัน) ตามประกาศราชกิจจานุเบกษา https://autolifethailand.tv/gov-tax-ev-bev-mou-thailand-2/
NETA AYA (เนต้า อาญ่า) หรือก็คือ NETA V Minorchange ที่มีการเปลี่ยนชื่อรุ่นใหม่ เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศจีน สดๆร้อนๆ เมื่อปลายเดือน กรกฎาคม 2023 ที่ผ่านมา และ โชว์ตัวจริงต่อสาธารณชนที่งาน Chengdu Motor Show 2023 วันที่ 25 สิงหาคม เป็นครั้งแรก
AYA (อาญ่า) ย่อมาจาก Amazing Young Active รถไฟฟ้า100% ตัวถัง Hatchback 5 ประตู จุดสำคัญที่เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่คือ ดีไซน์ด้านท้ายรถ มีการเปลี่ยนชุดไฟท้ายใหม่ ใช้ไฟ LED Strip คาดยาวที่ฝาท้าย ทำให้ดูลงตัวมากขึ้น
- เปลี่ยน ไฟหน้า เป็นแบบ LED
- เปลี่ยน ช่องดักลมด้านหน้า ดีไซน์ใหม่ Star Galaxy Grille
- เปลี่ยน ล้ออัลลอย ขนาด 16 นิ้ว ดีไซน์ใหม่
- เปลี่ยน ไฟท้าย ดีไซน์ใหม่ LED Strip
- เพิ่ม สีตัวถังภายนอก สีชานม Milk Tea
- เพิ่ม หลังคาดำ Black Top แบบ High Gloss
- เพิ่ม สีภายในห้องโดยสารแบบทูโทน
- สีดำ / เทาอ่อน
- สีดำ / ฟ้า
- สีดำล้วน
ทางด้านระบบขับเคลื่อนยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง สำหรับสเป็คประเทศจีน จะมี 2 ทางเลือก ขุมพลัง คือ รุ่น 318 (31 kWh) และ 401 (40.7 kWh) แต่สำหรับเวอร์ชั่นไทย จะมีเพียงสเป็คเดียว คือ แบตขนาด 40.7 kWh เหมือนเช่นเคย
Powertrain ขุมพลัง
มอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous พละกำลัง 95 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ Lithium-ion LFP ขนาด 40.7 kWh พร้อมระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ Liquid Cooling System HEPT 3.0 ขับเคลื่อนล้อหน้า
ตัวเลขเคลมจากโรงงาน
- Top Speed ความเร็วสูงสุด 121 km/h (โหมด Sport)
- วิ่งได้ระยะไกลสุด 384 km. ต่อการชาร์จ (มาตรฐาน NEDC)
- วิ่งได้ระยะไกลสุด 320 km. ต่อการชาร์จ (มาตรฐาน WLTP)
Charging การชาร์จไฟ
- หัวชาร์จ Type 2 / CCS Combo
- กระแสสลับ AC รองรับสูงสุด 6.6 kW ใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง
- กระแสตรง DC Fast Charging รองรับสูงสุด 45 kW จาก 30-80% ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
- ระบบ V2L (Vehicle to Load) จ่ายไฟจากรถให้อุปกรณ์ภายนอก สูงสุด 3.3 kW (3,300 watts)
รายละเอียด Option ของ NETA V2 (Minorchange) คาดว่าจะคล้ายกับ NETA V รุ่นปัจจุบัน
- ล้ออัลลอย ขนาด 16 นิ้ว
- ยาง ขนาด 185/55 R16
- ระบบเปิด-ปิด ไฟหน้า แบบอัตโนมัติ
- ระบบไฟหน้า Welcome Home
- หน้าจอมาตรวัด ขนาด 12.0 นิ้ว
- ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB พร้อม Auto Brake Hold
- ระบบกุญแจ Smart Key
- หน้าจอกลางระบบ Touchscreen ขนาด 14.6 นิ้ว
- ระบบเชื่อมต่อ Smart Phone iOS / Android (Screen Mirroring)
- ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESC
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC
- ระบบเตือนแรงดันลมยาง TPMS
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ตำแหน่ง
- กล้องมองภาพขณะถอยจอด
NETA V / NETA AYA เวอร์ชั่นประเทศจีน จะมีการติดตั้งระบบช่วยเหลือการขับขี่ L2 Intelligent Driving Assistance System ประกอบไปด้วย
- ระบบเตือนรถในมุมอับสายตา Blind Spot Warning
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Full-Speed Adaptive Cruise Control
- ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนตัว Front Car Start Reminder
- ระบบเตือนการชนด้านหน้า Forward Collision Waring
- ระบบเบรกอัตโนมัติ Automatic Emergency Braking
- ระบบรักษารถให้อยู่ในเลน Lane Keeping Assist
- ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน Lane Departure Warning
- ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ Automatic Parking Assist
ต้องรอติดตามกันว่าเมื่อ NETA V2 (NETA V Minorchange) เวอร์ชั่นผลิตไทย เปิดตัวในช่วงต้นปีหน้า 2024 จะมีรุ่นย่อย เพิ่มทางเลือกติดตั้งระบบช่วยเหลือการขับขี่มาด้วยหรือไม่
ส่วนราคาของ NETA V2 คาดว่าจะใกล้เคียงกับรุ่นปัจจุบันในระดับราคา 5แสนกว่าบาท หากมีข้อมูลเพิ่มเติม ทีมงาน autolifethailand จะรีบนำมารายงานให้ทราบกันครับ
เรียบเรียงข้อมูลทั้งหมดโดย www.autolifethailand.tv