All NEW Honda City 5th Generation เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในโลก ที่ประเทศไทย เมื่อ 25 พฤศจิกายน 2019 ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 1.0 เทอร์โบ แทนที่เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร เดิม สร้างยอดขายถล่มทลายเหนือคู่แข่งทุกคันใน Segment ไม่ว่าจะเป็น Eco Car หรือ B-Segment ราคา 579,500 – 739,000 บาท มีให้เลือกด้วยกัน 4 รุ่นย่อย S / V / SV / RS
ตัวถัง Sedan 4 ประตู เปิดไปเมื่อเดือน พฤศจิกายน 2019 สร้างยอดขายถล่มทลายเหนือคู่แข่งทุกคันใน Segment ไม่ว่าจะเป็น Eco Car หรือ B-Segment จากนั้นตัวถัง Hatchback เปิดตัวตามมาในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2020 หรือ 1 ปี ให้หลัง เมื่อเริ่มผลิต และ เริ่มส่งมอบได้ ก็สร้างยอดขายได้ถล่มทลายด้วยเช่นกัน
ตัวถัง 4 ประตู Sedan มีการเพิ่มเติมขุมพลังใหม่ e:HEV หรือ Hybrid i-MMD เข้ามา เปิดตัวเมื่อ 24 พฤศจิกายน 2020 เปิดราคาร่น e:HEV RS ราคา 839,000 บาท วันเดียวกับการเปิดตัว City Hatchback ตัวถัง 5 ประตู 1.0 TURBO ราคา 599,000 – 749,000 บาท มี 3 รุ่นย่อย S+ / SV / RS
จากนั้น City Hatchback e:HEV RS (Hybrid i-MMD) ก็เปิดตัวตามออกมาในวันที่ 24 มิถุนายน 2021 หรือ ประมาณ 7 เดือน หลังจากเปิดตัวรุ่น Hatchback 1.0 TURBO เคาะราคา 849,000 บาท
ระยะเวลาผ่านไป 3 ปีกว่า ก็ถึงเวลาของการเพิ่มความสดใหม่ เปิดตัว City Minorchange ตัวถัง Sedan อย่างเป็นทางการ แต่คราวนี้อินเดีย เป็นประเทศแรกที่ได้สัมผัสก่อนใคร เปิดตัวเมื่อ 2 มีนาคม 2023 ที่ผ่านมา รายละเอียดความเปลี่ยนแปลงด้านงานดีไซน์ มีดังนี้
- เปลี่ยน กระจังหน้า ดีไซน์ใหม่ แบบรังผึ้ง Honeycomb
- เปลี่ยน คิ้วกระจังหน้า ดีไซน์ใหม่ ให้ดูมีความเพรียวบางขึ้น
- เปลี่ยน กันชนหน้า ดีไซน์ใหม่
- เปลี่ยน กันชนหลัง ดีไซน์ใหม่
- เปลี่ยน ล้ออัลลอย ดีไซน์ใหม่
- เปลี่ยน มาตรวัด เพิ่มหน้าจอแสดงผล MID ขนาด 4.2 นิ้ว
- (เดิมเป็นมาตรวัด Analog 2 วง ในรุ่นเครื่องยนต์เบนซินล้วน)
- เพิ่ม ไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร Ambient Light
- เพิ่ม การรองรับ Apple CarPlay / Android Auto แบบไร้สาย Wireless
- เพิ่ม ที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย Wireless Charger
- เพิ่ม เบรกมือไฟฟ้า พร้อม Auto Brake Hold
- (เดิมเป็นเบรกมือธรรมดา ในรุ่นเครื่องยนต์เบนซินล้วน)
- เพิ่ม ระบบ Honda SENSING ในรุ่นรอง
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Auto High-Beam
- ระบบเตือน และ ช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ RDM with LDM
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ LKAS
- ระบบเตือนการชนรถ และ คนเดินถนน พร้อมระบบช่วยเบรก CMBS
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมปรับความเร็วตามคันหน้า Adaptive Cruise Control ACC
สำหรับเวอร์ชั่นไทย จะได้ Option อะไรเพิ่มเติมมาบ้าง หรือ จะยกอุปกรณ์อะไรบ้าง จากรุ่น e:HEV Hybrid มาใส่ในรุ่น 1.0 TURBO ต้องรอลุ้นกันครับ
Engine เครื่องยนต์
เครื่องยนต์ของ Honda City Minorchange ของเวอร์ชั่นไทย จะมี 2 ทางเลือก เหมือนเช่นเคย คือ
เบนซิน 1.0 TURBO
เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว 988 ซีซี. ระบบแปรผันวาล์ว ทั้งแบบ VTEC และ Dual VTC พ่วงเทอร์โบ กระบอกสูบ x ช่วงชัก 73.0 x 78.7 มิลลิเมตร กำลังอัด 10.0 : 1 พละกำลังสูง 122 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 173 นิวตันเมตร ที่ 2,000 – 4,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า รองรับน้ำมัน E20
เบนซิน 1.5 ลิตร e:HEV
เครื่องยนต์รหัส LEB-MMD เบนซิน 4 สูบ Atkinson Cycle ขนาด 1.5 ลิตร 1,498 ซีซี. กระบอกสูบ x ช่วงชัก : 73.0 x 89.5 มิลลิเมตร พละกำลังสูงสุด 98 แรงม้า ที่ 5,600 – 6,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 127 นิวตันเมตร ที่ 4,500 – 5,000 รอบ/นาที รองรับน้ำมันสูงสุด E20 แบตเตอรี่ Lithium-ion
ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว พละกำลังสูงสุด 109 แรงม้า ที่ 3,500 – 8,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 253 นิวตันเมตร ที่ 0-3,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ e-CVT
ล่าสุด มีข่าวคราวว่า Honda ประเทศไทย เตรียมเปิดตัว Honda City Minorchange อย่างเป็นทางการ 5 กรกฎาคม 2023 นี้ ! จะได้ Option อะไรเพิ่มเติมมาบ้าง หรือ จะยกอุปกรณ์อะไรบ้าง จากรุ่น e:HEV Hybrid มาใส่ในรุ่น 1.0 TURBO ต้องรอลุ้นกันครับ
หากมีข้อมูลเพิ่มเติม ทีมงาน autolifethailand.tv จะรีบนำมารายงานให้ทราบกันครับ
เรียบเรียงข้อมูลทั้งหมดโดย www.autolifethailand.tv
