นายรัฐการ จูตะเสน กรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย (Ford) เปิดเผยว่า ในปี 2568 จะมีการทำงานร่วมกับสถาบันการเงิน (ไฟแนนซ์) มากยิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถผ่านเงื่อนไขการอนุมัติสินเชื่อที่ยังคาดว่าจะยังมีความเข้มข้นของการอนุมัติอยู่ โดยจะมีการนำเสนอการปลดล็อคเงื่อนไขการพิจารณาประกอบกับการคัดกรองลูกค้าให้กับไฟแนนซ์ร่วมด้วย และมีแผนการใช้เครื่องมือทางการเงินเจาะลูกค้าเฉพาะกลุ่มมากขึ้นเพื่อให้สอดคล้องตามความต้องการที่แตกต่างกันในรายละเอียด
นอกจากนั้น ทิศทางการนำเสนอผลิตภัณฑ์ในปี 2568 มุ่งเน้นการสร้างสีสันให้ผลิตภัณฑ์ เนื่องจากยังไม่มีโมเดลใหม่ที่จะเปิดตัวลงสู่ตลาดในปีหน้า โดย ฟอร์ด ได้ทำงานร่วมกับผู้แทนจำหน่ายอย่างใกล้ชิดเพื่อรักษาระดับความสามารถทางการแข่งขันและการดำเนินธุรกิจ ของแผนงานในปัจจุบัน เพื่อรองรับแผนการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะมาในปี 2569
สำหรับพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบัน มีทางเลือกในการตัดสินใจซื้อรถยนต์ในกลุ่มระดับราคาเดียวกันเป็นจำนวนมากและหลากหลายเทคโนโลยี รวมถึงไม่ยึดจิดกับแบรนด์ ซึ่งใช้การตั้งงบประมาณการซื้อเป็นหลักมากกว่าการเลือกจากประเภทรถยนต์ โดย ฟอร์ด มองว่า เป็นโอกาสที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีความคุ้มค่าให้ผู้บริโภคเช่นเดียวกัน
ส่วนในปี 2568 Ford มองว่ายอดขายตลาดรถยนต์ในประเทศไทยจะอยู่ที่ 6 แสนคัน จากปัจจัยหนี้เสียและหนี้ครัวเรือนจะเริ่มลดลง ทำให้สถาบันการเงินอนุมัติสินเชื่อได้ดีขึ้น รวมถึง อัตราผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ตามที่สถาบันการเงินหลายแห่งคาดการณ์จะมีอัตราเติบโตขึ้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ฟอร์ด แนะพยุงยอดขายรถกระบะ ช่วยกู้ภาพรวมตลาดรถยนต์ของไทย
แม้ว่าตลาดรถยนต์ในประเทศไทยจะมียอดจำหน่ายต่ำสุดในรอบ 15 ปี แต่ฟอร์ดมองการดำเนินธุรกิจในระยะยาวโดยเฉพาะการที่ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อการส่งออกไปยังทั่วโลก ซึ่งปัจจุบันสัดส่วนระหว่างการจำหน่ายในประเทศกับการส่งออกอยู่ที่ 15% ต่อ 85% ตามลำดับ ดังนั้นยังคงมีความแข็งแกร่งอย่างมากในการดำเนินธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม เครือข่ายผู้แทนจำหน่ายในปัจจุบันของ ฟอร์ด มีจำนวนอยู่ที่ 148 แห่ง จากที่ผ่านมาอยู่ที่ 169 แห่ง โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ ศูนย์จำหน่ายและบริการของบริษัท ลดลงเหลือ 28 แห่ง จาก ที่ผ่านมาอยู่ที่ 48 แห่ง แต่การลดลงนั้น ยังคงอยู่ในประมาณที่เหมาะสมกับยอดขายในอนาคต เนื่องจากโมเดลธุรกิจการขายนั้นเปลี่ยนไป โดย ฟอร์ด ได้คำนึงถึงความสะดวกสบายของผู้บริโภคและความสามารถในการดำเนินธุรกิจของผู้แทนจำหน่าย (ดีลเลอร์)
แม้ว่าจำนวนศูนย์จำหน่ายและบริการจะลดลงแต่ ฟอร์ด ได้ทำการศึกษาแล้วพบว่า ถ้าลูกค้าต้องนำรถยนต์เข้ารับบริการที่ศูนย์บริการจะใช้ระยะเวลาเดินทางไม่เกิน 30 นาที รวมถึงยังมี รถบริการเคลื่อนที่ (โมบายล์เซอร์วิส) จำนวน 112 คันทั่วประเทศ พร้อมช่างผู้เชี่ยวชาญ จึงมั่นใจในการให้บริการที่ครอบคลุมความต้องการของผู้บริโภคอยู่