สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า รัฐบาลจีน โดย กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ ได้เรียกผู้บริหารของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ในประเทศจีนเข้าร่วมประชุมหารือ หน่วยงานกำกับดูแลตลาด และสำนักงานวางแผนเศรษฐกิจของประเทศ ภายหลังเกิด สงครามราคา รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศจากการประกาศลดราคาอย่างรุนแรงโดย บีวายดี (BYD) ซึ่งมีการลดราคาในบางรุ่นมากกว่า 30% ทำให้ราคาลดลงเหลือไม่ถึง 2.5 แสนบาท ส่งผลให้หลายแบรนด์มีการประกาศลดราคาเพื่อแข่งขันเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ มีบริษัทผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีนเข้าร่วมประชุมหารือมากกว่า 10 ราย ซึ่งรัฐบาลจีนได้เตือนให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ควบคุมการนำเสนอส่วนลดและหลีกเลี่ยงการขายต่ำกว่าทุน เนื่องจากจะส่งผลให้เกิดผลกระทบในอุตสาหกรรมทั้งใน ด้านการเงิน และ ระบบห่วงโซ่อุปทาน รวมถึงความเสี่ยงต่อการล้มละลายที่อาจะเกิดขึ้นของบริษัทรายเล็ก ที่อาจจะส่งผลเสียต่ออุตสาหกรรมในประเทศ
นอกจากนั้น ยังมีการหรือในประเด็นการขายรถยนต์ที่ถูกจดทะเบียนและขายไปแล้วแต่ไม่มีการใช้งานจริง รวมถึงปัญหาหนี้ที่ค้างชำระกับซัพพลายเออร์ ซึ่งมีผลต่อกระแสเงินหมุนเวียนและเงินสดในระบบซัพลายเชนจ์
รายงานข่าวยังระบุว่า การที่รัฐบาลประเทศจีนออกมาเคลื่อนไหวในครั้งนี้ถือเป็นการสะท้อนปัญหาของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศจีน จึงต้องมีการประชุมหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เนื่องจาก สงครามราคา มีผลกระทบต่อความยั่งยืนในอุตสาหกรรมยานยนต์ และอาจทำให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์อีกจำนวนไม่น้อยต้องล้มละลายดังเช่นหลายบริษัทที่มีการปิจกิจการไปแล้วก่อนหน้านี้ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นสุดท้ายจะเกิดอยู่กับผู้บริโภคที่ซื้อรถยนต์ไปแล้ว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ส่องค่ายรถ “แก้เกม” ชิงไหวชิงพริบ Motor Show เอาคืน BYD ถล่มราคา!
นับตั้งแต่ที่สงครามทุบราคาก่อตัวขึ้นรอบล่าสุดเมื่อปลายเดือนพฤษภาคมจากการที่ BYD ประกาศลดราคารถยนต์บางรุ่นลงสูงสุด 34% ส่งผลทำให้หุ้นของผู้ผลิตรถยนต์จีนร่วงลงทั่วกระดานในสัปดาห์ที่ผ่านมา
รายงานข่าว อ้างอิงสมาคมผู้ผลิตรถยนต์จีน ระบุว่า การดําเนินการโดยบริษัทใดบริษัทหนึ่งได้สร้างความตื่นตระหนกของสงครามราคารอบใหม่ ทําให้อุตสาหกรรมเข้าสู่ความอันตรายต่อห่วงโซ่อุปทาน สงครามราคาที่ไร้การควบคุมจะทําให้การแข่งขันที่ดุเดือดอยู่แล้วทวีความรุนแรงขึ้น การบีบให้อัตราผลกําไรของบริษัทได้น้อยลงไปอีก
ขณะเดียวกัน นายลี ชูฟู ผู้ก่อตั้งและประธานบริษัท จีลี่ โฮลดิ้ง คัมปะนี (Geely Holding Company) บริษัทผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีนรายหนึ่งในประเทศจีนกล่าวในการประชุมของบริษัท ว่า อุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลกกำลังเผชิญกับภาวะกำลังการผลิตล้นเกินความต้องการอย่างรุนแรงทำให้ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีนจะต้องตัดสินใจไม่ลงทุนสร้างโรงงานผลิตรถยนต์เพิ่มเติมหรือไม่ขยายกำลังการผลิตของโรงงานผลิตรถยนต์ที่มีอยู่ในปัจจุบันสำหรับผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีนที่มีการสร้างโรงงานใหม่ในต่างประเทศหรือขยายการผลิตของโรงงานในต่างประเทศที่มีอยู่ในปัจจุบัน
นอกจากนั้น อุตสาหกรรมรถยนต์ของประเทศจีนซึ่งเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกต้องเผชิญกับสถานการณ์การแข่งขันอย่างรุนแรงที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนจากผู้ผลิตรถยนต์พลังงานใหม่ที่มีขนาดใหญ่และอยู่ในอันดับต้น ๆ ของประเทศ โดยการใช้กลยุทธ์ลดราคาขายรถยนต์อย่างมาก ส่งผลให้ทางการจีนแผ่นดินใหญ่ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงอุตสาหกรรมตลอดจนสมาคมผู้ผลิตยานยนต์แห่งชาติจีนต้องออกมาแสดงความคิดเห็น รวมถึงมีการเชิญให้บรรดาค่ายรถต่างๆ เข้าประชุมเพื่อหาทางออกและแก้ไขสงครามลดราคาของผู้ผลิตรถยนต์พลังงานใหม่อันดับต้นๆ ของจีน
ด้าน นาย จู หัวหรง (Zhu Huarong) ประธานบริษัท CHANGAN Automobile (ฉางอัน ออโตโมบิล) กล่าวว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมยานยนต์ของจีนเผชิญกับความท้าทายสำคัญ 3 อย่าง ได้แก่ กำลังการผลิตรถมีมากเกินไป สงครามราคา และการโฆษณาที่ทําให้เข้าใจผิด ซึ่งคาดว่าจะเริ่มกลับสู่ภาวะปกติในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า