slide 1
slide 1
Image Slide 2
Image Slide 2
previous arrowprevious arrow
next arrownext arrow
Homeแบรนด์รถยนต์BentleyFlying Spur Hybrid อวดโฉมด้วยพลังงานรักษ์โลก

Flying Spur Hybrid อวดโฉมด้วยพลังงานรักษ์โลก

ด้วยระบบมอเตอร์ไฟฟ้าอวดโฉมใจกลางเบเวอร์ลี่ฮิลส์ สหรัฐอเมริกากว่า 6 วัน

Flying Spur Hybrid กว่า 9 คัน ขับขี่อวดโฉมใจกลางย่านเบเวอร์ลี่ ฮิลส์ ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นระยะทางกว่า 10,500 ไมล์ โดยมีการขับขี่โดยใช้มอเตอร์ไฟฟ้ากว่า 3,000 ไมล์ ซึ่งเทียบเท่ากับการขับข้ามจากฝั่งหนึ่งไปอีกฝั่งหนึ่งของประเทศ พร้อมคุณสมบัติการประหยัดน้ำมันได้ถึง 3 แกลลอนต่อวันเมื่อเทียบกับ Flying Spur V8

สื่อมวลชนและแขกผู้มีเกียรติกว่า 100 คนจากทั่วโลกมีโอกาสได้สัมผัส Flying Spur Hybrid ใหม่ในแคลิฟอร์เนียด้วยการขับขี่ในรูปแบบมอเตอร์ไฟฟ้าจากย่านเบเวอร์ลี่ ฮิลส์ ผ่านทิวทัศน์อันงดงามของเทือกเขา Ojai ไปจนถึงความงดงามของเมืองชายฝั่งใน Santa Barbara โดย Flying Spur Hybrid ได้ประมวลผลข้อมูลการขับขี่ในแต่ละวันและแสดงให้เห็นว่ากว่า 30% ของการขับขี่เป็นการใช้ระบบมอเตอร์ไฟฟ้า

ตลอดเส้นทางกว่า 194 ไมล์ โดยแบ่งเป็นการขับขี่บนเส้นทางหลัก 50 เปอร์เซ็นต์ การขับขี่บนถนนในแถบชนบท 44 เปอร์เซ็นต์ และการขับขี่ในเมือง 6 เปอร์เซ็นต์ ระบบนำทางอัจฉริยะได้คำนวณการใช้พลังงานแบตเตอรี่ออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการเก็บข้อมูลการขับขี่และการใช้พลังงานจากมอเตอร์ไฟฟ้าในสภาพแวดล้อมของเมือง บนถนนทั่วไป และในสภาพการจราจรที่ติดขัด

ในการศึกษางานวิจัยล่าสุดของเบนท์ลีย์ระบุว่า ลูกค้ากว่า 70 เปอร์เซนต์ได้เผยถึงเหตุผลด้านความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเป็นเหตุผลอันดับแรกในการเลือกซื้อรถยนต์ไฮบริด โดยกว่า 98 เปอร์เซ็นต์มีการขับขี่ในโหมดมอเตอร์ไฟฟ้าทุกวัน และ 83 เปอร์เซ็นต์มีการชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ทุกวัน 

อย่างไรก็ตาม ลูกค้ายังคงต้องการสมรรถนะในการขับขี่แบบรถยนต์แกรนด์ทัวริ่ง โดยการใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าในวันทำงาน และการใช้ระบบส่งกำลังแบบสันดาปภายในสำหรับกิจกรรมในวันหยุดสุดสัปดาห์ ดังนั้นจึงทำให้รถยนต์แบบไฮบริดเป็นโซลูชั่นที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ามากที่สุด สำหรับการเลือกครอบครองรถยนต์ไฮบริดรุ่นใหม่ของเบนท์ลีย์นั้นแสดงให้เห็นเป็นตัวเลขยอดขายในปีที่แล้ว โดย 1 ใน 5 ของยอดขายอัครยนตรกรรมเอสยูวี รุ่น เบนเทก้า เป็นแบบเครื่องยนต์ไฮบริด

เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564 อัครยนตรกรรมต้นแบบ รุ่น Flying Spur Hybrid ได้เดินทางกว่า 450 ไมล์ทั่วประเทศไอซ์แลนด์ด้วยเชื้อเพลิงชีวภาพเจเนอเรชั่นที่ 2 จำนวน 1 ถัง และแบตเตอรี่ที่ชาร์จไฟจากความร้อนใต้ดิน ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงสมรรถนะในการขับขี่ของอัครยนตรกรรมแกรนด์ทัวริ่ง ขณะที่ยังคงช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับการใช้น้ำมันเบนซินแบบธรรมดา การผสมผสานของประโยชน์ในการขับขี่ด้วยระบบมอเตอร์ไฟฟ้าในเมือง และสมรรถนะในการขับขี่อีก 400 ไมล์ด้วยการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเป็นปัจจัยสำคัญที่อยู่เบื้องหลังความมุ่งมั่นของเบนท์ลีย์ต่อรถยนต์ไฮบริดซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ ‘Beyond100’ เพื่อการขับเคลื่อนสู่การใช้พลังงานไฟฟ้าแบบเต็มรูปแบบ

Flying Spur Hybrid ได้แสดงให้เห็นว่าระบบไฮบริดไม่ได้ลดทอนความหรูหราหรือสมรรถนะของรถยนต์แต่ประการใด แต่ด้วยการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างเครื่องยนต์สันดาปภายในและมอเตอร์ไฟฟ้าจึงทำให้สัมผัสได้ถึงความเงียบสงบในทุกรูปแบบของการขับขี่ 

ระบบส่งกำลังแบบใหม่ผสมผสานกับเครื่องยนต์เบนซินรุ่น V6 ขนาด 2.9 ลิตรและมอเตอร์ไฟฟ้าเทคโนโลยีล่าสุด ผลิตพละกำลังกว่า 536 แรงม้า ด้วยแรงบิด 750 นิวตันเมตร โดยผลิตพละกำลังเพิ่มขึ้นกว่า 95 แรงม้า เมื่อเทียบกับ Bentayga Hybrid

มอเตอร์อิเล็กทรอนิกส์เทคโนโลยีล่าสุดติดตั้งอยู่ระหว่างเกียร์อัตโนมัติและเครื่องยนต์ ผลิตพละกำลังสูงสุด 134 แรงม้า 400 นิวตันเมตร พร้อมมอเตอร์ซิงโครนัสชนิดแม่เหล็กถาวรให้แรงบิดเต็มกำลังในทันทีเพื่อการเร่งความเร็วจากการสตาร์ทแบบจอดสตาร์ท

E-motor ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 18.9 กิโลวัตต์ และสามารถชาร์จไฟได้ 100 เปอร์เซ็นต์ในระยะเวลาเพียง 2 ชั่วโมงครึ่ง (ระยะเวลาขึ้นอยู่กับแต่ละภูมิภาค) โดยมีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แปลงพลังงานที่เก็บไว้จากแบตเตอรี่แรงสูงเพื่อจ่ายให้กับ E-Motor หรือเสริมกับอุปกรณ์ประจุไฟฟ้าของรถยนต์ขนาด 12 วัตต์

Flying Spur ได้รับการออกแบบให้เป็นอัครยนตรกรรมที่เหมาะสำหรับทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ห้องโดยสารที่หรูหราแบบร่วมสมัยได้ยกระดับการผสมผสานองค์ประกอบหลักจากดีเอ็นเอของเบนท์ลีย์เข้ากับเทคโนโลยีอันล้ำสมัย และงานฝีมือที่ดีที่สุดของโลก ประกอบกับรายละเอียดที่พิถีพิถัน พื้นผิวแกะสลัก และลวดลายเส้นสายอันร่วมสมัยที่จะทำให้ผู้ครอบครองสัมผัสได้ถึงประสบการณ์สุดพิเศษไปตลอดเส้นทาง

ความประณีตและความพิถีพิถันของงานฝีมือถือเป็นอัตลักษณ์ของเบนท์ลีย์ โดยสำหรับในโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าจะสามารถลดเสียงรบกวนภายในห้องโดยสารได้กว่า 50% เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์สันดาป ผู้โดยสารจึงสัมผัสได้ถึงความเป็นส่วนตัว พร้อมความหรูหราและความเงียบสงบภายในห้องโดยสาร

วิเคราะห์ เจาะลึก ทุกข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมา กับผม นิธิ ท้วมประถม
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสาร ข่าวรถยนต์ รถใหม่ สกู๊ปพิเศษ ลองขับ อย่าลืมติดตามเรา ช่องยูทูป – auto lifethailand tv

ติดต่อโฆษณา

Project Manager (คุณแอม)
โทร. 089 533 5115

Email : autolifethailand@gmail.com

หรือ Inbox ได้ทาง Facebook Fanpage https://www.facebook.com/autolifethailand.tv

รีวิวรถยนต์ ข่าวแบรนด์รถยนต์ ไลฟ์สไตล์ รถใหม่

Sirote Petchjamroensuk
Sirote Petchjamroensuk
The Old Writer Never Die. Content is The King. I Believe I Can Fly. Higher & Higher!
- Advertisement -spot_img
Mitsubishi Mega Deal
Mitsubishi Mega Deal
ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน แบล็ก เอดิชัน
land rover
previous arrow
next arrow
- Advertisement -spot_img
- Advertisement -spot_img

Stay Connected

400,000FansLike
6,955FollowersFollow
153,000FollowersFollow
319FollowersFollow
107,000SubscribersSubscribe

Must Read

Related News