MG4 X POWER รถไฟฟ้า100%
ราคาคาดการณ์ โดย MG ประเทศไทย (นำเข้า CBU)
- MG4 X POWER 1,1xx,000 บาท
* MG4 X POWER รถไฟฟ้า100% เตรียมเปิดตัว และ ประกาศราคาอย่างเป็นทางการ 25 มีนาคม นี้ ที่งาน Motor Show 2024 @ Challenger Hall 1-3 เมืองทองธานี
มาพร้อมการรับประกันคุณภาพตัวรถ ดังนี้
- รับประกันคุณภาพตัวรถ Warranty นาน 4 ปี หรือ 120,000 km
- รับประกันแบตเตอรี่ นาน 8 ปี หรือ 180,000 km.
สิ่งที่ MG4 X POWER แตกต่างจากรุ่นปกติ ดังนี้
- มอเตอร์ไฟฟ้า จาก 1 ตัว เป็น 2 ตัว Dual Motors
- พละกำลัง เพิ่มจาก 170 เป็น 435 แรงม้า แรงบิด จาก 250 เป็น 600 นิวตันเมตร
- ขับเคลื่อน 2 ล้อ เปลี่ยนเป็น ขับเคลื่อน 4 ล้อ
- อัตราเร่ง 0-100 km/h จาก 7.5 เหลือ 3.8 วินาที
- Top Speed ความเร็วสูงสุดจาก 161 เป็น 200 km/h
- แบตเตอรี่ จาก LFP 51 kWh เป็น NMC 64 kWh
- วิ่งได้ระยะทางสูงสุด Range เดิม 425 เพิ่มเป็น 480 km. (NEDC)
- ชาร์จ AC รองรับสูงสุด จาก 6.6 เป็น 11 kW
- ชาร์จ DC Fast Charging รองรับสูงสุด จาก 88 เป็น 140 kW
- เปลี่ยน ล้ออัลลอย ขนาด จาก 17 เป็น 18 นิ้ว ดีไซน์ใหม่
- ยาง เปลี่ยนเป็น Bridgestone Turanza T005 EV ENLITEN
- ยาง จาก 215/50 R17 เปลี่ยนเป็น ขนาด 235/45 R18
- เปลี่ยน คาลิปเปอร์เบรก เป็น สีส้ม Orange
- ระบบเบรก ปรับจูนโดย Continental
- เปลี่ยน ผ้าเบรกเป็นเกรดพรีเมียม TEXTAR
- จากเบรก เพิ่มขนาด จาก หน้า/หลัง 300/300 เป็น 345/340 มิลลิเมตร
- จานเบรก เพิ่มความหนา จาก หน้า/หลัง 25/12 เป็น 30/22 มิลลิเมตร
- ปรับจูน ช่วงล่างใหม่ ปรับความหนืดช็อคอัพ 10-30%
- กันชนหน้า สเกิร์ตข้าง กันชนหลัง ตกแต่งด้วยสีเงิน Silver Decoration Kits
- กระจังหน้า แบบ Active เพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อน
- เพิ่ม ระบบ Launch Control
- อัพเกรด ระบบ One Pedal เพิ่มความสามารถในการหยุดรถบนเนินเขา และ ลงเขา
- เพิ่ม สีพิเศษ สีเขียวด้าน Premium Matt Green
- เบาะนั่ง เปลี่ยนเป็น หุ้มหนังสลับ Alcantara เดินตะเข็บด้ายสีแดง
- เพิ่ม มือจับภายในห้องโดยสาร บนเพดานหลังคา
- ราคาแตกต่างจากรุ่นปกติ ประมาณ 300,000 บาท + –
Dimension มิติตัวถัง
MG 4 EV
- ยาว 4,287 มิลลิเมตร
- กว้าง 1,836 มิลลิเมตร
- สูง 1,516 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ Wheelbase 2,705 มิลลิเมตร
- ระยะต่ำสุดถึงพื้น Ground Clearance 117 มิลลิเมตร
เมื่อเทียบกับคู่แข่งในพิกัดเดียวกัน
- MG 4 EV : 4,287 x 1,836 x 1,504 มม. / ระยะฐานล้อ 2,705 มม.
- ORA Good Cat : 4,235 x 1,825 x 1,596 มม. / ระยะฐานล้อ 2,650 มม.
- BYD Dolphin : 4,290 x 1,770 x 1,570 มม. / ระยะฐานล้อ 2,700 มม.
Powertrain ขุมพลัง
MG4 X POWER
มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ 2 ตัว ด้านหน้า พละกำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร และ ด้านหลัง พละกำลังสูงสุด 231 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร
รวมพละกำลัง 435 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร ขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD แบตเตอรี่ Lithium-ion Ternary (NMC) ขนาด 64 kWh
ตัวเลขเคลมจากโรงงาน
- อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 3.8 วินาที
- อัตราเร่ง 80-120 km/h ภายใน 2.8 วินาที
- Top Speed ความเร็วสูงสุด 200 km/h
- ระยะเบรก จาก 100-0 km/h ภายใน 33.9 เมตร
- วิ่งระยะไกลสุด 480km. (มาตรฐาน NEDC)
Charging การชาร์จไฟฟ้า
หัวชาร์จ Type 2 / CCS Combo พร้อมระบบจ่ายกระแสไฟ V2L (Vehicle to Load) 2200W จ่ายพลังงานจากรถ สู่เครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆได้
X POWER
- กระแสสลับ AC รองรับสูงสุด 11 kW ใช้เวลา 6 ชั่วโมง 30 นาที
- กระแสตรง DC รองรับสูงสุด 140 kW ใช้เวลา 26 นาที
- การออกแบบตัวรถใหม่แบบ AVANT-GARDE INDUCTIVE DESIGN
- ไฟหน้า LED GALAXY TECHNOLOGY MATRIX HEADLIGHTS
- ไฟท้าย LED ลาย CGYNUS SYMBOL DECORATIVE LIGHT
- หลังคาแบบทูโทน พร้อมสปอยเลอร์หลังแบบ TWIN ARROW WING
- ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว
- คาลิปเปอร์เบรกสีส้ม X POWER
- คอนโซลกลาง FLOATED CENTRAL CONTROL PLATFORM
- ที่ชาร์จแบบไร้สาย (Wireless charger)
- ดีไซน์พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน หุ้มหนังปรับ 4 ทิศทาง
- พวงมาลัย ควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ – วางสายโทรศัพท์
- กระจกมองหลังแบบตัดแสงอัตโนมัติ
- หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะ Dual Screen หน้าจอกลางระบบสัมผัสขนาด 25 นิ้ว
- มาตรวัดแบบดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว (Digital Multi-function Display)
- ลำโพง 6 จุด
- ช่องจ่ายไฟ Power Outlet 12V
- รองรับการเชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay และ สมาร์ทโฟนระบบ Android
- พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB TYPE A และ C
- ระบบกรองอากาศ 5
- เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง และเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับ 4 ทิศทาง
- เบาะนั่งด้านหลังพนักพิง ปรับ 60:40
- โหมด Intelligent Smart Access เมื่อผู้ขับขี่อยู่ในตำแหน่งคนขับ เพียงเหยียบเบรกระบบการทำงานของรถจะสตาร์ทอัตโนมัติ
- เบาะหนังสังเคราะห์ และ หนังอัลคันทาร่า (Alcantara)
- ระบบ One Pedal ให้ประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น และทำให้ระยะทางการขับขี่เสถียรยิ่งขึ้น
- แบตเตอรี่มาตรฐานความปลอดภัย IP67 ในการป้องกันน้ำและฝุ่น
- ระบายความร้อนด้วยระบบ LIQUID COOLING SYSTEM
- ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ALL WHEEL DRIVE
- ระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) 4 ระดับ ได้แก่ ระดับต่ำ กลาง สูง และแบบแปรผันตามการขับขี่ (ADAPTIVE)
- ระบบโครงสร้างพวงมาลัยรูปแบบใหม่ DUAL PINION ควบคุมด้วยไฟฟ้า
- การกระจายน้ำหนักแบบสมมาตร 50:50 ควบคู่กับการออกแบบลักษณะ Low Centre of Gravity ที่ให้จุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำเพื่อการเกาะถนนที่ดีเยี่ยม
- ดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท และ ด้านหลังแบบอิสระ 5-Link Suspension
- โหมดการขับขี่ 5 รูปแบบ ได้แก่ ECO, NORMAL, SPORT, CUSTOM และ SNOW
ระบบตรวจเช็กอัจฉริยะ (Smart Check)
- ระบบตรวจสอบแบตเตอรี่ Battery Doctor บันทึกและวิเคราะห์ พฤติกรรมการใช้งาน พร้อมให้คำแนะนำ ในการดูแลรักษาแบตเตอรี่เพื่อยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานยิ่งขึ้น
- ระบบสั่งการ และระบบค้นหารถ Find My Car
- ระบบเตือนความผิดปกติของรถยนต์
- ระบบช่วยค้นหาศูนย์บริการ นัดหมาย และบันทึกการดูแลรักษารถยนต์ตามระยะ
- ระบบตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่ การชาร์จ และสถานีชาร์จ
ระบบสั่งการอัจฉริยะ (Smart Command)
- กุญแจดิจิตอล
- ระบบสั่งการผ่านเสียงภาษาไทย
- ระบบควบคุมการทำงานของระบบปรับอากาศผ่านทางสมาร์ทโฟน
- ระบบโทรออก – รับสายกรณีฉุกเฉิน
- ระบบสั่งการชาร์จ สถานี MG SUPER CHARGE ผ่านทางสมาร์ทโฟน
ระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ (Smart Connect)
- ระบบนำทาง Navigation พร้อมรายงานการจราจรแบบ Real Time
- ระบบช่วยค้นหาร้านอาหาร และที่พักบนแผนที่นำทาง
- อัพเกรดระบบผ่านออนไลน์
- ระบบเล่นเพลงออนไลน์แบบสตรีมมิ่ง
- อัพเดทข้อมูลพยากรณ์อากาศ
- ระบบเรียกดูข้อมูลข่าวสาร เหตุการณ์ปัจจุบัน
ระบบความปลอดภัย (Safety)
- ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold)
- ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD
- ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)
- ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System)
- ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control)
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
- ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)
- ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนพร้อมปรับองศาพวงมาลัยหากออกนอกเลน ELK (Emergency Lane Keeping System)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)
- ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist)
- ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection)
- ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
- ระบบช่วยเตือนการชนด้านหลัง RCW (Rear Collision Warning)
- ระบบช่วยเบรกขณะถอย RCTB (Rear Cross Traffic Braking)
- ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-beam control)
- ระบบตรวจจับพฤติกรรมการขับขี่ DMS (Driver Monitor System)
- ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู DOW (Door Open Warning)
- ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System)
สีตัวถังภายนอกของ MG4 X POWER รถไฟฟ้า100% มีให้เลือก 1 สี
- สีเขียวด้าน Premium Matt Green / ภายในห้องโดยสาร โทนสีดำ
MG4 X POWER รถไฟฟ้า100% เตรียมเปิดตัว และ ประกาศราคาอย่างเป็นทางการ 25 มีนาคม นี้ ที่งาน Motor Show 2024 @ Challenger Hall 1-3 เมืองทองธานี
เรียบเรียงข้อมูลทั้งหมดโดย www.autolifethailand.tv