สเตฟาน ปีเตอร์อองเซล ดาวขับเฟรนช์ สังกัด Team Audi Sport ควบ Audi RS Q e-tron คว้าชัยในสเตจที่ 2 ศึกดาการ์ แรลลี่ ขณะที่ คาร์ลอส ซายนซ์ จอมเก๋าเพื่อนร่วมสังกัด ซิ่งจบการแข่งขันในอันดับ 8 ขยับขึ้นเป็นผู้นำฝูง เหนือกว่า ยาซีด อัล ราจฮี นักขับเจ้าถิ่นกว่า 2 นาที
การชิงชัยในสเตจที่ 2 ศึกดาการ์ แรลลี่ 2024 ดวลความเร็วในวันอาทิตย์ที่ 7 มกราคม ที่ผ่านมา บนเส้นทาง อัล เฮนาคิยาห์-อัล ดูวาดิมี รวมระยะทางทั้งสิ้น 655 กิโลเมตร เป็นช่วงทดสอบพิเศษ 463 กิโลเมตร และการเดินทาง 192 กิโลเมตร
และเป็นทางด้าน สเตฟาน ปีเตอร์อองเซล สังกัด Team Audi Sport ที่ระเบิดฟอร์มเก่ง ซิ่งคว้าแชมป์ในสเตจที่ 2 ไปครองด้วยเวลา 3 ชั่วโมง 54 นาที 40 วินาที เฉือน เซบาสเตียน โล้บ จาก BAHRAIN RAID XTREME เพียง 29 วินาที ด้าน นาสเซอร์ อัล-อัตติยาห์ แชมป์เก่ายังรีดความเร็วไม่ออก ตามเข้าเส้นชัยในอันดับ 4
ผ่านการชิงชัยในสเตจที่ 2 เป็นทางด้าน คาร์ลอส ซายนซ์ จอมเก๋าชาวสเปน สังกัด Team Audi Sport ที่ขยับขึ้นเป็นผู้นำบนตารางเวลารวม ด้วยเวลา 8 ชั่วโมง 49 นาที 38 วินาที เหนือกว่า ยาซีด อัล ราจฮี นักขับเจ้าถิ่นจาก OVERDRIVE RACING อยู่ 1 นาที 51 วินาที
ส่วนในประเภทรถจักรยานยนต์ ยังคงเป็น รอสส์ บรานช์ ดาวบิดบอตสวาน่า สังกัด Hero Motosports Team Rally ที่รักษาผลงานอันยอดเยี่ยมไว้ได้ บิคคว้าชัยในสเตจที่ 2 ครองตำแหน่งผู้นำบนตารางเวลารวมต่อไป ด้วยเวลา 5 ชั่วโมง 13 นาที 55 วินาที เหนือกว่า ริคกี้ บราเบค จาก MONSTER ENERGY HONDA TEAM ถึง 11 นาที 54 วินาที
รวมถึง มาร์เซโล เมอไดรอส ดาวขับบราซิเลียน จาก TAGUATUR RACING TEAM ที่รักษาตำแหน่งผู้นำประเภทรถควอด ไว้ได้ด้วยเวลารวม 12 ชั่วโมง 18 นาที 38 วินาที ขณะที่ ยานุส ฟาน คาสเตเรน, ดาเร็ค โรเดวาลด์ และ มาร์เซล ชไนเดอร์ สังกัด BOSS MACHINERY TEAM DE ROOY FPT แท็กทีมครองหัวขบวนในประเภทรถบรรทุก ด้วยเวลารวม 9 ชั่วโมง 31 นาที 37 วินาที
สำหรับการแข่งขันในสเตจที่ 3 ศึกดาการ์ แรลลี่ มีคิวดวลความเร็วในวันจันทร์ ที่ 8 มกราคม ใช้เส้นทางแข่งขันระหว่าง อัล ดูวาดามี-อัล ซาลามิย่า รวมระยะทางทั้งสิ้น 733 กิโลเมตร เป็นช่วงทดสอบพิเศษ 438 กิโลเมตร