Mazda 2 Minorchange (2023) เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วในญี่ปุ่น ลากขายตัวถังปัจจุบันนี้ต่อเป็นปีที่ 9 ! และ ยังคงไปต่อเนื่อง เจอกันในไทยครึ่งปีหลัง 2023 นี้
หลังจากที่ Mazda 2 เปิดตัวครั้งแรกในตลาดโลกตั้งแต่ปี 2014 เปิดตัวในไทยปี 2015 จนถึงตอนนี้ปี 2023 นับเป็นเวลา 9 ปีแล้ว ถือว่าเป็นระยะเวลาที่นานกว่าปกติที่รถยนต์แบบ Passenger Cars จะมีอายุขัยนานขนาดนี้ สาเหตุส่วนหนึ่งเป็นเพราะ Mazda 2 หรือ Mazda Demio ในญี่ปุ่นเอง ก็มีกระแสตอบรับจากลูกค้าที่ดีมาก ยอดขายก็ดีมากเช่นกัน ทำให้กว่าจะมีการ Minorchange ก็ผ่านระยะเวลามาถึง 7 ปี ถือว่ายาวนานกว่ารถยนต์รุ่นอื่นๆ
เมื่อเดือน พฤศจิกายน 2019 Mazda 2 มีการปรับโฉม Minorchange เป็นครั้งแรก ปรับดีไซน์ด้านหน้าใหม่ จากนั้นมีการปรับอุปกรณ์รายปี MY2021 ตามออกมาในช่วงเดือน กุมภาพันธ์ 2021 และ ปรับครั้งล่าสุดเมื่อเดือน พฤศจิกายน 2022 กับการปรับอุปกรณ์ MY2022 พร้อมสีใหม่ เบจ Sunlight Citrus
ล่าสุด Mazda ประเทศญี่ปุ่น เปิดตัว Mazda 2 Minorchange อีกครั้งเมื่อเดือน มกราคม 2023 ที่ผ่านมา เป็นการปรับดีไซน์ด้านหน้ารถอีกครั้ง หลังจากปี 2019 เคยปรับมาแล้วก่อนหน้านี้ และ Mazda ประเทศไทย ก็เตรียมเปิดตัว Mazda 2 Minorchange (2023) ตามมาในช่วงครึ่งปีหลัง 2023 นี้
ท่ามกลางการฟ้องร้องระหว่าง มาสด้า ประเทศไทย และ ผู้ใช้รถ Mazda 2 เครื่องยนต์ดีเซล ที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้บริษัทเรียกรถยนต์มาสด้า 2 เครื่องยนต์ดีเซล (Mazda 2 1.5 Skyactiv-D) ที่ผลิตในปี 2014 – 2018 ทุกคันมาซ่อมแซม พร้อมชดใช้ค่าเสียหายให้ผู้บริโภค
เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2566 คำพิพากษาศาลคดีหมายเลขดำที่ ผบ 347/2561 คดีหมายเลขแดงที่ ผบ 238/2566 ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ลงวันที่ 28 มีนาคม 2566 ระบุว่า คดีนี้มีโจทก์ 9 ราย และมีจำเลย 3 ราย ประกอบด้วย บริษัทมาสด้า เชลส์ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัทมาสด้า พาวเวอร์เทรน แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัทออโต้อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นจำเลยที่ 1-3 ตามลำดับ
อ่านคำพิพากษา ได้ที่นี่ https://www.prachachat.net/general/news-1248872 (ขอบคุณรายละเอียดจาก ประชาชาติธุรกิจ)
Mazda 2 Minorchange (2023) เวอร์ชั่นญี่ปุ่น รายละเอียดเบื้องต้น ดังนี้
มีการปรับรุ่นย่อย และ การตกแต่งใหม่ทั้งหมด แบ่งออกเป็น 3 รุ่นหลัก
- BD
- Sports
- Sunlit Citrus
ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นใน Mazda 2 Minorchange (2023)
- กระจังหน้า ดีไซน์ใหม่
- กันชนหน้า ดีไซน์ใหม่
- ล้ออัลลอย ดีไซน์ใหม่
- สีตัวถังภายนอก มีการเพิ่ม 2 สีใหม่ คือ
- สีฟ้าอ่อน Air Stream Blue Metallic
- สีเทา Aero Grey Metallic
ในรุ่นย่อยต่างๆ สามารถเลือกหลังคาได้ 2 สี คือ สีดำ Black และ สีขาว White
ในญี่ปุ่นมีให้เลือก 2 เครื่องยนต์คือ เบนซิน 1.5 ลิตร และ ดีเซล 1.5 เทอร์โบ มีทั้งขับเคลื่อน 2 ล้อ และ ขับเคลื่อน 4 ล้อ แต่สำหรับเวอร์ชั่นไทย จะยังคงใช้เครื่องยนต์เดิม คือ
เบนซิน 1.3 Skyactiv-G
เครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G 4 สูบ แถวเรียง 16 วาล์ว ขนาด 1.3 ลิตร 1,299 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 71.0 x 82.0 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 12.0 : 1 กำลังสูงสุด 93 แรงม้า ที่ 5,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 123 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ รองรับน้ำมันสูงสุด E20 ขับเคลื่อนล้อหน้า
ดีเซล 1.5 Skyactiv-D
เครื่องยนต์ดีเซล Skyactiv-D 4 สูบ แถวเรียง 16 วาล์ว ขนาด 1.5 ลิตร 1,499 ซีซี. พ่วงเทอร์โบ กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 76.0 x 82.5 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 14.8 : 1 กำลังสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ที่ 1,500 – 2,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า
สำหรับประเทศไทย Mazda 2 Minorchange (2023) เตรียมเปิดตัวตามมาในไทย ช่วงครึ่งปีหลัง 2023 นี้ หากมีข้อมูลเพิ่มเติม ทีมงาน autolifethailand จะรีบนำมารายงานให้ทราบกันครับ
เรียบเรียงข้อมูลทั้งหมดโดย www.autolifethailand.tv