เห็นตัวจริงพรางตัววิ่งกันบ่อยขึ้นแล้วสำหรับ All New MG5 หรือ MG 5 ใหม่ รถน้องใหม่คันล่าสุดของ MG Thailand ที่ขอหวนกลับมาทำตลาดรถยนต์นั่งในประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง โดยคาดว่า All New MG5 จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงต้นเดือนกรกฏาคม 2564 นี้
All New MG5 ใหม่นี้จะเป็นรถรุ่นเรือธงอีกหนึ่งรุ่นของ MG ประเทศไทย เพราะเห็นจากเป้ายอดขายที่คาดหวังไว้ที่ 42,000 คัน เติบโตเพิ่มขึ้นจากปี 63 ที่ขายได้ 28,316 คัน หรือเติบโตขึ้นกว่า 30% โดยรถยนต์ที่ MG หวังว่าจะเป็นตัวผลักดันยอดขายให้ได้ตามเป้าก็คือเจ้า All New MG5 นั่นเอง
รูปร่างหน้าตาของ All New MG5 นั้นผมเชื่อว่าแฟนๆ น่าจะได้เห็นกันตามเวปไซต์ต่างๆ กันแล้ว ซึ่งบอกได้เลยว่า “สวยว่ะ” และที่สวยคือสวยลามไปถึง “ภายใน” ด้วยสิ และนี่คือเหตุผลที่ SAIC Motor บริษัทแม่ของ MG ประเทศไทย ตัดสินใจบุกตลาดรถยนต์นั่งขนาดกลาง-เล็ก ในประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ไม่ประสบความสำเร็จอย่างมากจาก MG-5 และ MG6 รุ่นที่ผ่านมา
แต่มาในครั้งนี้ MG เตรียมตัวมาดีไม่น้อย กับ All New MG5 ที่มีการวางแผนขึ้นไลน์การประกอบที่ประเทศไทยล่วงหน้ากันมานาน ทำให้ไม่ได้ผลกระทบจากการขาดแคลนชิ้นส่วน เซมิ-คอนดักเตอร์ เลยไม่จำเป็นต้องเลื่อนแผนการเปิดตัว All New MG5 ออกไปเหมือนกับ Honda Civic โฉมใหม่ ที่ต้องเลื่อนแผนการเปิดตัวออกไปจากกำหนดเดิม เพราะปัญหาการขาดแคลน เซมิ-คอนดักเตอร์
เท่าที่เราทราบเกี่ยวกับแผนการตลาดของ MG เกี่ยวกับเจ้า All New MG5 ก็คือการวางตำแหน่งสินค้าว่าจะอยู่ในกลุ่มของรถ อีโคคาร์ ไฮโซ ไม่ว่าจะเป็น Honda City ,Nissan Almera เป็นหลัก ด้วยราคาจำหน่ายที่อยู่ระหว่าง 5.6 แสน – 7 แสนบาท แต่จะอาศัยความโดดเด่นในเรื่องของขนาดตัวถังที่จะมีขนาดที่ใหญ่ คือมี
มิติตัวถังอยู่ที่ 4,675 x 1,842 x 1,480 มิลลิเมตร (ยาว x กว้าง x สูง) ระยะฐานล้อ 2,680 มิลลิเมตร
ขณะที่ Honda City มีมิติตัวถังอยู่ที่
–4,553 x 1,748 x 1,467 มิลลิเมตร (ยาว x กว้าง x สูง) ระยะฐานล้อ : 2,589 มิลลิเมตร
ส่วน Nissan Almera มีมิติตัวถังอยู่ที่
4,495 x 1,760 x 1,460 มิลลิเมตร (ยาว x กว้าง x สูง) ระยะฐานล้อ: 2,620 มิลลิเมตร
ซึ่งเมื่อดูขนาดมิติ ตามตัวเลขแล้ว MG5 ใหม่ถือว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดารถอีโคคาร์ ซีดาน นั่นคือ “ข้อได้เปรียบ” ของ MG5 ใหม่ ที่จะเอามาเป็นจุดขายหลัก แต่เรื่องขนาดคงไม่ได้ใหญ่เท่ากัน Honda Civic หรือ Altis แน่นอน แต่ก็ต้องถือว่าใหญ่ที่สุดในบรรดารถยนต์อีโคคาร์บ้านเราแล้ว
ขณะที่การตกแต่งภายใน ก็ต้องบอกว่าเมื่อดูจากภาพต่างประเทศแล้ว บอกได้คำเดียวว่า “สวย” แต่ก็ต้องมาลุ้นดู “ของจริง” กันก่อนว่า เนี้ยบแค่ไหน คุณภาพของวัสดุเป็นอย่างไร คุณภาพการประกอบดีพอแข่งขันกับเพื่อนร่วมวงการได้หรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ ต้องรอดูตัวจริงครับว่า “จะสวยแต่รูป” หรือเปล่า ไม่นานเกินรอเราได้ทราบกันแน่
ส่วนเรื่องของเครื่องยนต์ยืนยัน คอนเฟิร์ม ได้เลยว่า All New MG5 เวอร์ชั่นประเทศไทยนั้นใช้เครื่องยนต์เบนซินธรรมดาชนาด 1.5 ลิตร 120 แรงม้า ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ตัวเดียวกับ MG ZS นั่นเอง นั่นก็เลยพอจะ “เดาทาง” ลักษณะนิสัยการขับของ MG5 ใหม่ตัวนี้ได้ว่าเป็นไปแบบ เรื่อยๆ มาเรียงๆ ไม่ฉวัดเฉวียนแน่นอน ส่วนช่วงล่าง เรายังมั่นใจว่า ช่วงล่างของ MG เวอร์ชั่นไทย จะค่อนข้างหนึบ แต่ก็ต้องมาดูตัวจริงกันว่าจะเป็นอย่างนั้นหรือเปล่า
ด้านจุดขายอีกหนึ่งจุดที่เราจะไม่เห็นใน MG5 ใหม่คือระบบ i-smart ที่จะถูกใส่ไว้ในรถรุ่นนี้ เพราะค่อนข้างแน่นอนแล้วว่า MG จะติดตั้งระบบ i-Smart มาให้ใน All-new MG5 เวอร์ชั่นไทย ตามแนวคิดของแบรนด์ที่ให้รถยนต์มีความอัจฉริยะมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสั่งงานด้วยเสียง การตรวจเช็คสถานะของตัวรถ การสั่งงานต่างๆ ผ่านแอปพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน ซึ่งเราเชื่อว่า All-new MG5 เวอร์ชั่นไทย จะเป็นรถยนต์รุ่นแรกในตลาดกลุ่มนี้ที่ทำให้ผู้ขับขี่สามารถใช้สมาร์ทโฟนเป็นกุญแจรถได้ นั่นคือสามารถสั่ง “สตาร์ท” รถได้ “เปิด-ปิด” ล็อคประตูได้
นั่นคือข้อมูลเบื้องต้นของ All New MG5 ที่ autolifethailand.tv ทราบมาในแบบคร่าวๆ ครับ ว่าเป็นแบบนี้ ก็ต้องมารอลุ้นว่าตัวจริงๆ ของ MG5 ใหม่นั้นจะเป็นอย่างไร มีราคาค่าค่าตัวเท่าใด จะเป็นเหมือนอย่างที่เราสืบทราบมาหรือเปล่า ไม่นานได้รู้กัน