รถยนต์ยุคใหม่มาพร้อมกับเครื่องยนต์กลไกที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ดังนั้นเครื่องยนต์จึงต้องได้รับการดูแลปกป้องที่ดียิ่งกว่าเดิม ส่วนสำคัญที่สุดในการทำหน้าที่ดังกล่าวก็คือน้ำมันเครื่อง แต่ยุคนี้ ประโยคที่ว่า “ใช้น้ำมันเครื่องอะไรก็ได้ เหมือนกันหมดแหละ” ไม่ใช่อีกต่อไป หรือบางทีการเติมน้ำมันเครื่องตามที่ช่างแนะนำก็อาจไม่ตอบโจทย์ความต้องการจริงๆ ของผู้ขับขี่
PTT Lubricants ผู้นำตลาดน้ำมันเครื่องในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน เล็งเห็นแนวโน้มความต้องการของผู้ใช้รถยนต์ ณ ปัจจุบันและในอนาคต และเชื่อว่าน้ำมันเครื่องที่ดีต้องไม่เพียงแค่มีหน้าที่ปกป้องเครื่องยนต์อย่างเดียวเท่านั้น แต่ต้องตอบสนองความต้องการในทุกด้านของการขับขี่ได้ด้วย ต้องเสริมสมรรถนะให้กับรถ และต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เหตุผลเหล่านี้คือสิ่งที่ผู้ขับขี่ยุคใหม่ต้องการ ด้วยเหตุนี้ PTT Lubricants จึงได้ริเริ่มพัฒนาน้ำมันเครื่องยุคใหม่ภายใต้แนวคิดเทคโนโลยีแพลตฟอร์มใหม่ที่มีชื่อว่า EVOTEC Technology
แล้ว EVOTEC Technology คืออะไร?
EVOTEC Technology คือแนวคิดในการพัฒนาน้ำมันเครื่องให้ดียิ่งขึ้นเพื่อยานยนต์ยุคใหม่ หัวใจหลักของการพัฒนาคือการคำนึงถึงคุณประโยชน์ใน 3 ด้าน (3E Benefits) ได้แก่ Endurance, Efficiency และ Environment เพื่อตอบโจทย์ตั้งแต่ในระดับผู้ใช้งานทั่วไปจนถึงในสภาวะใช้งานหนัก
ENDURANCE ชะล้างสิ่งสกปรก พร้อมกับการปกป้องเครื่องยนต์ให้ทนทานสูงสุดทุกสภาวะ น้ำมันเครื่องรุ่นใหม่จะมีคุณสมบัติในการควบคุมความสะอาดของเครื่องยนต์ พร้อมคุณสมบัติป้องกันการสึกหรอของชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ที่ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะในชุดขับเคลื่อนวาล์ว เช่น โซ่ราวลิ้น ลูกเบี้ยว และเพลา จึงทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ยืดอายุของเครื่องยนต์ได้ยาวนาน และยังช่วยลดปัญหาการชิงจุดระเบิดที่รอบต่ำ (LSPI) ที่มักเกิดขึ้นในเครื่องยนต์ Turbo–GDI จึงช่วยปกป้องชิ้นส่วนเครื่องยนต์จากความเสียหายอย่างรุนแรงและฉับพลัน
EFFICIENCY จากหน้าที่หลักในการหล่อลื่นชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ น้ำมันเครื่องรุ่นใหม่จะช่วยลดความเสียดทานของเครื่องยนต์ได้อย่างดีเยี่ยม ทุกชิ้นส่วนทำงานได้อย่างคล่องตัว ราบรื่น ไม่ติดขัด ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มสมรรถนะ อัตราเร่งได้ดียิ่งขึ้น ตอบสนองดีขึ้น และยังให้การประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น
ENVIRONMENT เมื่อเครื่องยนต์ทำงานได้อย่างราบรื่นก็จะลดการใช้เชื้อเพลิงลง ส่งผลให้ปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และปริมาณก๊าซไอเสียลดลง น้ำมันเครื่องรุ่นใหม่สามารถรองรับเทคโนโลยีเครื่องยนต์ยุคใหม่อย่างเช่นเครื่องยนต์ GDI, Turbo–GDI, เครื่องยนต์ไฮบริด และระบบ Engine Start–Stop ทั้งยังไม่ทำอันตรายต่ออุปกรณ์ในระบบบำบัดไอเสีย สามารถต้านทานการเสื่อมสภาพจากความร้อนและปฏิกิริยาเคมีได้ดียิ่งขึ้น รองรับเชื้อเพลิงเบนซินได้ทั้งเบนซินธรรมดาและแก๊สโซฮอล์ โดยมีระยะการใช้งานยาวนานสูงสุดถึง 15,000 กิโลเมตร
PERFORMA สูตรใหม่
ตอนนี้ PTT Lubricants ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มน้ำมันหล่อลื่นสำหรับเครื่องยนต์เบนซินภายใต้แพลตฟอร์ม EVOTEC Technology ออกมาแล้ว ซึ่งมาพร้อมกับมาตรฐานใหม่ API SP และ ILSAC GF-6A ที่เพิ่งถูกประกาศใช้เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา โดย PTT Lubricants เริ่มใช้สูตรใหม่นี้กับน้ำมันเครื่องเกรดสังเคราะห์แท้ 100% แล้ว 3 เบอร์ ได้แก่ PERFORMA SUPER SYNTHETIC SAE 0W–20 และ 0W-30 รวมทั้ง PERFORMA SYNTHETIC ECO CAR SAE 0W–20
น้ำมันเครื่อง PERFORMA สูตรใหม่นี้ถูกพัฒนาด้วย EVOTEC Technology จึงได้เทคโนโลยีสารเพิ่มคุณภาพใหม่ล่าสุด SMART Molecules ที่ผสานการทำงานของสารทำความสะอาดเครื่องยนต์ไปพร้อมกับยังยับยั้งการเกิดปัญหาการชิงจุดระเบิดที่รอบต่ำที่เป็นอันตรายกับเครื่องยนต์ Turbo–GDI
สารเพิ่มคุณภาพ SMART Molecules จะช่วยปกป้องเครื่องยนต์ได้ดียิ่งขึ้นทั้งในด้านความสะอาดและลดการสึกหรอ แก้ปัญหาการชิงจุดระเบิดที่รอบต่ำ (LSPI) ได้อย่างดีเยี่ยม ลดความเสียดทานและแรงต้านในเครื่องยนต์ได้มากยิ่งขึ้น ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานราบเรียบ เต็มกำลัง ตอบสนองอัตราเร่งได้ดีในทุกสภาวะ ประหยัดเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซไอเสีย และน้ำมันเสื่อมสภาพช้าลง ทนต่อความร้อน สารเคมี และแรงเฉือนได้ดียิ่งขึ้น ทำให้หล่อลื่นได้ดีตลอดระยะการใช้งานที่ยาวนานสูงสุดถึง 15,000 กิโลเมตร
PERFORMA SUPER SYNTHETIC SAE 0W-20
น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ 100% ประสิทธิภาพสูง พร้อมมาตรฐานใหม่ล่าสุด API SP และ ILSAC GF-6A สำหรับเครื่องยนต์เบนซินรุ่นใหม่ที่เป็นระบบฉีดตรง (GDI) มาพร้อม EVOTEC Technology ร่วมกับ SMART Molecules ที่มาพร้อมคุณสมบัติเพิ่มการปกป้องเครื่องยนต์จากการสึกหรอได้ดียิ่งขึ้น 38% ควบคุมความสะอาดได้เหนือกว่าถึง 9.5% เมื่อเทียบกับน้ำมันเครื่องทั่วไปมาตรฐาน API SP ยับยั้งการเสื่อมสภาพจากความร้อนและสารเคมีได้มากขึ้น 66% ลดการเกิดโคลนตะกอนได้เหนือกว่าถึง 9.6% พร้อมป้องกันอาการการชิงจุดระเบิดที่รอบต่ำได้อย่างดีเยี่ยมเหนือกว่ามาตรฐาน API SP ทั่วไปถึง 49% และน้ำมันคงประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยมได้ตลอดจนถึงระยะเปลี่ยนถ่าย
เหมาะกับรถยนต์เบนซินที่ใช้เครื่องยนต์ประเภท GDI และ Turbo–GDI ที่ใช้เบอร์ความหนืด SAE 0W-20 หรือ 5W-20 เครื่องยนต์เบนซินรุ่นใหม่ที่ติดตั้งระบบ Start–Stop และรถยนต์ไฮบริดรุ่นใหม่ สามารถใช้กับเครื่องยนต์เบนซินประเภทหัวฉีดทั่วไป (PFI) ที่ใช้เบอร์ความหนืด SAE 0W–20 หรือ 5W–20 ได้เช่นเดียวกัน
PERFORMA SUPER SYNTHETIC SAE 0W-30
มาพร้อมคุณสมบัติเพิ่มการปกป้องเครื่องยนต์จากการสึกหรือได้ดียิ่งขึ้นสูงสุด 38% ควบคุมความสะอาดได้เหนือกว่าถึง 7.1% เมื่อเทียบกับน้ำมันเครื่องทั่วไปมาตรฐาน API SP พร้อมการประหยัดน้ำมันมากขึ้น 33% เมื่อเทียบกับเบอร์เดียวกัน ยับยั้งการเสื่อมสภาพจากความร้อนและสารเคมีได้ดียิ่งขึ้นถึง 100% และลดการเกิดโคลนตะกอนได้เหนือกว่าถึง 9.6% ป้องกันอาการการชิงจุดระเบิดที่รอบต่ำได้อย่างดีเยี่ยมเหนือกว่ามาตรฐาน API SP ทั่วไปถึง 35% และน้ำมันคงประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยมได้ตลอดจนถึงระยะเปลี่ยนถ่าย
เหมาะสำหรับรถยนต์เบนซินที่ใช้เครื่องยนต์ประเภท GDI และ Turbo–GDI ที่ใช้เบอร์ความหนืด SAE 0W-30, 5W-30 หรือ 10W-30 เครื่องยนต์เบนซินรุ่นใหม่ที่ติดตั้งระบบ Start–Stop และรถยนต์ไฮบริดรุ่นใหม่ สามารถใช้ได้กับเครื่องยนต์เบนซินประเภทหัวฉีดทั่วไป (PFI) ที่ใช้เบอร์ความหนืด SAE 0W-30, 5W-30 หรือ 10W-30 ได้เช่นเดียวกัน
PERFORMA SYNTEHTIC ECO CAR SAE 0W-20
น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ 100% ที่ออกแบบมาสำหรับรถยนต์อีโคคาร์เครื่องยนต์ไม่เกิน 1,300 ซีซี ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ ทั้งที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินประเภทหัวฉีดทั่วไป หรือประเภทฉีดตรง (ทั้งมีและไม่มีเทอร์โบ) ที่ใช้เบอร์ความหนืด SAE 0W-20 หรือ 5W-20
มาพร้อมคุณสมบัติให้การประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้ดียิ่งขึ้น 27% เหนือกว่าน้ำมันเครื่องทั่วไปเบอร์ความหนืด SAE 0W-20 มาตรฐาน ILSAC GF-6A เพิ่มการปกป้องเครื่องยนต์จากการสึกหรอได้ดียิ่งขึ้น 38% ควบคุมความสะอาดได้เหนือกว่าถึง 9.5% เมื่อเทียบกับน้ำมันเครื่องทั่วไปมาตรฐาน API SP ยับยั้งการเสื่อมสภาพจากความร้อนและสารเคมีได้มากขึ้น 66% ลดการเกิดโคลนตะกอนได้เหนือกว่าถึง 9.6% จึงเป็นที่มาของการลดมลพิษจากท่อไอเสีย
จากความยอดเยี่ยมของแพลตฟอร์ม EVOTEC Technology ร่วมกับ SMART Molecules รวมถึงการผ่านมาตรฐาน API SP และ ILSAC GF-6A จากสถาบันปิโตรเลียมแห่งสหรัฐอเมริกา ทั้งหมดเป็นเครื่องยืนยันได้ว่าน้ำมันเครื่อง PERFORMA สูตรใหม่มีคุณภาพที่ยอดเยี่ยมและไม่ธรรมดาจริง ๆ ข้อมูลจากการทดสอบอย่างเข้มข้นชี้ให้เห็นว่ามีประสิทธิภาพเหนือกว่าน้ำมันเครื่องมาตรฐาน API SN และ ILSAC GF-5 เดิมทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นคุณสมบัติด้านการปกป้องเครื่องยนต์ สมรรถนะที่เพิ่มขึ้น รวมถึงความสะอาดและการปล่อยมลพิษที่ลดลง
น้ำมันเครื่อง PERFORMA สูตรใหม่ทั้ง 3 เบอร์ รองรับความต้องการของผู้ใช้รถได้หลากหลาย สามารถใช้ได้กับรถยนต์รุ่นใหม่ที่เป็นเครื่องยนต์เบนซินทั่วไป เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ ไปจนถึงเครื่องยนต์ไฮบริด ทั้งยังมีระยะเปลี่ยนถ่ายสูงสุดถึง 15,000 กม. ถือได้ว่า “ดีทั้งคุณภาพ คุ้มค่าในระยะยาว” ผู้สนใจสามารถหาซื้อได้ที่ PTT Station หรือ FIT Auto ทุกสาขา รวมถึงตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ