แฟนๆ มินิ ได้กรี๊ด มินิ ประเทศไทน เปิดตัว มินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน เอนทรี ในราคา 1,989,000 บาท ถือเป็นครั้งแรกของมินิ ที่นำเครื่องยนต์ในตระกูล S มาจำหน่ายในราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาท
สำหรับ มินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน เอนทรี จะเปิดตัวในงาน MINI Expo 2019 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 30 สิงหาคม – 2 กันยายน พ.ศ. 2562 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ พร้อมกับ มินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน ในโพรไฟล์ใหม่อีก 2 รุ่น และเทคโนโลยี MINI Connected เป็นครั้งแรก หลังจากปล่อยให้เพื่อนร่วมค่ายอย่าง BMW เปิดตัสไปก่อนหน้านี้
สำหรับมินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน โพรไฟล์ใหม่ 3 รุ่น ประกอบด้วย มินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน
เอนทรี ในราคา 1,989,000 , มินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน ราคา 2,299,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา MSI Standard) และมินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน ไฮทริมราคา 2,499,000 บาท ซึ่งทุกรุ่นมาพร้อมเทคโนโลยี MINI Connected เป็นครั้งแรก
มินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน เอนทรี โพรไฟล์ใหม่ วางเครื่องยนต์ MINI TwinPower Turbo เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังขับเคลื่อนสูงสุดอยู่ที่ 141 กิโลวัตต์ / 192 แรงม้า ที่ 5,000 – 6,000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร ที่ 1,350-4,600 รอบต่อนาที
ความเร็วสูงสุดที่ 224 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สามารถเร่งจาก 0 – 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 7.4 วินาที อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ 15.9 กิโลเมตรต่อลิตร ระดับการปล่อย CO2 เพียง 142 กรัมต่อกิโลเมตร และทำงานร่วมกับระบบเกียร์อัตโนมัติ Steptronic 8 จังหวะ
รูปร่างหน้าตา ของมินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน เอนทรี ยังคงโฉบเฉี่ยวและอเนกประสงค์อันเป็นเอกลักษณ์ของตระกูลมินิ คันทรีแมนทั้งภายในและภายนอก พวงมาลัยหนังแท้สปอร์ตแบบมัลติฟังก์ชั่นระบบ Servotronic ยังมีอยู่
เบาะนั่งหนังแท้สีดำ Leather Cross Punch Carbon Black สไตล์สปอร์ต เข้ากันกับการตกแต่งภายในสี Hazy Grey
ส่วนภายนอกยังคงพกพาความสปอร์ตมาอย่างเต็มเปี่ยมด้วยล้ออัลลอย Pair Spoke สีเงินขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง Runflat รูปโฉมสะดุดตาด้วยเส้นสายการตกแต่งบริเวณกระโปรงหน้า ฝาครอบกระจกข้าง และหลังคาในสีดำ ไฟหน้า LED daytime driving light พร้อม LED Fog light ตัดหมอกทั้งไฟหน้าและไฟท้าย
ก่อนจะเสริมความเอ็กซ์คลูซีฟด้วย MINI Excitement Package ที่มาพร้อมกับระบบไฟเพื่อฉายโลโก้มินิลงบนพื้นบริเวณฝั่งคนขับเมื่อเปิดประตูรถ
สำหรับระบบช่วยผู้ขับขี่ มอบความสะดวกสบายและความปลอดภัยด้วยระบบควบคุมความเร็วคงที่พร้อมฟังก์ชั่นช่วยลดความเร็ว ระบบควบคุมการยึดเกาะถนน (DTC) ระบบเซนเซอร์ควบคุมระยะการจอด (PDC) ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (DSC) โดยในรุ่นมินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน จะมาพร้อมกับระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ (Parking Assistant) ด้วย
ส่วนมินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน ไฮทริม มาพร้อมเบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร พร้อมเทคโนโลยี MINI TwinPower Turbo ที่มอบกำลังสูงสุดถึง 141 กิโลวัตต์/192 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร ที่ 1,350-4,600 รอบต่อนาที และทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ Steptronic 8 จังหวะแบบสปอร์ตพร้อม Paddle Shift
ดีไซน์ภายนอกของมินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน ไฮทริม มาพร้อมล้ออัลลอยลาย Edged Spoke ขนาด
19 นิ้ว พร้อมยาง Runflat รอบคันตกแต่งด้วย Chrome Line ตัดขอบด้วยเส้นสายโครเมียมสีเงิน สายคาดบนฝากระโปรง หลังคา และฝาครอบกระจกในสีขาวหรือดำ
พร้อมราวหลังคา ไฟหน้า LED daytime driving light และไฟ LED Fog light ตัดหมอกทั้งไฟหน้าและไฟท้าย ส่วนกล้องมองหลังติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์พื้นฐาน และยังคงความเอ็กซ์คลูซีฟด้วย MINI Excitement Package ที่ฉายโลโก้มินิบนพื้นบริเวณฝั่งคนขับเช่นเดียวกัน
ภายในห้องโดยสารตกแต่งในสไตล์ MINI Yours Piano Black Illuminated สะดุดตาด้วยสีดำมันวาว พร้อมไฟสีที่แต่งแต้มห้องโดยสารเพื่อเสริมสร้างบรรยากาศยามค่ำคืน และตัดขอบด้วย Chrome Line เช่นเดียวกับภายนอก ทั้งยังมาพร้อมกับพวงมาลัยหนังแท้สไตล์ MINI Yours แบบสปอร์ตพร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่น และกระจกมองหลังตัดแสงเพื่อความสบายตา
ระบบช่วยผู้ขับขี่ในมินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน ไฮทริม มีครบครันทั้งระบบควบคุมความเร็วคงที่พร้อมฟังก์ชั่นช่วยลดความเร็ว ระบบควบคุมการยึดเกาะถนน (DTC) ระบบเซนเซอร์ควบคุมระยะการจอดด้านหน้าและหลัง (PDC) และระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (DSC) และระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ (Parking Assistant)
สำหรับเทคโนโลยี MINI Connected ในมินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน ไฮทริม มาในแพ็คเกจ Navigation Plus ทำให้ระบบความบันเทิงการสื่อสารในรุ่นไฮทริมนี้สามารถยกระดับประสบการณ์ในการขับขี่ได้อย่างเต็มรูปแบบ
มาพร้อมบริการพื้นฐานดังเช่นในรุ่น มินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน และเสริมบริการเชื่อมต่ออย่างครบวงจรมากยิ่งขึ้นด้วยบริการอัพเดตข้อมูลการจราจรแบบนาทีต่อนาทีจาก Real-Time Traffic Information (RTTI) บริการ Apple CarPlay Preparation ให้สามารถควบคุมแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ บน iPhone ได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น และ FindMate บริการแจ้งเตือนตำแหน่งของใช้ส่วนตัวผ่านแอพพลิเคชั่น MINI Connected โดยมาพร้อมระบบนำทาง MINI Navigation และจอระบบสัมผัสขนาด 8.8 นิ้ว
สำหรับรถยนต์มินิรุ่นที่ผลิตตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 2561 จะมาพร้อมซิมการ์ดที่ติดตั้งไว้ในตัวรถ เพื่อการใช้งานฟีเจอร์พื้นฐานของ MINI Connected เช่น สำหรับ มินิ คูเปอร์ เอส คันทรี่แมน ไฮทริม จะมาพร้อมแพ็คเกจ MINI Connected Navigation Plus และจอระบบสัมผัสขนาด 8.8 นิ้ว
ส่วนในรุ่นมินิ คูเปอร์ เอส คันทรี่แมน และมินิ คูเปอร์ เอส คันทรี่แมน เอนทรี จะมาพร้อมแพ็คเกจ MINI Connected Media และจอระบบสัมผัสขนาด 6.5 นิ้ว โดยไฮไลท์ของฟีเจอร์พื้นฐานที่สามารถใช้งานได้ในทุกแพ็คเกจ นอกจากการเชื่อมต่อระบบความบันเทิง เช่น แอพพลิเคชั่นสปอติฟาย (Spotify) และการแสดงผลข้อมูลการขับขี่ต่าง ๆ แล้ว ยังสามารถเข้าถึงข้อมูลสภาพอากาศประจำวันและข้อมูลอื่น ๆ บนอินเตอร์เน็ตได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านทางจอระบบสัมผัสบริเวณกลางแผงคอนโซล รวมถึงบริการช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่ล้ำสมัยอื่น ๆ อีกมากมาย
รายละเอียด:
แพ็กเกจ Connected Media มาพร้อมอุปกรณ์และครอบคลุมการให้บริการดังนี้
- หน้าจอขนาด 6.5 นิ้ว ระบบสัมผัส
- บริการ Remote Services: เข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ของรถยนต์จากแอพพลิเคชั่น MINI Connected บนโทรศัพท์ เช่น ระยะทางที่ขับไปแล้ว สถานะของหน้าต่างและประตู ซึ่งบริการนี้ยังสามารถควบคุมระบบปรับอากาศ ระบบแตร และระบบไฟจากระยะไกลได้
- บริการ Teleservices: บริการที่ช่วยจัดการนัดหมายอัตโนมัติผ่านการแชร์ข้อมูลของรถยนต์กับศูนย์บริการมินิที่คุณต้องการ หรือผู้ขับขี่สามารถทำการติดต่อผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของมินิด้วยตนเองผ่าน Teleservice Call
- บริการ Intelligent Emergency Call: ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่ติดต่อกับศูนย์บริการฉุกเฉินของมินิ
ทางโทรศัพท์เพียงแค่กดปุ่ม SOS หรือในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ระบบเซ็นเซอร์การชนจะส่งสัญญาณแจ้งตำแหน่งพิกัดรถโดยอัตโนมัติไปยังศูนย์บริการ เพื่อการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที - Connected Drive Services: ติดตามข้อมูลข่าวสารและข้อมูลสภาพอากาศประจำวันโดยละเอียดจาก RSS feed และยังมีบริการ Online Search ที่สามารถค้นหาตำแหน่งที่ตั้งของสถานที่ต่าง ๆ และส่งข้อมูลไปยังระบบนำทางในรถโดยอัตโนมัติ
แพ็กเกจ Connected Navigation มาพร้อมอุปกรณ์และครอบคลุมการให้บริการข้างต้น รวมทั้งเพิ่มเติมดังนี้
- หน้าจอขนาด 6.5 นิ้ว ระบบสัมผัส พร้อมระบบแผนที่นำทาง
- ระบบนำทางพร้อมข้อมูลการจราจรจาก Real-Time Traffic Information (RTTI) ที่สามารถแสดงข้อมูลสภาพการจราจรแบบนาทีต่อนาที ผ่านทั้งระบบนำทางภายในรถและแอพพลิเคชั่น
MINI Connected - การอัพเดทแผนที่ผ่านคลื่นสัญญาณโทรศัพท์ไร้สายอัตโนมัติ เพื่อการใช้งานบนแผนที่ที่ได้รับ
การอัพเดทข้อมูลล่าสุดอย่างมั่นใจ - Apple CarPlay Preparation: เข้าถึงฟีเจอร์และแอพพลิเคชั่นโปรดใน iPhone จากรถยนต์มินิได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะฟังเพลง รับสายโทรศัพท์ หรือพูดคุยกับ Siri รวมถึงการใช้งานแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ผ่านระบบ MINI Connected
แพ็กเกจ Connected Navigation Plus มาพร้อมอุปกรณ์และครอบคลุมการให้บริการข้างต้น รวมทั้งเพิ่มเติมดังนี้
- หน้าจอขนาด 8.8 นิ้ว พร้อมปุ่ม MINI Touch Controller แบบสัมผัส และระบบแผนที่นำทาง
- MINI FindMate มาพร้อมอุปกรณ์ระบุตำแหน่ง GPS เพื่อแจ้งเตือนตำแหน่งของใช้สำคัญต่าง ๆ เช่น กุญแจรถหรือกระเป๋าสตางค์ ผ่านการส่งสัญญาณบลูทูธที่เชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่น MINI Connected บนสมาร์ทโฟน โดยจะส่งสัญญาณแจ้งเตือนผู้ใช้งานหากอยู่ห่างจากตัวส่งสัญญาณเกิน 40 เมตร
เทคโนโลยี MINI Connected ที่ได้รับการพัฒนาการเชื่อมต่อให้ล้ำสมัยยิ่งขึ้นนี้ สามารถเริ่มต้นการใช้งาน
ได้ง่ายๆ เพียงดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น MINI Connected เท่านั้น ลูกค้าจะเพลิดเพลินกับความสะดวกสบายและประสบการณ์การเชื่อมต่อระหว่างขับขี่ที่เหนือชั้นเป็นระยะเวลาสูงสุด 3 ปีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย หลังจากนั้น ลูกค้าสามารถสร้างสรรค์ประสบการณ์การเชื่อมต่อจาก MINI Connected แบบเฉพาะบุคคล โดยเลือกสมัครใช้แต่ละแอพพลิเคชั่นหรือบริการต่าง ๆ เพิ่มเติมจากบริการพื้นฐานได้ตามความต้องการ
รายละเอียดของแพ็กเกจ MINI Connected ในรุ่นต่างๆ
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาไปที่ www.mini.co.th/en_TH/home/range/mini-connected.html
MINI แคมเปญ 60 ปี 60 วัน 60 ถัง
เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปีแห่งตำนานของยนตรกรรมสไตล์บริติชสุดคลาสสิค สำหรับลูกค้ามินิทุกท่านที่ทำการจองรถยนต์ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม จนถึงวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2562 และรับส่งมอบรถยนต์ภายในเดือนกันยายน พ.ศ. 2562 จะได้รับสิทธิประโยชน์เติมน้ำมันฟรี 60 ถัง*