ประธานมิตซูบิชิ ญี่ปุ่น ประกาศขึ้นไลน์ประกอบรถยนต์ มิตซูบิชิ เอาท์แลนด์เดอร์ ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ในประเทศไทย เป็นแห่งแรกในอาเซียน คาดจำหน่ายไม่เกินเดือนมีนาคม 2564 ราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท ตั้งเป้าขายปีแรก 3,000 คัน พร้อมทุ่มงบอีก 25,000 ล้านเยน ปรับปรุงโรงงานแหลมฉบัง แข่งระดับโลก
มร.โอซามุ มาสุโกะ ประธานคณะกรรมการ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น จำกัด ให้สัมภาษณ์พิเศษ ว่ามิตซูฯ จะยังคงเดินหน้าลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องโดยในปีนี้จะลงทุนปรับปรุงโรงงานพ่นสีอีก 12,000 ล้านเยน (ราว 3,600ล้านบาท) และปรับปรุงไลน์การผลิตรถยนต์ใหม่ทั้งระบบเพื่อลดต้นทุน รวมทั้งพัฒนาการผลิตรถยนต์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยการนำระบบหุ่นยนต์เข้ามาช่วยในการผลิตด้วยงบประมาณ 13,000 ล้านเยน (3,900ล้านบาท) และขึ้นไลน์การประกอบ รถยนต์มิตซูบิชิ เอาท์แลนด์เดอร์ ปลั๊กอินไฮบริด ในไทยด้วย
“การลงทุนปรับปรุงไลน์การผลิตทั้งระบบนั้นจะสรุปอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายนนี้ ส่วนการลงทุนปรับปรุงโรงงานพ่นสีได้ลงทุนไปแล้ว ซึ่งการพัฒนาโรงงานที่แหลมฉบังครั้งนี้ เป็นการลงทุนพัฒนาครั้งแรกตั้งแต่ก่อตั้งโรงงาน เพื่อให้มิตซูบิชิ มีความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลกได้” นายมาสุโกะ กล่าว
ประธานคณะกรรมการ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น กล่าวถึงแผนการผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ในประเทศไทยว่า มีแผนจะขึ้นไลน์การประกอบรถยนต์นั่งเอนกประสงค์อย่าง มิตซูบิชิ เอาท์แลนด์เดอร์ ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ที่โรงงานแหลมฉบังอย่างเป็นทางการภายในปีหน้า และถือเป็นการประกอบ มิตซูบิชิ เอาท์แลนด์เดอร์ ปลั๊กอินไฮบริด ครั้งแรกในภูมิภาคอาเซียน
“เมื่อเดือนที่แล้ว เราเพิ่งเปิดตัว เอาท์แลนด์เดอร์ ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ในประเทศอินโดนีเซีย โดยเป็นรุ่นนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น แต่ในประเทศไทยจะเป็นการขึ้นไลน์ประกอบขึ้นที่โรงงานแหลมฉบัง ซึ่งประเทศไทยถือเป็นประเทศแรกในอาเซียนที่ประกอบเอาท์แลนด์เดอร์ ปลั๊กอินไฮบริด(PHEV) ”
สำหรับการลงทุนประกอบ มิตซูบิชิ เอาท์แลนด์เดอร์ ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) นั้นเป็นไปตามแผนการลงทุนที่มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เสนอต่อคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ด้วยเงินลงทุน 3,130 ล้านบาท และได้รับอนุมัติเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้ มิตซูบิชิ เอาท์แลนด์เดอร์ ปลั๊กอินไฮบริด ในประเทศไทยจะเริ่มขึ้นไลน์การผลิตในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2020 และจะเริ่มจำหน่ายในประเทศไทยทันที และอยู่ระหว่างการพิจารณาการขึ้นไลน์การประกอบมิตซูบิชิ Eclipse Cross รถยนต์นั่งอเนกประสงค์ ปลั๊กอินไฮบริด ต่ออีกด้วย แต่ต้องขึ้นอยู่กับการสนับสนุนของภาครัฐ และการตอบรับจากตลาดในประเทศไทยด้วย
มร. โมริคาซุ ชกกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าได้ตั้งเป้ายอดขาย มิตซูบิชิ เอาท์แลนด์เดอร์ ปลั๊กอินไฮบริด ในประเทศไทยไว้ที่ปีละ 3,000 คัน ส่วนการส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ ในอาเซียนนั้น ต้องศึกษารายละเอียดของต้นทุนว่าสามารถทำได้หรือไม่ แต่ในเบื้องต้นยังไม่มีการส่งออกแต่อย่างใด
“ยอดขายที่ตั้งเป้า 3,000 คัน ขึ้นอยู่กับการสนับสนุนของภาครัฐในภาวะปัจจุบัน แต่หากหลังจากนี้รัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนมากกว่าในปัจจุบันเชื่อว่ายอดจำหน่ายจะเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน”
แหล่งข่าวจาก บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับราคาจำหน่าย OUTLANDER PHEV คาดว่าราคาจะอยู่ในระดับ 1.8 ล้าน-2ล้านบาท โดยรุ่นที่จะประกอบนั้นจะเป็นรุ่นในโมเดล 2020
สำหรับ มิตซูบิชิ เอาท์แลนด์เดอร์ ปลั๊กอินไฮบริด นั้นวางจำหน่ายเป็นครั้งแรกของโลกเมื่อปี 2556 สร้างสถิติใหม่คว้ายอดจำหน่ายทั่วโลกครบ 200,000 คัน จนสามารถครองอันดับหนึ่งรถยนต์ประเภทปลั๊กอินไฮบริดขายดีที่สุดในโลก เมื่อสิ้นสุดเดือนธันวาคมปี 2561 และครองอันดับหนึ่งรถยนต์ประเภทปลั๊กอินไฮบริดขายดีที่สุดในยุโรปต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 4 ปี ( 2558 – 2561)
มิตซูบิชิ เอาท์แลนด์เดอร์ ปลั๊กอินไฮบริด เวอร์ชั่นปี 2019 ได้อัพเกรดระบบขับเคลื่อนและเทคโนโลยีให้สมบูรณ์มากขึ้น โดยใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.4 ลิตร ใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพในการประหยัดเชื้อเพลิง, แบตเตอรี่ที่สามารถเก็บประจุไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้น 15% และจ่ายไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้น 10% มอเตอร์ไฟฟ้าด้านหลังที่ปรับสมรรถนะเพิ่มขึ้น17% และโหมดการขับขี่ใหม่ที่มีให้เลือแบบสปอร์ตและแบบขับขี่บนหิมะ สามารถวิ่งได้ระยะทางไกลมากถึง 700 กิโลเมตร ต่อน้ำมัน 1 ถัง และการชาร์จไฟ 1 ครั้ง
มร.โอซามุ มาสุโกะ ประธานคณะกรรมการ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้เดินทางมาประเทศไทย เพื่อมาเป็นประธานในพิธีฉลองฉลองความสำเร็จอีกครั้งด้วยการส่งออกรถยนต์ครบ 4 ล้านคัน ของศูนย์การผลิตของ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ที่อำเภอแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่31 กรกฏาคม 2562โดยรถคันที่ 4 ล้านคือ มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ที่เตรียมส่งออกไปยังทวีปยุโรป