Mercedes-Benz Vision Iconic
ค่ายดาวสามแฉกหมายมั่นที่จะเข้าสูยุคใหม่ของดีไซน์อันโดดเด่น นำไปสู่การเปิดตัวรถยนต์ต้นแบบ Mercedes-Benz Vision Iconic เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2025 ที่จะมาวางรากฐานของการฉีกกฎเกณฑ์เดิม สู่อิสระของการริเริ่มสิ่งใหม่ ไปพร้อมกับการเชื่อมต่ออดีตสู่อนาคต เป็นเหตุให้รถยนต์ต้นแบบคันนี้มีอัตลักษณ์การออกแบบของรุ่นดังจากอดีตในหลายจุด เริ่มต้นกับกระจังหน้าแนวตั้งขนาดใหญ่ Iconic Grille ซึ่งเคยเป็นเอกลักษณ์ของค่ายในอดีต โดยปรากฎอยู่ในหลายรุ่นทั้ง W108, W111 และ 600 Pullman
กระจังหน้า Iconic Grille มีขนนาดใหญ่ขึ้นมาจาก GLC รุ่นล่าสุดที่เปิดตัวไป เมื่อเดือนกันยายน 2025 จนดูพร้อมจะ ‘เขมือบ’ ทุกสิ่งที่ขวางหน้า พร้อมตกแต่งด้วยขอบโครเมี่ยมและผสานระบบไฟเข้าไปให้เรืองแสงได้ ทั้งยังมีโลโก้ดาวลอยที่เรืองแสงได้เช่นกัน ไฟหน้าเป็นโคมทรงเพรียวและจัดวางกราฟฟิกด้านใน ให้เป็นดาวสามแฉกเหมือนโลโก้ของค่าย เส้นสายตัวถัง Vision Iconic ได้แรงบันดาลใจมาจากรถสปอร์ตประตูปีกนกในตำนานอย่าง 300 SL ที่มีสัดส่วนหน้ายาวท้ายสั้น พร้อมบากครีบระบายอากาศบนแก้มคู่หน้า
Vision Iconic มีห้องโดยสารที่ให้อารมณ์แบบห้องเลาจน์ พร้อมตกแต่งด้วยแรงบันดาลใจจากอดีตเช่นกัน โดยมีทั้งเบาะคู่หน้ายาวแบบโซฟา หุ้มกำมะหยี่สีน้ำเงิน, พวงมาลัยแบบ 4 ก้านไร้ปุ่มควบคุมใด พร้อมโลโก้ดาวสามแฉกกึ่งกลางซึ่งมีกระจกครอบอยู่ด้วย และ พรมพื้นที่ตกแต่งด้วยเทคนิคเดียวกับที่ใช้ในยุค 1920 ส่วนแดชบอร์ดเป็นแบบ Zeppelin ซึ่งเป็นโครงสร้างกระจกครอบ เผยให้เห็นโครงสร้างด้านในทั้งแบบอนาล็อกและดิจิตอล ทั้งยังทอดตัวจรดแผงประตูสองฝั่งอย่างไร้รอยต่อ
นวัตกรรมที่อยู่ใน Vision Iconic ยังมี solar modules ซึ่งอยู่ระหว่างการวิจัย และมีความบางเทียบเท่าเวเฟอร์ ทำให้ติดตั้งบนตัวถังได้อย่างแนบเนียน มีประสิทธิภาพในการสร้างพลังงานสำหรับขับขี่ได้ไกลสุด 12,000 กิโลเมตรต่อปี หากใช้ solar model ครอบคลุมพื้นที่ 11 ตร.ม. ซึ่งเทียบเท่า SUV ขนาดกลาง ทั้งยังมีระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นจากยุคปัจจุบัน 10 เท่า รองรับการขับขี่อัตโนมัติทั้งในและนอกเมือง เสริมด้วยระบบบังคับเลี้ยวสี่ล้อพร้อมระบบ steer-by-wire ช่วยลดรัศมีวงเลี้ยวลง
ที่มา: Mercedes-Benz / เรียบเรียงข้อมูลโดย autolifethailand