นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด (TOYOTA) เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ ของตลาดรวมในประเทศไทย 6 เดือน (มกราคม-มิถุนายน) ของปี 2568 มียอดขายรวมสะสมอยู่ที่ 302,694 คัน ลดลง 1.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า แบ่งเป็น รถยนต์นั่ง 117,482 คัน ลดลง 1.5% รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 185,212 คัน ลดลง 1.8% และรถกระบะขนาด 1 ตัน 94,715 คัน ลดลง 12.7%
ส่วน ยอดขายสะสมของตลาด xEV มียอดขายสะสมอยู่ที่ 132,493 คัน หรือคิดเป็นสัดส่วน 43.8% ของตลาดรถยนต์ทั้งหมด เติบโตขึ้น 21.8% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า โดย ยอดขายรถยนต์ไฮบริด (HEV) อยู่ที่ 67,202 คัน ทรงตัวอยู่ในระดับเดียวกันกับปีก่อนหน้า ในขณะที่ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า 100% (BEV) อยู่ที่ 56,529 คัน เติบโตขึ้น 54.5 %
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ยอดขายรถยนต์ เดือนมิถุนายนโตขึ้น 5% ส่วนครึ่งปียังลดลง 1.73%
นอกจากนั้น ภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในครึ่งปีแรก 2568 เริ่มส่งสัญญาณมีแนวโน้มที่ดีขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีหลังของปีก่อนหน้า ซึ่ง TOYOTA ยังคงคาดการณ์ตลาดรถยนต์ในปี 2568 ที่ระดับ 600,000 คัน
สำหรับยอดขายประจำเดือนมิถุนายน 2568 ยอดขายสะสมตลาดรวม 50,079 คัน เพิ่มขึ้น 5.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ยอดขายสะสมตลาดรถยนต์นั่ง 19,397 คัน เพิ่มขึ้น 9.4% ยอดขายสะสมรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 30,682 คัน เพิ่มขึ้น 2.5% และรถกระบะขนาด 1 ตัน ยอดขายสะสม 15,307 คัน ลดลง 8.2%
ด้าน ยอดขายของตลาดรถยนต์เดือนมิถุนายน 2568 มียอดขายอยู่ที่ 50,079 คัน เพิ่มขึ้น 5.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า แบ่งเป็น รถยนต์นั่ง 19,397 คัน เพิ่มขึ้น 9.4% รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 30,682 คัน เพิ่มขึ้น 2.5% รถกระบะขนาด 1 ตัน 15,307 คัน ลดลง 8.2% ส่วนตลาด xEV มียอดขายอยู่ที่ 21,915 คัน คิดเป็นสัดส่วน 43.7% ของตลาดรถยนต์ทั้งหมด เติบโตขึ้น 30.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า โดย ยอดขายรถยนต์ไฮบริด (HEV) อยู่ที่ 11,034 คัน เติบโตขึ้น 11.6% ในขณะที่ ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า 100% (BEV) อยู่ที่ 9,743 คัน เพิ่มขึ้น 59.9%
ขณะที่ ตลาดรถยนต์ในเดือนกรกฎาคมมีแนวโน้มทรงตัวหรือลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยเศรษฐกิจโดยรวมและดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ยังคงฟื้นตัวช้า ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจและภาคครัวเรือนอาจลดหรือชะลอการลงทุนและการใช้จ่ายออกไปเพื่อรอความชัดเจนด้านต่าง ๆ จากสถานการณ์ข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและประเทศคู่ค้า รวมถึงความไม่แน่นอนระหว่างสงครามชายแดนไทย-กัมพูชา
นายศุภกร กล่าวว่า โตโยต้า ตั้งเป้าหมายยอดขายในปี 2568 ไว้อยู่ที่ 231,000 คัน หรือเพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า หรือคิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาด 38.5% ของ ยอดขายรถยนต์ ในตลาดรวม โดยในครึ่งปีหลัง โตโยต้า มีแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่หลายรุ่น ทั้งในกลุ่มตลาดรถยนต์นั่ง และรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ รวมถึงตลาด xEV
ยอดขายสะสม 6 เดือน ของ โตโยต้า มียอดขายรวมอยู่ที่ 113,889 คัน หรือคิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 37.6% แบ่งเป็น ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up + รถกระบะดัดแปลง PPV) มียอดขายรวมอยู่ที่ 42,430 คัน มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 44.8% สำหรับยอดขายรถยนต์นั่งอยู่ที่ 39,644 คัน มีส่วนแบ่งการตลาด 33.7% อีกทั้ง โตโยต้า มียอดขายรถยนต์ไฮบริด (HEV) อยู่ที่ 31,793 คัน หรือคิดเป็นสัดส่วน 24% ของยอดจำหน่ายรถยนต์ในกลุ่มตลาด xEV ทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่มียอดขายสะสมรวมสูงสุด 3 อันดับแรก ในช่วง 6 เดือน (มกราคม-มิถุนายน) ของปี 2568 มีดังนี้
- โตโยต้า มียอดขายรวมอยู่ที่ 113,889 คัน ลดลง 2.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 37.6%
- อีซูซุ มียอดขายรวมอยู่ที่ 37,506 คัน ลดลง 18.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 12.4%
- ฮอนด้า มียอดขายรวมอยู่ที่ 35,355 คัน ลดลง 18.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 11.7%