นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ สะสมในประเทศไทยไตรมาส 1/2568 (มกราคม–มีนาคม) มียอดขายรวมอยู่ที่ 153,193 คัน ลดลง 6.45% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า จากปัจจัยสถานการณ์ต่างๆ ในประเทศ อาทิ เศรษฐกิจ, ความเข้มงวดของสถาบันการเงิน (ไฟแนนซ์), หนี้ครัวเรือนสูง เป็นต้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : สรุปยอดขายรถยนต์ ปี’67 ปิดตัวเลข 5.73 แสนคัน ลดลง 26%
ทั้งนี้ ด้านตัวเลขยอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% สะสมในประเทศไทยไตรมาส 1/2568 (มกราคม–มีนาคม) มียอดขายรวมอยู่ที่ 22,737 คัน เติบโตขึ้น 18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยเมื่อคำนวนจากตัวเลขยอดขายไตรมาส 1/2568 และคาดการณ์ตัวเลขของทั้งปี 2568 นี้มีความเป็นไปได้ที่ตัวเลขตลอดทั้งปีจะอยู่ที่ 6 แสนคัน เช่นเดียวกับตัวเลขของตลาดรถยนต์ไฟฟ้า 100% มีความเป็นไปได้ที่ตัวเลขจะอยู่ที่ 1 แสนคัน ซึ่งจะต้องติดตามสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด
“สถานการณ์ยอดขายรถยนต์ในประเทศไทย ไตรมาสแรกของปีนี้อาจจะยังไม่สู้ดีนักจากสถานการณ์ต่าง ๆ ในประเทศยังไม่ฟื้นตัว แต่เริ่มมีทิศทางบวกที่อัตราติดลบของตลาดลดลง”
สำหรับ ยอดขายรถยนต์ในประเทศไทยเดือน มีนาคม 2568 มียอดขายอยู่ที่ 55,798 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 13.15% แต่ลดลง 0.54% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งลดลงจากรถกระบะที่ยังคงขายลดลง 7.84% เพราะการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงินที่ยังกังวลหนี้ครัวเรือนสูงและเศรษฐกิจของประเทศเติบโตในอัตราต่ำ ค่าครองชีพสูง
ขณะที่ ยอดขายรถยนต์ ปลั๊กอินไฮบริดเดือน มีนาคม 2568 มียอดขายอยู่ที่ 705 คัน เติบโตขึ้น 250% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า เช่นเดียวกับ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% มียอดขายอยู่ที่ 8,179 คัน เติบโตขึ้น 77% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ในขณะที่ รถยนต์สันดาปภายในลดลง 15% และ รถยนต์ไฮบริดลดลง 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า สะท้อนพฤติกรรมผู้บริโภคที่ให้การตอบรับรถยนต์พลังงานใหม่ จากการแนะนำของแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ที่แนะนำลงสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง
สอดคล้องกับ ยอดขายรถยนต์ ปลั๊กอินไฮบริด ไตรมาส 1/2568 มียอดขายสะสมอยู่ที่ 2,458 คัน เติบโตขึ้น 336% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% มียอดขายสะสมอยู่ที่ 22,737 คัน เติบโตขึ้น 18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ในขณะที่ รถยนต์สันดาปภายในลดลง 14% และ รถยนต์ไฮบริดลดลง 7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า