“มาตรการรถเก่าแลกรถใหม่” เพื่อกระตุ้นตลาดรถยนต์ในประเทศไทย ถูกหยิบยกมาศึกษาและพิจารณาหลายต่อหลายครั้งจนกระทั่งล่าสุด กระทรวงอุตสาหกรรม ได้มีการรับฟังข้อเสนอและแนวทางในการกระตุ้นตลาดรถยนต์ในสภาวะที่ซบเซา ในการเดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการช่วงปลายเดือน พ.ย. 2567 ที่ผ่านมา
นอกเหนือจาก มาตรการรถเก่าแลกรถใหม่ที่ถูกหยิบยกมาศึกษากันอีกครั้ง ยังมีมาตรการส่งเสริมการผลิตรถยนต์ไฮบริด (HEV) ซึ่งรัฐบาลมีการออกมาตรการสนับสนุนส่งเสริมการผลิตรถยนต์ไฮบริดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นอกจากนั้นยังมีมาตรการจัดการซากรถยนต์เก่า ซึ่งเป็นมาตรการระยะกลางเพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรม
ย้อนเงื่อนไขโครงการ “รถแลกแจกแถม” เมื่อปี 2563
ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2563 ที่ประชุม ศบศ. มีมติเห็นชอบโครงการที่ควรได้รับการส่งเสริมเพื่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะปานกลาง–ระยะยาว โดยได้ทำการศึกษาร่วมกับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่สนใจจะเข้าร่วมมาตรการดังกล่าว โดยมีรายละเอียดดังนี้
- ขอให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ สนับสนุนส่วนลด 2% และอุดหนุนค่ากำจัดซาก 1% ของราคาขายรถใหม่
- ค่าใช้จ่ายจากการซื้อรถ xEV สามารถนำไปหักภาษีส่วนบุคคลได้ โดยรัฐบาลสามารถหักลดหย่อนได้คิดเป็นเงินส่วนลด 3% ของราคาขายรถยนต์ใหม่ สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท
- รถยนต์ที่เข้าข่าย มาตรการรถเก่าแลกรถใหม่ ต้องผ่านการใช้งานมาแล้ว 10-12 ปี
ขณะที่ มาตรการดังกล่าวในปี 2563 ได้ถูกชะลอการพิจารณาและยกเลิกในช่วงต้นเดือน ธ.ค. 2563
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : รมว.อุตฯ ย้ำค่ายรถญี่ปุ่น 3-5 ปี ลงทุน 1.2 แสนล้านในไทย รักษาฐานผลิต
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กระทรวงพาณิชย์ของจีนได้มีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รถเก่าแลกรถใหม่ (Trade-Ins) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งได้ประกาศในช่วงต้นเดือน ม.ค. 2568
ด้าน มาตรการรถเก่าแลกรถใหม่ของจีน มีจุดเด่นของนโยบายคือ ประชาชนสามารถเข้าถึงสินค้าใหม่ได้ง่ายขึ้น และกระตุ้นการใช้จ่ายภายในด้วย เพราะชาวจีนไม่ต้องออกเงินเต็มเหมือนเช่นเคย ขณะเดียวกัน ผู้ผลิตก็ได้ระบายสินค้าค้างสต็อก เม็ดเงินภายในมีการหมุนเวียน จนช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจได้
สำหรับ มาตรการรถเก่าแลกรถใหม่ของประเทศไทย หลังจากนี้ คงต้องติดตามว่าการได้รับข้อเสนอจากบริษัทผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นในช่วง ปลายปี 2567 ที่ผ่านมา กระทรวงอุตสาหกรรมและรัฐบาลไทย จะมีการหยิบยกมาศึกษาและพิจารณาอีกครั้งอย่างไรและรูปแบบใด จะมีส่วนใดจากที่เคยศึกษาร่วมกับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์เอกชนในช่วงปลายปี 2563 นำกลับมาพิจารณาใหม่อีกหรือไม่
สุดท้ายปลายทาง มาตรการรถเก่าแลกรถใหม่ จะออกมาเป็นอย่างไร จะสำเร็จหรือไม่ คงจะต้องติดตามหลังจากนี้