หลายคนน่าจะได้ยินข่าวมาบ้างแล้วว่า Osamu Suzuki ตำแหน่งที่ปรึกษาอาวุโสของ Suzuki Motor Corporation ได้เสียชีวิตแล้วด้วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2024 โดยเขาเป็นบุคคลที่มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อน Suzuki จนเติบโตดังที่เห็นในวันนี้ และเขายังขึ้นชื่อในเรื่องของการใช้เงินอย่างประหยัด ด้วยแนวคิดสั่งปรับลดความสูงเพดานโรงงานเพื่อประหยัดแอร์ และเดินทางด้วยเครื่องบินชั้นประหยัด Economy Class แม้กระทั่งในวันที่เขามีอายุมากแล้ว
สำหรับความเป็นมาโดยสังเขป เดิมทีเขามีชื่อว่า Osamu Matsuda และเปลี่ยนนามสกุลมาเป็น Suzuki ซึ่งเป็นของภรรยาในภายหลัง โดยนี่เป็นธรรมเนียมปฎับัติในญี่ปุ่น สำหรับผู้ที่ไม่มีบุตรชายไว้สืบสกุล ส่วนประวัติการทำงาน เดิมที Osamu เป็นนายธนาคาร และย้ายมาทำงานที่ Suzuki ในปี 1958 ในขณะที่เขามีอายุ 28 ปี โดยนั่นเป็นบริษัทที่คุณปู่ของภรรยาเขาก่อตั้ง จากนั้น เขาได้ไต่เต้าเรื่อยมาจนได้ดำรงตำแหน่ง Director และ President ในปี 1978
ผลงานที่โดดเด่นของเขามีทั้งช่วยรักษา Suzuki จากการล่มสลายในยุค 70’s ซึ่งมีการออกกฎควบคุมมลพิษฉบับใหม่ แต่ Suzuki พัฒนาเครื่องยนต์เสร็จไม่ทันกำหนด Osamu จึงเจรจาขอให้ Toyota ผลิตเครื่องยนต์ให้ Suzuki จากนั้น มีการเปิดตัว Alto ในปี 1979 และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จนบริษัทมีอำนาจต่อรองกับ General Motors ในการเจรจาความร่วมมือในปี 1981 แต่สิ่งที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด คือ การเดิมพันสร้างรถยนต์ของประชาชนของอินเดียให้ถือกำเนิด ซึ่งนั่นคือก้าวแรกของ Maruti Suzuki
การเดิมพันนี้มีความเสี่ยงสูงมาก เพราะมูลค่าการลงทุนในโครงการดังกล่าว เทียบเท่ากับรายได้ทั้งปีของ Suzuki ในยุคนั้นเลย แต่ Osamu มีความมุ่งมั่นอย่างหนึ่งว่า “จะต้องเป็นที่หนึ่งให้ได้ซักที่บนโลกใบนี้” Maruti Suzuki จึงถือกำเนิดขึ้น สำหรับจุดเริ่มต้นอยู่ที่ปี 1971 เมื่อนายกรัฐมนตรีของอินเดียมีแนวคิดผลักดัน โครงการรถยนต์ของประชาชนในชื่อ Maruti ซึ่งในตอนนั้นขนาดตลาดรถยนต์ทั้งประเทศอยู่ต่ำกว่า 40,000 คัน และรถยนต์ที่ออกขายส่วนใหญ่ เป็นการนำเข้าชิ้นส่วนจากอังกฤษเข้ามาประกอบ
สิ่งที่ Maruti ต้องการคือบริษัทคู่ค้าต่างชาติ จึงมีการเจรจากับค่ายรถยนต์ขนาดใหญ่หลายแบรนด์รวมถึง Renault, Fiat และ Subaru แต่ส่วนใหญ่ Maruti จะถูกปฏิเสธ ส่วนโครงการรถยนต์ Sedan ของ Renault นั้นดูมีราคาสูงเกินไปสำหรับชาวอินเดีย จากนั้น มีรายงานว่าผู้บริหารของ Suzuki ในอินเดีย เห็นข่าวในหนังสือพิมพ์ว่า Maruti อาจจับมือ Daihatsu ที่เป็นคู่แข่งอยู่ เขาจึงโทรแจ้งสำนักงานใหญ่ และพบว่ามีการปฏิเสธทีมงาน Maruti ไปแล้ว เกมส์จึงเปลี่ยนเพราะ Suzuki ได้ติดต่อเชิญ Maruti กลับมาเจรจากันใหม่ที่ญี่ปุ่น
จากนั้นไม่กี่เดือน จึงมีการลงนามในหนังสือความร่วมมือระหว่าง Maruti และ Suzuki ตามมาด้วยการเปิดตัว Maruti 800 ในปี 1983 ซึ่งมีพื้นฐานมาจาก Suzuki Alto และประสบความสำเร็จทันที แถมยังครองความสำเร็จมาจนถึงปัจจุบันเพราะ Maruti Suzuki ครองส่วนแบ่งในตลาดรถยนต์อินเดียมากกว่า 40% จากนั้น ในปี 2016 ยังมีการขยายความสัมพันธ์กับ Toyota ตามมาด้วยการที่ Toyota ถือหุ้น 5% ของ Suzuki Motor ในปี 2019
Osamu ได้ส่งต่อตำแหน่ง CEO ให้กับลูกชายของเขาในปี 2016 และดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาอาวุโสต่อ พร้อมกล่าวติดตลกเรื่อยมาว่า “ตลอดไป” หรือ “จนวันที่ผมตาย” เมื่อมีคนถามเขาว่าจะทำงานไปถึงเมื่อใด
ด้าน Akio Toyoda ตำแหน่ง Chairman ของ Toyota ยังกล่าวไว้อาลัยด้วยว่า สำหรับเขาแล้ว Osamu เป็นมากกว่านักธุรกิจที่เขาชื่นชม เพราะ Osamu เป็นเหมือนพ่อมากกว่า และยังเป็นบิดาของรถยนต์ K-Car ที่ได้วิวัฒนาการจนกลายเป็นรถยนต์ของคนญี่ปุ่นอีกด้วย
โอซามุ ซูซูกิ 鈴木 修 Osamu Suzuki อดีต ประธาน ซูซูกิ มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น เสียชีวิตลงในวัย 94 ปี : https://autolifethailand.tv/osamu-suzuki-motor-corporation-death-94years/
โอซามุ ซูซูกิ 鈴木 修 Osamu Suzuki อดีต ประธาน ซูซูกิ มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น เสียชีวิตลงในวัย 94 ปี