slide 1
slide 1
Image Slide 2
Image Slide 2
previous arrowprevious arrow
next arrownext arrow
Homeข่าวสารส.อ.ท. คาด ยอดขายรถยนต์ ปี'68 ทรงตัว ตามเศรษฐกิจไทยโตต่ำต่อเนื่อง

ส.อ.ท. คาด ยอดขายรถยนต์ ปี’68 ทรงตัว ตามเศรษฐกิจไทยโตต่ำต่อเนื่อง

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ ยอดขายรถยนต์ ในประเทศไทยปี 2568 คาดการณ์ว่าจะอยู่ในระดับทรงตัวเมื่อเทียบกับปี 2567 จากปัจจัยความไม่มั่นใจในการปล่อยสินเชื่อรถยนต์ (ไฟแนนซ์) ที่จะดีขึ้นหรือไม่ ประกอบกับการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศไทยปีหน้าที่คาดว่า จีดีพี จะเติบโตในระดับ 3% ซึ่งถือว่ามีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในระดับต่ำ

ทั้งนี้ หากในปี 2568 รัฐบาลสนับสนุนให้สถาบันการเงินสามารถปล่อยสินเชื่อจะช่วยเหลือด้านการผลิตและผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโตได้ สิ่งหนึ่งที่เคยมีการพูดคุยกันคือ การให้รัฐบาลเข้ามาสนับสนุนมูลค่าเพิ่มของรถที่ถูกยึด 5 หมื่นบาท เพื่อแลกเปลี่ยนกับการให้สถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อมากขึ้น เพื่อทำให้ระบบขับเคลื่อนได้โดยเฉพาะรถกระบะ ที่ใช้ชิ้นส่วนการผลิตในประเทศกว่า 90% ซึ่งจะช่วยซัพพลายเชนจ์ทั้งระบบ ทั้งในแง่ภาษี, ปริมาณการผลิต ให้อุตสาหกรรมเติบโตได้อย่างแน่นอน

“มองว่าแนวคิดการสนับสนุนดังกล่าวจะทำให้ จีดีพี เติบโตได้เพิ่มขึ้น 0.3-0.4% และ ได้ทั้งเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นนักลงทุนได้”

ยอดขายรถยนต์
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)

สำหรับ ยอดจำหน่ายรถยนต์ในประเทศไทย 11 เดือน (มกราคา-พฤศจิกายน) มียอดขายสะสมอยู่ที่ 518,659 คัน ลดลง 26.69% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า แบ่งเป็น รถยนต์นั่งอยู่ที่ 309,651 คัน ลดลง 15.74% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และ รถกระบะ อยู่ที่ 148,937 คัน ลดลง 39.26 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และ รถกระบะดัดแปลง (พีพีวี) อยู่ที่ 32,349 คัน ลดลง 42.03% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

ขณะที่ เมื่อแบ่งยอดขายตามประเภทเทคโนโลยีพลังงานขับเคลื่อน มีดังนี้

  • เทคโนโลยีสันดาปภายใน (ICE) อยู่ที่ 140,670 คัน คิดเป็น 27.12% ของยอดขายทั้งหมด และมีอัตราลดลง 36.35% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
  • เทคโนโลยีไฟฟ้า 100% (BEV) อยู่ที่ 61,443 คัน คิดเป็น 11.85% ของยอดขายทั้งหมด และมีอัตราลดลง 5.20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
  • เทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) อยู่ที่ 2,104 คัน คิดเป็น 0.41% ของยอดขายทั้งหมด และมีอัตราลดลง 17.67% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
  • เทคโนโลยีไฮบริด (HEV) อยู่ที่ 105,434 คัน คิดเป็น 20.33% ของยอดขายทั้งหมด และมีอัตราลดลง 32% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ยอดขายรถยนต์ พ.ย. เริ่มผงกหัวพ้น 4 หมื่นคัน หลัง ก.ย.-ต.ค. ร่วงหนัก

ส่วนเฉพาะเดือน พฤศจิกายน มียอดขายอยู่ที่ 42,309 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือน ตุลาคม 12.25% แต่ลดลงจากเดือนเดียวกันของปีก่อน 31.34% จากการเข้มงวดการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงินเพราะเศรษฐกิจในประเทศที่อ่อนแอเติบโตในอัตราต่ำที่ 3% ในไตรมาส 3 ของปีนี้ แต่หนี้เสียรถยนต์เพิ่มขึ้น 22.8% จากไตรมาส 3 ปีที่แล้ว หนี้ครัวเรือนสูงถึง 89.6% ของ GDP ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมยังคงลดลง ยอดขายบ้านลดลงจากปีที่แล้ว รวมทั้งการลงทุนภาคเอกชนยังอยู่ในอัตราต่ำ

ด้านเดือน ธันวาคม ซึ่งเป็นเดือนสุดท้ายของปี มีปัจจัยบวกจากการจัดงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41 หรือ มอเตอร์ เอ็กซ์โป (Motor Expo 2024) ซึ่งมียอดจองภายในงานมากกว่า 5 หมื่นคัน สูงขึ้นเมื่อเทียบกับงานปีก่อน แต่จะต้องรอดูยอดจดทะเบียนว่าที่จะเปลี่ยนตัวเลขยอดจองเป็นตัวเลขยอดจดทะเบียนในที่สุด

 

 

- Advertisement -spot_img
Mitsubishi Mega Deal
Mitsubishi Mega Deal
ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน แบล็ก เอดิชัน
ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน แบล็ก เอดิชัน
previous arrow
next arrow
- Advertisement -spot_img
- Advertisement -spot_img

Stay Connected

400,000FansLike
6,955FollowersFollow
153,000FollowersFollow
319FollowersFollow
107,000SubscribersSubscribe

Must Read

Related News