บริษัท ไทยบริดจสโตน จํากัด และ บริษัท บริดจสโตนเซลส์ (ประเทศไทย) จํากัด หรือ Bridgestone ประกาศแต่งตั้ง “อะกิฮิโตะ อิชิอิ” ขึ้นดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 8 กรกฎาคม 2567 แทน เคอิจิ ชูมะ ซึ่งครบวาระและได้รับมอบหมายให้ไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการส่วนงาน G-MICA Tire Solution Business Development บริษัท บริดจสโตน คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม 2567
สำหรับ เคอิจิ ชูมะ ซึ่งดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ของบริษัท ไทยบริดจสโตน จํากัด และบริษัท บริดจสโตนเซลส์ (ประเทศไทย) จํากัด ตั้งแต่ปี 2563 ตลอดระยะเวลาเกือบ 4 ปี ที่ผ่านมาได้สร้างคุณประโยชน์ให้กับบริดจสโตนมากมาย อาทิ ยกระดับวัฒนธรรมองค์กรเพื่อส่งเสริมศักยภาพของผู้บริหารและพนักงานให้มีส่วนร่วมพัฒนาตนเองผ่านกิจกรรมการเพิ่มคุณค่าซึ่งนำไปสู่การบรรลุวิสัยทัศน์ขององค์กรร่วมกัน และหลอมรวมเป็น DNA ที่แข็งแกร่งของบริดจสโตน ส่งเสริมการจัดทำคาร์บอน ฟุตพริ้นท์ขององค์กรในภาคการผลิตยางรถยนต์ และพิชิตใจลูกค้าด้วยการเสริมความแข็งแกร่งช่องทางการขาย รวมถึงพัฒนาธุรกิจค้าปลีกและผลิตภัณฑ์ยางหล่อดอก เป็นต้น
ด้าน อะกิฮิโตะ อิชิอิ ได้เริ่มการทำงานที่บริษัท บริดจสโตน คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี 2533 มีความเชี่ยวชาญในด้านการตลาด ธุรกิจยางรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ รวมถึงผลิตภัณฑ์ยางหล่อดอก การบริหารซัพพลายเชน และกลยุทธ์การตลาดระดับสากล ทั้งในประเทศญี่ปุ่น แอฟริกาใต้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซาอุดิอาระเบีย สเปน เบลเยียม จีน อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และไต้หวัน ภายใต้ประสบการณ์การบริหารงานกลุ่มบริษัทในเครือบริดจสโตนมากกว่า 30 ปี ซึ่งจะช่วยการันตีความสำเร็จให้บริษัท ไทยบริดจสโตน จํากัด และบริษัท บริดจสโตนเซลส์ (ประเทศไทย) จํากัด ด้วยการใช้กลยุทธ์ธุรกิจระยะกลางของกลุ่มบริษัทในเครือบริดจสโตน (ประจำปี 2567-2569) รุดหน้าสู่การสร้างคุณค่าร่วมให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางธุรกิจ ควบคู่กับการยกระดับแบรนด์บริดจสโตนสู่ความพรีเมียมที่ยั่งยืนต่อไป
อะกิฮิโตะ อิชิอิ กล่าวว่า ตนรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่จะได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของทีมบริหารงาน บริดจสโตนในประเทศไทย และได้สานต่อการดำเนินงานของ เคอิจิ ชูมะ โดยวางรากฐานการดำเนินธุรกิจด้วย “ความมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ” เพื่อส่งมอบคุณค่าแก่ลูกค้าผ่านการพัฒนานวัตกรรมเพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์ บริการ และโซลูชั่นด้านยางรถยนต์ระดับพรีเมียม ควบคู่ไปกับการส่งมอบคุณค่าแก่สังคม ผ่านการดำเนินงานด้านความยั่งยืนเพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนและเศรษฐกิจหมุนเวียน ตลอดห่วงโซ่คุณค่า
ซึ่ง Bridgestone ในประเทศไทยมีทรัพยากรในการผลิตยางรถยนต์ที่เหมาะสมและยังมีศักยภาพในการบริหารจัดการ ครอบคลุมตั้งแต่กระบวนการจัดหาวัตถุดิบ การวิจัยและพัฒนา การผลิต การขนส่ง รวมถึงเครือข่ายการจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่ง ซึ่งผมจะใช้จุดแข็งเหล่านี้ยกระดับการเดินทางที่ยั่งยืนในสังคมไทย และเพื่อที่จะยกระดับแบรนด์บริดจสโตนสู่ความพรีเมียมที่ยั่งยืน ผมจะสนับสนุนให้นำความเป็นมอเตอร์สปอร์ตที่มุ่งสู่ความยั่งยืนซึ่งเป็นแกนหลักของการดำเนินธุรกิจของบริดจสโตนมาสู่ประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง