นาย หวัง เฉิงเจี่ย (Mr. Wang ChengJie) รองประธาน บริษัท โฮซอน นิว เอนเนอร์ยี่ เซลส์ จำกัด และ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด หรือ NETA กล่าวว่า ภาพรวมตลาดรถยนต์ในช่วง 2 เดือนแรก (ม.ค.-ก.พ.) ของปี 2567 ที่ชะลอตัวลงราว 26% ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการสิ้นสุดมาตรการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าของรัฐในระยะที่ 1 (EV 3.0) และ เข้าสู่ช่วงเริ่มต้นของระยะที่ 2 (EV 3.5) จึงเกิดสูญญากาศรอยต่อของการเปลี่ยนแปลงนโยบายขของรัฐบาล ซึ่งมีผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคที่ชะลอการตัดสินใจซื้อ จึงเกิดสถานการณ์ดังกล่าว
ทั้งนี้ ภาพรวมตลาดรถยนต์ในช่วง 2 เดือนแรกของปีที่ลดลงเป็นตัวสะท้อนกำลังซื้อผู้บริโภคที่ไม่สามารถซื้อรถยนต์ได้ และมองว่าจะลดลงเรื่อง ๆ ไปถึงช่วงไตรมาส 2/2567 ซึ่งจะเป็นจุดต่ำสุด โดยเชื่อว่ารัฐบาลจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ซบเซา และจะทยอยดีขึ้นในช่วงไตรมาส 3/2567 จากปัจจัยดังกล่าวพร้อมการที่ นายกรัฐมนตรี มีการเดินทางไปยังต่างประเทศเพื่อดึงดูดนักลงทุนในช่วงที่ผ่านมา และจะเริ่มเห็นผลในช่วงดังกล่าว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ราคาอย่างเป็นทางการ NETA V II (Minorchange) รถไฟฟ้า100% : 549,000 – 569,000 บาท (ประกอบไทย) | แบต 36.1 kWh
สำหรับ ในปี 2567 เนต้า มองว่าภาพรวมตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจะอยู่ที่ 20% ของตลาดรวมรถยนต์ในประเทศไทย หรือคาดว่าจะอยู่ที่ราว 1.4 แสนคัน ซึ่งยังมองเห็นโอกาสของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าการจากเข้าสู่ตลาดของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีนเข้าสู่ตลาดประเทศไทยส่งผลให้กระตุ้นความต้องการโดยเฉพาะตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอย่างชัดเจน และผู้บริโภคในประเทศไทยให้ความสนใจและยอมรับรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น จึงเชื่อว่าจะสามารถกระตุ้นตลาดให้เติบโตสอดคล้องกัน
ขณะที่ บริษัทมีแผนการเปิดตัวรถยนต์ เนต้า เอ็กซ์ (Neta X) ในช่วงเดือน มิถุนายน 2567 และจะขึ้นไลน์ผลิตในประเทศไทย โดยมองว่ารถยนต์ในกลุ่มอเนกประสงค์ (เอสยูวี) เป็นรถยนต์ที่ผู้บริโภคต้องการ ซึ่ง เนต้า เองจะเปิดตัวรถยนต์ในกลุ่มนี้เป็นครั้งแรกเพื่อสอดรับความต้องการผู้บริโภค ส่วนแผนการเปิดตัวหลังจากนี้ เนต้า จะเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ 1 รุ่นทุกปีตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป