รถยนต์มีกี่ประเภท และมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
ปัจจุบันเราก็ได้เห็นรถมากมายหลากหลายบนถนน แต่จะมีสักกี่คนที่จะรู้ว่าจริง ๆ แล้ว รถยนต์มีกี่ประเภทกันแน่ และแต่ละประเภทมีความแตกต่างกันอย่างไร นอกจากรูปลักษณ์ วันนี้เราจึงได้รวบรวมข้อมูลมาไว้ให้ได้เรียนรู้กันที่นี่แล้ว
โดยทั่วไปแล้ว รถยนต์จะถูกแบ่งตาม Segment ซึ่งจะมีแยกย่อยออกมาทั้งหมดประมาณ 12 ประเภทดังนี้
- A – Segment
เป็นกลุ่มรถยนต์ที่มีขนาดเครื่องยนต์ 660 cc. – ไม่เกิน 1,000 cc. ซึ่งรถประเภทนี้จะเป็นรถยนต์ที่เหมาะกับการใช้งานในเมืองและแถบชานเมือง พบมากในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะเรียกว่า Kei Car เช่น Suzuki Celerio, Honda N-Box, Daihatsu Mira
- B – Segment
เป็นรถยนต์ที่มีเครื่องยนต์ประมาณ 1,000 cc. – 1,500 cc. เหมาะสำหรับผู้ที่มีครอบครัวเล็ก ๆ จุดเด่นอยู่ที่หากใช้งานคนเดียวสามารถจุของได้เยอะ ซึ่งจะแบ่งแยกย่อยออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
- Eco Car: จะมีเครื่องยนต์ประมาณ 1,200 cc. เช่น Nissan March, Mitsubishi Mirage, Suzuki Swift
- รถระดับปกติ ที่จะมีขนาดที่ใหญ่กว่าอีโคคาร์และมีออฟชั่นมากกว่า เช่น Toyota Vios, Honda City, Mazda2
- C-Segment
เป็นรถยนต์ขนาดคอมแพกต์ เหมาะสำหรับเป็นรถครอบครัว มีกาปรับแต่งเครื่องยนต์และระบบช่วงล่างให้มีสมรรถนะเพิ่มมากขึ้น ความจุเครื่องยนต์จะอยู่ที่ 1,500 cc. – 2,200 cc. เช่น Toyota Altis, Honda Civic, Mazda3
- D- Segment
ป็นรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่กว่ารถประเภท C- Segment มาอีกระดับและจะมีการตกแต่งภายในให้มีความหรูหรากว่า รวมถึงวัสดุงานประกอบและสมรรถนะก็ดีกว่า เช่น Toyota Camry, Honda Accord, Nissan Teana
- E- Segment
เป็นรถยนต์นั่งขนาดใหญ่ที่สุด หรือ ในที่ต่างประเทศเรียกว่า Full Size Car มีราคาค่อนข้างสูง เบียดกับราคารถยนต์หรูหราระดับต้น ๆ อีกทั้งเป็นรถที่ในบ้านเรายังไม่เป็นที่นิยมมากนักเมื่อเทียบกับโซนอเมริกา เช่น Toyota Avalon, Chevrolet Impala
- Entry-level luxury / Compact Executive Car
เป็นรถยนต์ที่ขนาดเท่ากับรถคอมแพกต์ แต่จะมีความหรูหราในเรื่องของการตกแต่งและวัสดุที่นำมาใช้ และยังเป็นรถยนต์ที่มีเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ซึ่งมีทั้งพละกำลังและสมรรถนะสูง เช่น BMW Series-3, Mercedes-Benz C-Class, Audi A4
- Mid-Size Luxury Car
เป็นรถยนต์นั่งหรูหราระดับกลาง แต่ด้วยตัวรถที่มีขนาดใหญ่กว่ารถยนต์ขนาดกลางธรรมดา แต่จะมีการตกแต่งรถให้มีความหรูหรา เช่น Mercedes-Benz E-Class, BMW Series 5, Audi A6
- Full-Size Luxury Car
เป็นรถยนต์ขนาดใหญ่ประเภทหรูหรา ซึ่งรถยนต์ประเภทนี้ถือว่าเป็นรถยนต์ขนาดใหญ่ที่มาพร้อมกับความหรูหรา มีเครื่องยนต์แบบ 6-12สูบ ซึ่งจะมี cc. ของเครื่องยนต์อยู่ที่ 3,000 cc. – 4,500 cc เช่น Mercedes-Benz S-Class, BMW Series 7, Audi A8, Maserati Quttroporte
- Sports Car
เป็นรถยนต์ 2 ที่นั่งสะส่วนใหญ่ ตัวถังรถยนต์นั้นจะมาในแบบคูเป้แต่บางรุ่นก็จะมาเป็นตัวถังแบบซีดาน ก็นับเเป็น Sport Car แต่จะมีการลดน้ำหนักของตัวถังให้เบากว่ารถปกติทั่วไป เพื่อที่จะทำให้รถนั้นมีสมมรรถนะให้ออกมาได้มากที่สุด เช่น Subaru WRX Sti, Mitsubishi Lancer Evolution, Chevrolet Corvette
- Grand tourer
เป็นรถสปอร์ตที่มีความหรูหรา ขึ้นมามากกว่า รถยนต์ประเภท Sports Car ขึ้นมาอีกระดับ และจะมีสมรรถนะที่เพิ่มขึ้นมาอีกระดับ เช่น Nissan GT-R, Porsche 911, Aston Martin DB9
- SuperCar
เป็นรถที่เน้นในเรื่องของสมรรถนะแบบเต็ม ๆ และจะมีเครื่องยนต์ขนาด 6 สูบขึ้นไป เช่น Lamborghini Huracan, Ferrari 458 itali, McLaren MP4-12C
- Hypercar
ปิดท้ายด้วยรถที่เป็นสุดยอดของรถทุกประเภท ซึ่งจะมีพละกำลังและสมรรถนะสูง โดยจะมีแรงม้าของรถ เกิน 700 – 800 แรงม้า แต่ก็จะมีบางรุ่นที่มีแรงม้าถึง 1,000 แรงม้า เช่น Ferrari LaFerrari, Bugatti Veyron, McLaren P1
เราก็ได้รู้จักกับรถแต่ละประเภทกันแล้วนะคะ ทีนี้เราก็สามารถเลือกรถได้ถูกใจและถูกต้องแล้วล่ะค่ะ ซึ่งแต่ละประเภทก็มีข้อดี จุดเด่นและข้อจำกัดที่แตกต่างออกไป คันไหนจะดีก็ขึ้นอยู่ความชอบและสไตล์ของผู้ขับ
ติดต่อโฆษณา
Project Manager (คุณแอม)
โทร. 089 533 5115
Email : autolifethailand@gmail.com
หรือ Inbox ได้ทาง Facebook Fanpage https://www.facebook.com/autolifethailand.tv