เกรท วอลล์ มอเตอร์ จับมือพันธมิตรทางธุรกิจกลุ่มแรกในไทยเตรียมเปิด Partner Store ที่มาพร้อมโชว์รูมและศูนย์บริการรูปแบบใหม่ทั่วประเทศ ตอกย้ำกลยุทธ์การสร้างประสบการณ์ใหม่ให้ผู้บริโภค
หลังจากที่ เกรท วอลล์ มอเตอร์ เดินหน้าเปิดตัวแบรนด์ และเปิดตัวรถยนต์ Haval H6 และรถไฟฟ้า ORA ในประเทศไทยไปแล้ว ล่าสุดเกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้ลงนามความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ หรือพาร์ทเนอร์ (Partner) กลุ่มแรกในไทย หรือดีลเลอร์ของเกรท วอลล์ มอเตอร์ เพื่อเตรียมรุกตลาดด้วยกลยุทธ์ New User Experience ด้วยการเปิด Partner Store ที่มาพร้อมโชว์รูมและศูนย์บริการ เพื่อส่งมอบมาตรฐานและประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้บริโภค ตอกย้ำความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนผู้ประกอบการและผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย สำหรับ Partner Store ที่มาพร้อมโชว์รูมและศูนย์บริการในกลุ่มแรกจะมีจำนวนกว่า 17 แห่งทั่วประเทศ
นายณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย กล่าวว่า รูปแบบการให้บริการของ Partner Store เพื่อออกแบบประสบการณ์ใหม่ หรือ New User Experience ให้สามารถส่งมอบบริการที่ตรงตามความต้องการของผู้บริโภคชาวไทย ตั้งแต่การค้นหาข้อมูล การเปรียบเทียบรุ่นรถ การทดสอบรถ การเลือกซื้อรถ การขอสินเชื่อ ตลอดจนการส่งมอบรถและการบริการหลังการขาย
เพื่อสร้างบริการและประสบการณ์ระดับพรีเมียมให้กับผู้บริโภค ผ่านรูปแบบ O2O (Online-To-Offline) โดยประเทศไทยเป็นประเทศแรกในโลกที่จะนำ New User Experience นี้เข้ามาสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับผู้บริโภค
สำหรับพันธมิตรทางธุรกิจหรือพาร์ทเนอร์กลุ่มแรกที่เข้าร่วมลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ โดยจะเตรียมเปิด Partner Store รวม 17 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ ได้แก่
- กรุงเทพและปริมณฑล 8 แห่ง
- ชลบุรี 3 แห่ง
- ระยอง 1 แห่ง
- เชียงใหม่ 1 แห่ง
- ขอนแก่น 1 แห่ง
- นครราชสีมา 1 แห่ง
- สงขลา 1 แห่ง
- ภูเก็ต 1 แห่ง
ทั้งนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ มีแผนที่จะเปิด Partner Store ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ รวมไปถึงเปิด GWM Store
ซึ่งเป็นโชว์รูมของเกรท วอลล์ มอเตอร์ รวมทั้งสิ้นกว่า 30 แห่ง ภายในสิ้นปีนี้ เพื่อช่วยเพิ่มช่องทางให้ผู้บริโภคชาวไทยสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ภายใต้กลยุทธ์
New User Experience ซึ่งมุ่งเน้นให้ผู้บริโภคได้รับบริการและความพึงพอใจสูงสุด ได้แก่ คือ 1) Best Choice: ลูกค้าต้องเป็นผู้เลือกสิ่งที่ดีที่สุดได้ด้วยตัวเอง 2) Transparency: ลูกค้าต้องการการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่โปร่งใส ตรงไปตรงมา และ 3) Happiness & Loyalty : ลูกค้าจะต้องมีความสุขและประสบการณ์ที่ดีกับแบรนด์ตลอดการเป็นเจ้าของ และพร้อมที่จะส่งมอบความสุขนี้ให้กับผู้อื่นด้วยการบอกต่อ
อ่านประกอบ