มาสด้า เอาจริงประเดิมเปิดตัว Mazda CX-3 ไมเนอร์เชนจ์(2020) ด้วยราคาต่ำกว่ารุ่นเดิม 6.2 หมื่นบาท โดยเริ่มต้นราคาที่ 7.68 แสน-1.048 ล้านบาท ต่ำกว่ารุ่นโมเดล 2018 เกือบแสนบาท แต่ปรับหน้าตาใหม่ เพิ่มออปชั่นความปลอดภัยเพียบ พร้อมยกเลิกรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 1.5 ลิตรออก เหลือแต่รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร ตั้งเป้าขาย 600 คันต่อเดือน
มาสด้า ประกาศสงครามรถในตลาด B-SUV ด้วยการเปิดตัว Mazda CX-3 ไมเนอร์เชนจ์(2020) ในราคาช็อคตลาด ด้วยราคารุ่นเริ่มต้น หรือรุ่น BASE เพียง 7.68 แสนบาท ต่ำกว่าราคามาสด้า Mazda CX-3 รุ่น E โมเดล 2018 ที่จำหน่ายในราคา 8.79 แสนบาท โดยมาสด้า ตั้งใจว่าจะใช้ Mazda CX-3 ไมเนอร์เชนจ์(2020) รุ่น BASE เจาะตลาดรถในกลุ่ม B-SUV ทั้งตลาด ไม่ว่าจะเป็นรถ B-SUV ราคาประหยัดอย่าง MG ZS ก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย รวมไปถึง B-SUV ตัวจริงอย่าง Nissan Kicks ,Honda BR-V ,Honda HR-V ,Toyota C-HR และแน่นอนว่าจะต้องแข่งขันกับ Toyoya Corolla Cross ที่กำลังจะเปิดตัวในวันที่ 9 ก.ค.63 ด้วย
และไม่ใช่แค่ รถในกลุ่ม B-SUV เท่านั้นที่ Mazda CX-3 ไมเนอร์เชนจ์(2020) จะขอท้ารบ แต่สมรภูมินี้ Mazda ยังขอลงไปแข่งก้บรถยนต์นั่งในกลุ่มรถยนต์นั่งขนาดเล็กอย่าง Honda City และ Nissan Almera และด้วยราคาของ Mazda CX-3 ไมเนอร์เชนจ์(2020) ทำให้ไปแข่งขันกับ รถCross-Over อย่าง Mitsubishi XpanderCross อีกด้วย
สำหรับ Mazda CX-3 ไมเนอร์เชนจ์(2020) นั้นจะเหลือเพียง 4 รุ่นย่อย 1 เครื่องยนต์ในขณะที่ Mazda CX-3 (2018) นั้นมีทั้งหมด 6 รุ่นย่อย 2 เครื่องยนต์โดยมีเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ ขนาด 1.5 ลิตร เป็นรุ่นท็อป แต่ Mazda CX-3 ไมเนอร์เชนจ์(2020) ได้ถอดเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบออก เหลือแต่เพียงเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตรเท่านั้น
นอกจากนี้ ยังลดจำนวนรุ่นที่จำหน่าจาก 6 รุ่นเหลือเพียง 4 รุ่นคือ Base ,Comfort ,Proactive และ Style
เรามาดูรายละเอียดของ Mazda CX-3 ไมเนอร์เชนจ์(2020) ทั้ง 4 รุ่น กัน
เริ่มที่รุ่น BASE ราคาอยู่ที่ 768,000 บาท
อุปกรณ์มาตรฐาน
- เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 0 ลิตร
- ระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ หรือ G-Vectoring Control (GVC)
- ระบบเบรกมือไฟฟ้า พร้อมระบบ Auto Hold
- ไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบฮาโลเจน
- ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว
- เบาะผ้าสีดำ ตกแต่งด้วยด้ายสีเทา
- เบาะนั่งคนขับปรับได้ 6 ทิศทาง และพนักพิงเบาะหลัง พับได้แบบ 60:40
- คอนโซลหน้าหุ้มด้วยหนังสีดำ ตกแต่งด้วยด้ายสีเทา
- หน้าจอสี Center Display แบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พร้อมปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander
- พนักวางแขนด้านหน้า พร้อมช่องเก็บของแบบอเนกประสงค์
- มาตรวัดความเร็วแบบอนาล็อค พร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่
- ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์อัจฉริยะ (Push Start Button)
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า
สำหรับ รุ่น COMFORT ราคาจำหน่าย 848,000 บาท
อุปกรณ์มาตรฐานเพิ่มจากรุ่น BASE
- วัสดุตกแต่งเสาประตูด้านนอกสีดำเปียโนแบล็ก
- เบาะหนังและผ้าสีดำ ตกแต่งด้วยด้ายสีเทา
- พวงมาลัยและหัวเกียร์หุ้มหนังสีดำ ตกแต่งด้วยสีเงินซาติน
- คอนโซลหน้าหุ้มด้วยหนังสีเทาเข้ม ตกแต่งด้วยด้ายสีเทา
- พนักวางแขนด้านหลัง พร้อมที่วางแก้วน้ำ
- ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Keyless Entry)
- กล้องมองหลัง
- ระบบควบคุมความเร็วคงที่ (Cruise Control)
สำหรับ รุ่น PROACTIVE เพิ่ม i-ACTIVSENSE ราคาจำหน่าย 948,000 บาท
อุปกรณ์มาตรฐานเพิ่มจากรุ่น Comfort
- ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว
- ไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ LED พร้อมไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED
- ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lamp) แบบ LED Signature
- ไฟท้ายแบบ LED Signature
- ระบบไฟหน้าปรับระดับสูง-ต่ำ อัตโนมัติ และระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ
- กันชนหน้าและแผงกันกระแทกด้านข้าง ตกแต่งด้วยโครเมียม
- เบาะหนังสีดำ ตกแต่งด้วยด้ายสีเทา
- คอนโซลหน้าหุ้มด้วยผ้า Grand Luxe Suede® สีเทา ตกแต่งด้วยด้ายสีเทา
- ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ
- ABSM: ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน
- RCTA: ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง
สำหรับ รุ่น STYLE ราคาจำหน่าย 1,048,000 บาท
อุปกรณ์มาตรฐานเพิ่มจากรุ่น PROACTIVE
- ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว สี Dark Silver
- หลังคาซันรูฟแบบไฟฟ้า
- เบาหนัง Nappa* สีแดง Deep Red พร้อมแถบสีขาว Pure White ตกแต่งด้วยด้ายสีขาว
- เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมระบบปรับเบาะดันหลังไฟฟ้า และระบบบันทึกตำแหน่ง
- คอนโซลหน้าหุ้มด้วยหนังสีขาว Pure White ตกแต่งด้วยด้ายสีขาว
- หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบสี Active Driving Display
- มาตรวัดความเร็วแบบดิจิตอล พร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่
- รองรับระบบ Apple CarPlay
- ระบบนำทาง Navigation System
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านนิรภัย รวม 6 ตำแหน่ง
- ระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง (360° View Monitor) พร้อมระบบเซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้าและด้านหลัง
- MRCC: ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
- SBS: ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ
- SCBS: ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ
สำหรับ เครื่องยนต์ของMazda CX-3 ไมเนอร์เชนจ์(2020) ใช้เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซินขนาด 2.0 ลิตร แรงม้าสูงสุด 156 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 204 นิวตัน-เมตร ให้อัตราการประหยัดน้ำมันสูงถึง 16.4 กิโลเมตรต่อลิตร
- SKYACTIV-DRIVE เกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟ 6 สปีด
- SKYACTIV-BODY โครงสร้างตัวถังสกายแอคทีฟ ซึ่งเป็นโครงสร้างของรถยนต์ยุคใหม่ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อให้มีน้ำหนักที่เบาลงเหมาะสมกับขนาดและกำลังของเครื่องยนต์ และเพิ่มโลหะเกรดพรีเมี่ยมเหล็กกล้าทนแรงดึงสูง (High Tensile Steel) ที่แข็งแกร่งแต่มีน้ำหนักเบา
- SKYACTIV-CHASSIS ช่วงล่างและระบบบังคับเลี้ยวสกายแอคทีฟ ที่เกาะถนนมั่นคง คงความนุ่มนวลของช่วงล่างยังคงอยู่ ซึ่งระบบบังคับเลี้ยวให้ความมั่นใจในการควบคุมรถขณะเข้าโค้งได้อย่างแม่นยำ
- ระบบความปลอดภัย i-ACTIVSENSE เทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงของมาสด้าที่พัฒนาขึ้นตามปรัชญาความปลอดภัย Mazda Proactive Safety
- ระบบควบคุมการขับขี่อัจฉริยะ หรือ GVC ภายใต้เทคโนโลยี SKYACTIV-Vehicle Dynamics โดยระบบ GVC จะช่วยควบคุมสมรรถนะการขับขี่ให้แม่นยำ
- Mazda Connect ไม่พลาดทุกการติดต่อ อัพเดทข้อมูลข่าวสาร หรือ รับ-ส่ง SMS จากสมาร์ทโฟนผ่านสัญญาณ Bluetooth สามารถเชื่อมต่อกับ Apple Carplay
ระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันขั้นสูงของ Mazda CX-3 ไมเนอร์เชนจ์(2020)
- ระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ หรือ G-Vectoring Control (GVC)
- ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว หรือ DSC (Dynamic Stability Control)
- ระบบช่วยป้องกันรถลื่นไถล หรือ TCS (Traction Control System)
- ระบบช่วยออกตัวรถขณะอยู่บนเนินชัน หรือ HLA (Hill Launch Assist)
- สัญญาณไฟกระพริบอัตโนมัติเมื่อเบรกรถในภาวะฉุกเฉิน เพื่อส่งสัญญาณเตือนรถคันหลัง หรือ ESS (Emergency Signal System)
- ระบบ ABS 4 ล้อ พร้อม EBD ช่วยกระจายแรงเบรก
- ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ SBS (Smart Brake Support) ที่สามารถตรวจจับรถคันหน้าและช่วยเบรกอัตโมมัติ
- ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติหากตรวจพบว่าไม่สามารถหลีกเลี่ยงการชนได้ ระบบจะช่วยเบรกอัตโนมัติจากการชนปะทะด้านหน้า SCBS (Smart City Brake Support)
- ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
- ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring)
- ระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง (360° View Monitor)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ MRCC (Mazda Radar Cruise Control)
- และปกป้องทันทีจากอุบัติเหตุด้วยถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง ม่านถุงลมนิรภัย รวม 6 ตำแหน่ง
สีภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ประกอบด้วย
- สีขาว เซรามิก เมทัลลิค (Ceramic Metallic)
- สีแดง โซล เรด คริสตัล (Soul Red Crystal)
- สีเทา แมชชีน เกรย์ (Machine Gray)
- สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล (Snowflake White Pearl)
- สีดำ เจ็ท แบล็ก (Jet Black)
นอกจากนี้ ทางมาสด้า เซลส์ ประเทศไทย ยังอัดโปรโมชั่นแรงๆ ทั้ง ดอกเบี้ย 0% เฉพาะรุ่น MY2020 เงินดาวน์ 25%, ผ่อนนาน 48 เดือน ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี ขยายการรับประกันคุณภาพเป็น 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร และฟรีค่าแรงเช็คระยะ 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร