นายทาดาโอะมิ ซูซูกิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด (Suzuki) กล่าวว่า แผนการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยหลังจากนี้ของบริษัท ซึ่งได้เตรียมพร้อมรองรับต่อการแข่งขันในอนาคต นอกเหนือจากแผนการแนะนำผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่เข้าสู่ตลาดตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ฟรี ค่าบำรุงรักษา – รับประกัน Warranty 7 ปี ราคาอย่างเป็นทางการ Suzuki SWIFT : 567,000 – 637,000 บาท
ก่อนหน้านี้ ซูซูกิ ได้ประกาศแผนการดำเนินธุรกิจรูปแบบใหม่ผ่านแคมเปญ “SUZUKI WORRY FREE” ซึ่งจะเป็นการยกระดับงานบริการในทุกด้าน โดยหนึ่งในแผนงานดังกล่าวคือ การร่วมมือกับทางผู้จำหน่ายขยายงานบริการศูนย์ซ่อมตัวถังและสีมาตรฐาน เพื่อรองรับงานบริการได้อย่างครบครัน
นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบดูแลงานด้านการวางแผนบริหารงานฝ่ายบริการและอะไหล่ กล่าวว่า การขยายงานบริการศูนย์ซ่อมตัวถังและสีมาตรฐาน ซูซูกิ นั้น จะเป็นยกระดับคุณภาพในทุกงานให้เพิ่มมากขึ้นด้วยมาตรฐาน 5 ข้อ ดังนี้
อะไหล่แท้ซูซูกิ : เชื่อมั่นในคุณภาพของอะไหล่แท้ที่ได้รับรองมาตรฐานของซูซูกิ
บริการอย่างมืออาชีพ : มั่นใจในบริการและการให้คำปรึกษาอย่างมืออาชีพเป็นมิตรและใส่ใจทุกรายละเอียดการซ่อมโดยช่างผู้มีความชำนาญที่ผ่านการรับรองมาตรฐานการอบรมในการซ่อมรถยนต์ซูซูกิ
เครื่องมือมาตรฐานซูซูกิ : ใช้เครื่องมือเฉพาะทางที่ได้รับการรับรองจากซูซูกิ ช่วยให้การซ่อมมีความแม่นยำและมีประสิทธิภาพมั่นใจในคุณภาพงานซ่อม
สีซ่อมรถยนต์ที่ได้รับรองมาตรฐานซูซูกิ : ใช้สีซ่อมรถยนต์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานของซูซูกิ ทำให้สีรถสวยงามและทนทาน เหมือนใหม่จากโรงงาน
การรับประกันงานซ่อม : รับประกันงานซ่อมว่ามีคุณภาพและมาตรฐานสร้างความอุ่นใจและความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า โดยจะรับประกันงานซ่อม 1 ปี ไม่จำกัดระยะทาง และอะไหล่รับประกัน 1 ปี 20,000 กม. (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
ปัจจุบันมีผู้จำหน่ายที่ผ่านการรับรองมาตรฐานงานบริการจาก บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด จำนวน 32 แห่ง โดยในอนาคต ซูซูกิ ยังมีแผนงานที่จะขยายงานบริการศูนย์ซ่อมตัวถังและสีมาตรฐานซูซูกิ เพิ่มอีกจำนวน 8 แห่ง เป้าหมายภายในปี 2567 จะต้องมีศูนย์ซ่อมตัวถังและสี จำนวน 40 แห่งทั่วประเทศ เพื่อรองรับการเติบโตทางธุรกิจของ ซูซูกิ พร้อมส่งมอบบริการและประสบการณ์การใช้บริการที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า
“เราได้พัฒนาระบบจัดการฐานข้อมูลลูกค้า (Dealer Management System หรือ DMS) ให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มรูปแบบเพื่อเข้าถึงข้อมูลลูกค้าได้ในแบบ Real Time ซึ่งช่วยให้ทราบถึงประวัติการเข้ารับบริการของลูกค้า และสามารถประเมินความต้องการ ไปจนถึงเรื่องของค่าใช้จ่ายในการเข้ารับบริการได้อย่างแม่นยำ ทั้งยังร่วมมือกับผู้จำหน่ายทุกรายมุ่งเน้นอบรมพนักงานในเชิงปฏิบัติอย่างมืออาชีพให้มีใจรักในการบริการลูกค้าเป็นอย่างดีอีกด้วย”
ทั้งนี้ แม้ซูซูกิจะต้องเผชิญการแข่งขันในตลาดที่ค่อนข้างรุนแรง รวมถึงสภาวะการหดตัวลงของตลาดและความเข้มงวดของสถาบันการเงินต่างๆ แต่ในช่วงที่ผ่านมาเรายังคงรักษาระดับยอดขายรถยนต์ไว้ได้ โดยบริษัทมียอดขายสะสมนับตั้งแต่เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยอยู่ที่ 311,268 คัน
