นายแฟรงก์ แซนเดอร์สัน ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ สโกมาดิ (Scomadi) เปิดเผยว่า บริษัทได้มีการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของแบรนด์ (Reborn) อีกครั้ง ภายหลังปี 2567 ได้มีการขยายตลาดไปยัง ประเทศเวียดนาม และ ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งได้รับผลต่อบรับที่ดีจากผู้บริโภค พร้อมการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับมาตรฐานการปล่อยไอเสีย (ยูโร 5) สำหรับรถจักรยานยนต์ ซึ่งเตรียมที่จะขยายตลาดไปยังประเทศอื่น ๆ ในปี 2568 จึงได้มีการแต่งตั้งผู้บริหารชุดใหม่ ได้แก่ “แม็กซิม วองเดอเรเกน” เป็น กรรมการผู้จัดการ และ “พรเศก ภาคสุวรรณ” เป็น ผู้จัดการทั่วไป ของ บริษัท สโกมาดิ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อรองรับแผนธุรกิจในอนาคต
นายแม็กซิม วองเดอเรเกน กรรมการผู้จัดการ บริษัท สโกมาดิ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ Scomadi กล่าวว่า ประเทศไทยถือเป็นฐานการผลิตรถจักรยานยนต์ของแบรนด์เพื่อส่งออกเป็นทั่วโลก โดยในปี 2568 จะมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของบริษัทให้รองรับมาตรฐานยูโร 5 เพื่อเจาะตลาดยุโรป ที่รถจักรยานยนต์ต้องมีมาตรฐานดังกล่าวในการทำตลาด คาดว่าจะสามารถส่งออกได้ในช่วงไตรมาสที่ 3/2568
พร้อมกันนี้ ยังมีแผนระยะกลาง 3 ปีในการรุกตลาดใหม่ อาทิ สหรัฐอารับเอมิเรต (UAE), โอมาน, มาเลเซีย อีกด้วย รวมถึงในอนาคตหลังจากรถจักรยานยนต์ของแบรนด์ผ่านมาตรฐานยูโร 5 แล้วนั้น จะขยายตลาดไปสู่ ไต้หวัน, เกาหลี, ตุรกี และ อเมริกาใต้
“Scomadi ถือเป็นแบรนด์ระดับโลกที่มีบริษัทแม่และฐานการผลิตอยู่ในประเทศไทย ซึ่งหลังจากนี้จะขยายการส่งออกและทำตลาดไปยังประเทศต่าง ๆ มากขึ้นโดยประเทศไทยจะเป็นฐานการผลิตหลัก”
ขณะที่ ในปี 2566 สัดส่วนระหว่าง การส่งออก กับ จำหน่ายในประเทศ อยู่ที่ 30% และ 70% ตามลำดับ กระทั่งในปี 2567 สัดส่วนดังกล่าวเปลี่ยนเป็น 50% และ 50% ตามลำดับ และในปี 2568 สัดส่วนดังกล่าวจะอยู่ที่ 85% และ 15% ตามลำดับ
ปัจจุบันกำลังการผลิตของ สโกมาดิ ในประเทศไทย มีกำลังการผลิตรวมอยู่ที่ 8,000 คัน/ปี โดยปัจจุบันใช้กำลังการผลิตอยู่เพียงระดับ 30% ซึ่งยังสามารถขยายกำลังการผลิตได้อีกเพื่อรองรับแผนการส่งออกที่วางไว้ โดยคาดว่าเป้าหมายการส่งออกในปี 2568 จะส่งไปที่ ยุโรป 3,000 คัน, เวียดนาม 300 คัน และ อินโดนีเซีย 1,000 คัน
นอกจากนั้น บริษัทยังมองเห็นโอกาสทางธุรกิจในกลุ่มเครื่องยนต์ขนาดต่าง ๆ ที่ในตลาดต่างประเทศมีการเติบโตแต่บริษัทยังไม่มีผลิตภัณฑ์รองรับ อาทิ 150 ซีซี. และ 300 ซีซี. ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะมีการแนะนำลงในรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ในเร็ว ๆ นี้ เพื่อรองรับตลาดส่งออกและตลาดในประเทศ
นายพรเศก ภาคสุวรรณ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท สโกมาดิ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แผนการขยายศูนย์จำหน่ายและบริการ (โชว์รูม) ที่ปัจจุบันมีจำนวน 44 แห่ง ทั่วประเทศ จะขยายเพิ่มขึ้น 5 แห่ง ตามหัวเมืองใหญ่และในพื้นที่ กทม. เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ที่ยังไม่มีผู้แทนจำหน่ายและจะมีการปรับเปลี่ยนโชว์รูมบางแห่งให้สอดคล้องกับทิศทางของแบรนด์อีกทั้งมีแผนการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้ใช้งานกับแบรนด์ด้วยการสร้างคอมมูนิตี้ผู้ใช้งานให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกัน จะมีการเปิดตัวรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่อย่างน้อย 2 รุ่น พร้อมการสร้างสีสันใหม่ให้กับผลิตภัณฑ์ที่มีจำหน่ายอยู่ รวมถึงจะมีการจัดทำโปรแกรมให้ผู้บริโภคสามารถปรับแต่งรถจักรยานยนต์ด้วยตัวเอง (คัสตอม) โดยจะมีการสร้างความแข่งแกร่งของผู้ผลิตชิ้นส่วนรองรับโปรแกรมดังกล่าว
“เป้าหมายของแบรนด์หลังจากนี้คาดว่าจะกลับไปสู่ยุคที่มียอดขายในระดับเกิน 1,000 คันได้เหมือนดังเช่นก่อนหน้านี้ 2-3 ปี ด้วยแผนธุรกิจใหม่ และอยากให้แบรนด์สโกมาดิเป็นส่วนหนึ่งในทุกกิจกรรมของผู้คนเพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์”
สำหรับภาพรวมตลาดพรีเมี่ยมสกู๊ตเตอร์ในประเทศไทยที่ในปีนี้ลดลงตามสถานการณ์ตลาดจาก 3.5 หมื่นคันในปีที่ผ่านมาเหลือ 3 หมื่นคัน และคาดว่าจะทรงตัวในปี 2568 บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 20% ของตลาดในปีหน้า