การประกาศขายรถบ้านด้วยตัวเองอาจจะดูยุ่งยากและล่าช้ากว่าการนำรถยนต์ไปขายที่ศูนย์หรือ เต็นท์รถมือสอง แต่ข้อดีคืออาจเหลือกำไรมากกว่าการนำไปขายที่อื่น แต่หากมั่นใจว่ารถของเรามีจุดเด่นดึงดูดด้วยสภาพรถยนต์ที่สวย ราคาโดนใจ มีประวัติการเช็คระยะจากศูนย์บริการอย่างสม่ำเสมอ ก็สามารถช่วยให้ขายรถบ้านได้ในราคาที่น่าพอใจ
Roddonjai นำเสนอ 6 เคล็ดลับที่จะช่วยให้ขายรถบ้านเองได้แบบง่ายและได้ราคาดีดังนี้
1.เตรียมรถให้พร้อม
ก่อนที่จะประกาศขายรถบ้านของคุณ สิ่งสำคัญที่ต้องเตรียมคือ ความสวยงามทั้งภายในและภายนอกของรถยนต์ ทั้งล้างทำความสะอาด ซ่อมแซมส่วนที่ชำรุด พร้อมทั้งตรวจเช็คสภาพเครื่องยนต์และระบบต่าง ๆ ให้แน่ใจว่าอยู่ในสภาพดี เพราะการประกาศขายรถบ้านที่อยู่ในสภาพดี จะช่วยเพิ่มโอกาสในการขาย ทำให้ผู้ซื้อสนใจและไม่ถูกกดราคา
2.ตั้งราคาที่เหมาะสม
ก่อนตั้งราคาควรตรวจสอบข้อมูลราคากลางของรถยนต์ ทั้งรุ่น ปี สีรถยนต์ และเลขระยะทางในการวิ่ง หากมั่นใจว่ารถอยู่ในสภาพดี ไม่เคยชน และมีการเข้าศูนย์บริการอยู่ตลอด ก็สามารถตั้งราคามากกว่าท้องตลาดได้ ดังนั้นการเทียบราคากับราคากลางตลาดรถยนต์ที่มีมาตรฐานน่าเชื่อถือ ก็จะทำให้ผู้ซื้อมั่นใจ ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้ การตั้งราคาจะมีผลต่อระยะเวลาในการขาย จึงควรตั้งราคาที่รับได้ เพื่อให้สามารถปิดการขายได้เร็วยิ่งขึ้น
3.ถ่ายรูปและวิดีโอที่สวยงาม
รูปภาพและวิดีโอ สำคัญกว่าที่คิด เพราะผู้ซื้อมองเห็นเป็นสิ่งแรก ควรถ่ายรูปรถหลากหลายมุม เน้นจุดเด่นของรถ และถ่ายวิดีโอภายนอกแบบรอบคัน รวมถึงภายในรถเพื่อแสดงให้เห็นถึงสภาพและออปชันต่าง ๆ ดังนั้นการถ่ายภาพและวิดีโอให้สวยงาม จะยิ่งดึงดูดให้ผู้ซื้อคลิกเข้ามาดูรายละเอียดรถยนต์ของเรา และอยากมาดูรถจริงได้มากขึ้น
4.เขียนรายละเอียดที่ชัดเจน
ผู้ซื้อมักจะสนใจคนที่ประกาศขายรถบ้าน แล้วมีรายละเอียดครบถ้วน เพื่อประกอบการตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ดังนั้นควรเขียนรายละเอียดเกี่ยวกับรถให้ชัดเจน เช่น ยี่ห้อรถยนต์ ระบุรุ่น สี ปี ระยะทาง สภาพ ออปชัน รายละเอียดการซ่อมแซม การเช็คระยะ ข้อมูลติดต่อ ยิ่งรายละเอียดครบถ้วนเท่าไหร่ ก็ยิ่งช่วยให้ผู้ซื้อตัดสินใจได้ง่ายขึ้นเท่านั้น
5.เลือกช่องทางการขายที่เหมาะสม
การขายรถบ้านเอง อาจไม่ง่ายและไม่รวดเร็วเหมือนกับการนำรถไปขายที่อื่น ดังนั้นการเลือกแพลตฟอร์มในการประกาศขาย จึงเป็นเรื่องที่สำคัญไม่น้อยไปกว่ารายละเอียดอื่น ๆ เลย
6.ปิดการขายอย่างรวดเร็ว
เมื่อตกลงราคาขายกับผู้ซื้อแล้ว ต้องเตรียมเอกสารที่จำเป็นสำหรับการโอนกรรมสิทธิ์ เอาไว้ให้พร้อม โดยเลือกช่องทางการขายที่มีบริการไฟแนนซ์จัดได้ถึงที่เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ซื้อ และนัดหมายวันเวลาและสถานที่ในการโอนให้ชัดเจน ที่สำคัญต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าการโอนกรรมสิทธิ์เป็นไปอย่างถูกต้อง ครบถ้วน และเสร็จสมบูรณ์เรียบร้อย
