slide 1
slide 1
Image Slide 2
Image Slide 2
previous arrowprevious arrow
next arrownext arrow
Homeสกู๊ปพิเศษRIDDARA ลั่น! ตั้งราคาสู้กระบะเจ้าตลาด แย้มแผนศึกษาตั้งโรงงานในไทย

RIDDARA ลั่น! ตั้งราคาสู้กระบะเจ้าตลาด แย้มแผนศึกษาตั้งโรงงานในไทย

นายหลิง ซื่อ เฉวียน ประธานกรรมการบริหาร RIDDARA New Energy Automobile (ริดดารา) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายในประเทศไทยภายใน 1 ปีจากนี้ ไว้อยู่ที่ 10,000 คัน โดยจะมาจากรถกระบะไฟฟ้า 100% ในรุ่น RIDDARA RD6 เป็นหลัก

ทั้งนี้ แผนการขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายบริษัทได้มีการเซ็นสัญญาการแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายแล้วจำนวน 29 ราย และในปี 2567 จะเพิ่มเป็น 30 ราย โดยในปี 2568 จะเพิ่มขึ้นอีก 20 ราย รวมเป็น 50 ราย โดยจะมุ่งเน้นการให้บริการหลังการขาย เพื่อดูแลความพึงพอใจของลูกค้าให้ได้มากที่สุด

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ราคาอย่างเป็นทางการ – ภาพรถคันจริง RIDDARA RD6 กระบะไฟฟ้า100% : 899,000 – 1,299,000 บาท (นำเข้า CBU) | เครือ GEELY

ส่วนการบริหารงานและศูนย์จำหน่ายและบริการของ RIDDARA แม้ว่าเราอยู่ภายใต้เครือ GEELY Holding Group ซึ่งมีหลายแบรนด์ภายใต้เครือก็จริง แต่มีการบริหารงานด้านการจำหน่ายและการตลาดอย่างชัดเจน ซึ่งในอนาคตอาจจะมีการใช้ระบบหลังบ้านร่วมกันทั้งในด้านการให้บริการหลังการขายและการขนส่งชิ้นส่วนอะไหล่ เพื่อให้สามารถบริหารจัดการต้นทุนที่ดี โดยอนาคตอาจมีความเป็นไปได้ในการรวมโชว์รูมกันแต่จะมีการแยกบริหารงานกันชัดเจน

RIDDARA

ขณะที่ บริษัทได้ทำการศึกษาและวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ในประเทศไทยเป็นระยะเวลา 2 ปี โดยใช้เงินลงทุนมูลค่ากว่า 750 ล้านบาท เพื่อให้ผลิตภัณฑ์เหมาะสมกับประเทศไทยทั้งในด้านสมรรถนะการขับขี่และฟังก์ชั่นการทำงานต่าง ๆ และการปรับให้มีความพร้อมกับาภาพอากาศของประเทศไทย

สำหรับการเปิดตัว RIDDARA RD6 ในวันที่ 29 ตุลาคม 2567 บริษัทจะเปิดให้ลูกค้าได้สัมผัสกับรถได้ที่ผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศ และพร้อมที่จะส่งมอบได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป แผนการบริหารงานจะอ้างอิงจากประเทศจีนเป็นหลักซึ่งการตั้งราคาจำหน่ายเริ่มต้น 8.99 แสนบาท – 1.29 ลานบาท ซึ่งต้องการตั้งราคาให้อยู่ในระดับเดียวกันกับรถกระบะเครื่องยนต์สันดาปภายใน

“บริษัทได้ใช้เงินลงทุนในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับประเทศไทยมูลค่ากว่า 750 ล้านบาท เป็นระยะเวลากว่า 2 ปี เรียนรู้และทำความเข้าใจตลาดมาอย่างยาวนานจนกระทั่งแนะนำผลิตภัณฑ์นี้ลงสู่ตลาด

นอกจากนั้น ในสถานการณ์การแข่งขันของตลาดรถยนต์ในประเทศไทย โดยเฉพาะตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่มีความรุนแรง บริษัทยืนยันว่า จะไม่ใช้นโยบายในการปรับลดราคา แม้ว่าหากยอดขายไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ แต่จะมีการใช้กลยุธ์ในการสร้างแบรนด์และทำให้ผู้บริโภครู้จักแบรนด์มากขึ้น

ขณะเดียวกัน แผนการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในปี 2568 บริษัทคาดว่าจะมีการแนะนำเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริดลงสู่ตลาด โดยบริษัทยืนยันว่าจะโฟกัสเฉพาะผลิตภัณฑ์รถกระบะเท่านั้น ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาการทำรถกระบะในกลุ่มคอมเมอร์เชียลอีกด้วย

นายหลิง ซื่อ เฉวียน กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นตลาดที่มีศักยภาพของตลาดกระบะเป็นอย่างมากและผู้บริโภคชาวไทยเปิดรับเทคโนโลยีให้โดยเฉพาะรถยนต์พลังงานไฟฟ้า รวมถึงการสนับสนุนจากรัฐบาลด้านการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทย โดย รถกระบะไฟฟ้าถือเป็นเซกเมนท์ใหม่ที่ไม่ได้บรรจุอยู่ในมาตรการสนับสนุนของรัฐ และหลังจากนี้จะติดตามมาตรการการสนับสนุนจากรัฐบาลอย่างใกล้ชิด

อย่างไรก็ตาม บริษัทให้ความสำคัญในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย 3 ด้านด้วยกันได้แก่ 1.ด้านการจำหน่าย 2.ด้านการบริการหลังการขาย และ 3.ด้านการผลิต

แน่นอนว่า ประเทศไทยเป็นตลาดหลักของรถพวงมาลัยขวา และการที่เราจะขยายการทำธุรกิจในส่วนนี้ได้ ซึ่งต้องศึกษาตลาดทิศทางการลงทุนอย่างรอบครอบ ซึ่งเรากำลังศึกษาด้านการลงทุนในประเทศไทยอยู่

นอกจากนี้ ปัจจุบันมีการพัฒนาแพลตฟอร์มเทคโนโลยีภายใต้ชื่อ MAP ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่คิดค้นขึ้นเอง และสามารถรองรับได้ทุกเทคโนโลยีการขับเคลื่อน ทั้ง พลังงานไฟฟ้า 100% (BEV), พลังงานปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) และ พลังงานไฮบริด (HEV) ซึ่งเทคโนโลยีต่าง ๆ จะใช้การพัฒนาจากแพลตฟอร์มดังกล่าว

- Advertisement -spot_img
Mitsubishi Mega Deal
Mitsubishi Mega Deal
ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน แบล็ก เอดิชัน
ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน แบล็ก เอดิชัน
previous arrow
next arrow
- Advertisement -spot_img

Stay Connected

400,000FansLike
6,955FollowersFollow
153,000FollowersFollow
319FollowersFollow
107,000SubscribersSubscribe

Must Read

Related News