ปอร์เช่ ประเทศไทย เปิดตัว ปอร์เช่ 911 (Porsche 911) ใหม่ ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ จำนวน 3 รุ่น ได้แก่ ปอร์เช่ 911 คาร์เรร่า 4 เอส (Carrera 4S) ทั้งเวอร์ชั่นคูเป้และคาบริโอเลต์, ปอร์เช่ 911 ทาร์กา 4 เอส (Targa 4S) โดยการเปิดตัวในครั้งนี้ส่งผลให้รุ่นย่อยของ ปอร์เช่ 911 ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เพิ่มขึ้นเป็น 6 รุ่น
สำหรับรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อใหม่นี้มาพร้อมระบบส่งกำลังที่ได้รับการพัฒนาครั้งใหญ่ เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจกว่ารุ่นก่อนหน้า อีกทั้งยังมาพร้อมทางเลือกการปรับแต่งเพิ่มเติม และรายการอุปกรณ์มาตรฐานที่ได้รับการอัปเกรดให้ครบยิ่งขึ้น
จากการสำรวจข้อมูลพบว่าลูกค่ากว่า 50% ที่เลือกซื้อ ปอร์เช่ 911 ในรุ่น เอส ตัดสินใจเลือกซื้อรุ่นที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อสะท้อนให้เห็นถึงคุณสมบัติที่ตอบโจทย์การใช้งานในสภาพอากาศแปรปรวนหรือสภาพถนนที่มีความท้าทายซึ่งระบบนี้จะช่วยเพิ่มแรงยึดเกาะสูงสุดแม้ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยและมอบความมั่นใจขณะขับขี่ในทุกสถานการณ์
การทำงานของระบบขับเคลื่อน ปอร์เช่ 911 ในรุ่น เอส ใหม่ ได้รับการออกแบบให้เน้นการส่งกำลังไปยังล้อหลังเป็นหลัก เพื่อคงบุคลิกของรถสปอร์ตในแบบปอร์เช่ และเมื่อจำเป็น ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (Porsche Traction Management) จะส่งแรงบิดเพิ่มเติมไปยังเพลาหน้าโดยอัตโนมัติเพื่อเสริมเสถียรภาพและเพิ่มการยึดเกาะบนถนนชุดคลัตช์ในเฟืองท้ายหน้ายังคงใช้ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำและควบคุมการทำงานผ่านระบบอิเล็กโทรแมคคานิคที่ผสานการทำงานระหว่างกลไกและไฟฟ้าอย่างแม่นยำโดยมีการปรับอัตราทดเกียร์เล็กน้อยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการถ่ายทอดกำลัง
ปอร์เช่ 911 รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ มาพร้อมระบบส่งกำลังที่ได้รับการอัปเกรดจากรุ่น คาร์เรร่า เอส โดยติดตั้งเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ 6 สูบ เทอร์โบคู่ ขนาด 3.0 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 480 แรงม้า เพิ่มขึ้น 30 แรงม้า จากรุ่นก่อนหน้า สมรรถนะที่เพิ่มขึ้นนี้เป็นผลจากการออกแบบระบบอินเตอร์คูลเลอร์ใหม่ ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากรุ่น 911 เทอร์โบ โดยช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการลดอุณหภูมิอากาศก่อนเข้าสู่ห้องเผาไหม้ ส่งผลให้เกิดการจุดระเบิดอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งด้านกำลังและแรงบิด ระบบเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่แบบ 8 จังหวะ ถ่ายทอดกำลังสู่ทั้ง 4 ล้อได้อย่างต่อเนื่องและแม่นยำ ส่งผลให้ 911 คาร์เรร่า 4 เอส คูเป้ สามารถเร่งความเร็วจาก 0–100 กม./ชม. ได้ภายในเวลาเพียง 3.3 วินาที (เมื่อมาพร้อมแพ็กเกจ Sport Chrono) และทำความเร็วสูงสุดได้ 308 กม./ชม.
นอกจากนั้น ปอร์เช่ 911 รุ่นใหม่ มาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่ได้รับการพัฒนาอย่างมากเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ครอบคลุมตั้งแต่ล้อคาร์เรร่า เอส ขนาด 20 นิ้วในล้อหน้า และ 21 นิ้วในล้อหลัง ที่มาพร้อมดีไซน์ใหม่ และการจัดสัดส่วนขนาดยางหน้า–หลังแบบไม่เท่ากัน ซึ่งไม่เพียงแต่เสริมภาพลักษณ์ความสปอร์ต แต่ยังเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนให้เฉียบคมในทุกเส้นโค้ง ระบบ Porsche Torque Vectoring Plus (PTV+) ถูกติดตั้งมาเป็นมาตรฐาน ช่วยกระจายแรงบิดไปยังล้อหลัง เสริมสมรรถนะการเข้าโค้งและการทรงตัว เน้นให้การควบคุมเป็นไปอย่างแม่นยำ พร้อมระบบท่อไอเสียสปอร์ตที่มอบเสียงเร้าใจอันเป็นเอกลักษณ์ของ 911 อย่างเต็มอารมณ์ ระบบเบรกคุณภาพสูงซึ่งยกมาจากรุ่น จีทีเอส ติดตั้งมาเป็นมาตรฐานในรุ่นใหม่นี้ โดยมาพร้อมคาลิเปอร์เบรกสีแดง และจานเบรกขนาด 408 มิลลิเมตรที่ด้านหน้า และ 380 มิลลิเมตรที่ด้านหลังสำหรับรุ่น 911 ทาร์กาโฟร์เอสยังมาพร้อมระบบช่วยเลี้ยวล้อหลังซึ่งช่วยให้ควบคุมรถได้คล่องตัวยิ่งขึ้นทั้งในความเร็วต่ำและสูง
ภายในห้องโดยสารของรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อทั้งหมดตกแต่งด้วยแพ็กเกจหนังคุณภาพสูง พร้อมติดตั้งไฟหน้าแบบเมทริกซ์แอลอีดี นอกจากนี้ยังมีแท่นชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย กระจกมองข้างพับไฟฟ้าพร้อมไฟล้อมรอบกระจก แพ็กเกจไฟตกแต่งภายใน (Light Design Package) กระจกมองหลังและกระจกข้างปรับลดแสงอัตโนมัติพร้อมเซนเซอร์วัดฝนและระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนนอกจากนี้ยังมาพร้อมตัวเลือกในการปรับแต่งที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นสีตัวถังสุดพิเศษวัสดุตกแต่งภายในที่คัดสรรอย่างพิถีพิถันระบบเสียงคุณภาพสูงระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะไปจนถึงกลไกระบบหลังคาที่ตอบโจทย์ทั้งความงามและประโยชน์ใช้สอย
ปอร์เช่ 911 คาร์เรร่า 4 เอส คูเป้ ราคาเริ่มต้นที่ 14,790,000 บาท ส่วนรุ่น 911 คาร์เรร่า 4 เอส, คาบริโอเลต์ มีราคาเริ่มต้นที่ 16,090,000 บาท และ 911 ทาร์กา 4 เอส มีราคาเริ่มต้นที่ 16,190,000 บาท