

Nissan N6 ขุมพลัง PHEV เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วที่ประเทศจีน เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2025 มาพร้อมทางเลือก 5 สีตัวถัง ประกอบด้วย สีทอง Sunrise Gold, สีม่วง Hyacinth Purple, สีเงิน Flowing Silver, สีเทา Rock Grey, สีดำ Obsidian Black และ สีขาว Pearl White ในอนาคต จะมีการพิจารณานำไปเปิดตัวในละตินอเมริกา, ตะวันออกกลาง และ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย สำหรับรายละเอียดมิติตัวถัง มีดังต่อไปนี้
- ยาว 4,831 มิลลิเมตร
- กว้าง 1,885 มิลลิเมตร
- สูง 1,494 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 2,815 มิลลิเมตร



Nissan N6 มีสัดส่วนตัวถังกว้าง – สูง ในอัตรา 1.26 ทั้งยังมีสัดส่วนทองคำ 0.618 ทำให้ดูโฉบเฉี่ยว ด้านหน้าออกแบบด้วยดีไซน์ V-Motion ตามเอกลักษณ์ของค่าย ทั้งยังมีไฟหน้า LED สองชั้นพร้อมแถบไฟ LED เชื่อมต่อกันตลอดแนวทั้งด้านหน้าและด้านหลัง โดยมีโลโก้ Nissan แบบเปล่งแสงได้ด้วย มือเปิดประตูเป็นแบบจมเสมอตัวถัง ส่วนช่องชาร์จอยู่ด้านข้างตัวถังเยื้องมาด้านหลัง ปิดท้ายด้วยปลายท่อไอเสียแบบซ่อน
ห้องโดยสารของ Nissan N6 มีให้เลือกสองสีระหว่างสีขาวหรือสีดำ คอลโซลกลางและแผงประตูออกแบบมาให้มีลักษณะโอบล้อมผู้ใช้งาน ไฟ Ambient Lighting ปรับได้ 256 สี ทั้งยังมีวัสดุบุนุ่ม หน้าจอสัมผัสมีความละเอียด 2.5K ขนาด 15.6 นิ้ว มาพร้อมเครื่องเสียง 6 ลำโพง และระบบนำทาง ส่วนแท่นชาร์จไร้สายมีกำลัง 50 วัตต์ ระบายความร้อนด้วยอากาศ เสริมด้วยระบบปรับกลิ่นภายในห้องโดยสาร เบาะเป็นแบบ AI Zero-Pressure รองรับสรีระผู้ใช้งาน มีจุดนวดทั่วร่างการ และมีระบบเป่าลม



Nissan N6 ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง PHEV ผสานการทำงานของเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 102 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 135 นิวตันเมตร จับคู่มอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 211 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร จับคู่เกียร์อัตโนมัติ DHT 1 จังหวะ มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 21.1 kWh ขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างเดียวได้สูงสุด 170 – 180 กิโลเมตร ชาร์จ 30 – 80% ใน 17 นาที เร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 6.8 วินาที ช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบ MacPherson ด้านหลังเป็น Torsion Beam
ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ใน Nissan N6 ทำงานร่วมกับกล้องภายนอก 7 จุด, กล้องภายใน 1 จุด, เรดาร์ Ultrasonic 12 จุด และ เรดาร์คลื่นความถี่ 3 ม.ม. รองรับการขับขี่กึ่งอัตโนมัติ ทั้งในย่านความเร็วสูงและในเมือง สำหรับกำหนดการเริ่มส่งมอบในจีน จะเริ่มขึ้นในวันที่ 2 ธันวาคม 2025 และมีให้เลือก 5 รุ่นย่อย สนนราคาจำหน่ายที่นั่น 99,900 – 129,900 หยวน (ราว 450,000 – 585,000 บาท) แต่ในช่วงเปิดตัว จะมีราคาพิเศษจำนวนจำกัดเหลือ 91,900 – 121,900 หยวน (ราว 414,000 – 549,000 บาท)
ที่มา & ภาพ: carnewschina, autohome







