Ford Puma เป็นหนึ่งในรถยนต์ขายดีในยุโรป โดยก่อนหน้ามีแต่ขุมพลัง EcoBoost Hybrid อย่างเดียว แต่ตอนนี้มีรุ่นที่ใช้ขุมพลัง EV ตามมาเสริมทีพแล้วในชื่อ Ford Puma Gen-E ซึ่งพร้อมเปิดรับจองทันทีในยุโรป และจะเริ่มส่งมอบในฤดูใบไม้ผลิ 2025 หรือราวเดือนมีนาคม – พฤษภาคม ส่วนรายละเอียดมิติตัวถัง มีดังนี้
- ยาว : 4,313 มิลลิเมตร
- กว้าง : 1,930 มิลลิเมตร
- สูง : 1,555 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ : 2,588 มิลลิเมตร
ดีไซน์ภายนอกที่ปรับเปลี่ยนใหม่ใน Ford Puma Gen-E มีทั้งกระจังหน้าปิดตายแบบเดียวกับของ Mustang Mach-E ต่างจากกระจังแบบปกติซึ่งติดตั้งใน Puma รุ่นที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป เสริมด้วยสปอยเลอร์ดีไซน์สปอร์ต และล้อขนาด 17 – 18 นิ้ว พร้อม option ขนาด 19 นิ้ว ทั้งหมดล้วนมีผลช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรีดอากาศ นำไปสู่ประสิทธิภาพในการใช้พลังงานได้ดียิ่งขึ้น ทั้งยังมีสีตัวถังที่สะดุดตาอย่างสีเหลือง Electric Yellow และ สีน้ำเงิน Digital Aqua Blue ส่วนไฟหน้า Dynamic Matrix LED มีระบบลดแสงสะท้อนด้วย
ภายในของ Ford Puma Gen-E มาในสี two-tone เทาตัดดำตลอดทั้งคัน เสริมด้วยไฟ Ambient Lighting คอลโซลกลางเป็นแบบยกสูง เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของและผนวกแท่นชาร์จไร้สายไว้ในจุดนี้ เพิ่มความสบายด้วยที่วางแขนปรับสไลด์ได้ ระบบแสดงผลมีทั้งมาตรวัดดิจิตอลขนาด 12.8 นิ้ว และหน้าจอสัมผัสกลางขนาด 12.0 นิ้ว เชื่อมต่อ Android Auto และ Apple CarPlay ไร้สาย พร้อมเครื่องเสียง Bang & Olufsen ส่วนประโยชน์ใช้สอยมีช่องเก็บของใต้ฝากระโปรงหน้าความจุ 43 ลิตร และ และช่องเก็บของ Gigabox ความจุ 145 – 574 ลิตร
Ford Puma Gen-E ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง EV มาพร้อมกับ มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ขับเคลื่อนล้อคู่หน้า กำลังสูงสุด 168 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 290 นิวตันเมตร มีสมรรถนะอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 8.0 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 160 กิโลเมตร/ชั่วโมง แบตเตอรี่มีขนาด 43 kWh เป็นแบบ Lithium-ion NMC ขับขี่ได้ไกลสุด 523 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP รองรับการชาร์จกำลังไฟสูงสุด 100 kW ใช้เวลา 23 นาที ในการชาร์จไฟจาก 10 – 80% หรือชาร์จไฟนาน 10 นาที เพื่อให้ขับขี่ไปได้อีก 124 กิโลเมตร
ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ใน Ford Puma Gen-E พร้อมช่วยลดความเหนื่อยล้าจากการขับทั้ง ระบบล็อคความเร็วอัตโนมัติ พร้อมระบบควบคุมความเร็วอัจฉริยะ, ระบบช่วยรักษาตำแหน่งในช่องจราจร, ระบบแจ้งเตือนเมื่อขับเข้าไปผิดช่องจราจร, ระบบลดความเร็วโดยอัตโนมัติ เมื่อขับขี่ออกจากจุดอับสายตา, ระบบจดจำป้ายจำกัดความเร็ว, ระบบตรวจจับสภาพของผู้ขับขี่ และกล้องมองหลังพร้อมเซนเซอร์ถอยหลัง
ที่มา: Ford