
ในโอกาสที่ BMW Z4 รหัสตัวถัง G29 กำลังจะยุติการผลิตในเดือนมีนาคม 2026 จึงมีการเปิดตัวเวอร์ชั่นส่งท้ายในชื่อ Final Edition โดยมีการเปิดเผยข้อมูลเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2026 พร้อมกับระบุว่าจะเริ่มพร้อมรับคำสั่งซื้อ ในช่วงปลายเดือนมกราคม 2026 หรือเทียบเท่ากับการเปิดรับคำสั่งซื้อในช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น โดยมาพร้อมกับการตกแต่งพิเศษเฉพาะรุ่นทั้งภายนอกและภายใน ส่วนขุมพลังคงเดิม
BMW Z4 Final Edition มาพร้อมกับตัวถังสีพิเศษกับสีดำด้าน Frozen Matt Black ซึ่งมีให้เลือกในรุ่นนี้เท่านั้น ตัดกับการตกแต่งรอบคันด้วยสี M High-gloss Shadowline โดยลูกค้าสามารถเลือกตัวถังสีอื่นก็ได้ โดยที่ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ส่วนคาลิปเปอร์เบรกมาในสีแดง High-gloss Red ห้องโดยสารตกแต่งด้วยหนังและ Alcantara พร้อมเดินตะเข็บด้ายสีแดงรอบคัน รวมถึงแดชบอร์ด, คอลโซลกลาง, แผงประตู และ เบาะ M Sport Seats ซึ่งหุ้มวัสดุ Vernasca


BMW Z4 Final Edition ยังเพิ่มพวงมาลัย M Alcantara พร้อมกันเตะประตูสลักชื่อรุ่น ส่วนขุมพลังคงเดิม ขึ้นอยู่กับว่านำรุ่นย่อยใดมาเป็นสารตั้งต้น ซึ่งมีให้เลือกกัน 3 แบบ ประกอบด้วย BMW Z4 sDrive20i กำลังสูงสุด 197 แรงม้า, BMW Z4 sDrive30i กำลังสูงสุด 258 แรงม้า และ BMW Z4 M40i ขุมพลัง 6 สูบแถวเรียง กำลังสูงสุด 340 แรงม้า สำหรับราคาแพคเกจ Final Edition ที่เพิ่มจากราคารถยนต์ที่เป็นสารตั้งต้น แตกต่างกันไปดังรายละเอียดต่อไปนี้
- BMW Z4 sDrive20i เพิ่มเงินจากค่าตัวรถอีก 7,400 ยูโร (ราว 274,000 บาท)
- BMW Z4 sDrive30i และ BMW Z4 M40i เพิ่มเงินจากค่าตัวรถอีก 4,200 ยูโร (ราว 155,000 บาท)


ที่มา: BMW







