หลังจากที่ CLA รุ่นใหม่ได้ประเดิมงานวิศวกรรมแบบล่าสุด MMA architecture ซึ่งพัฒนาขึ้นสำหรับรถยนต์ขนาดเล็ก ล่าสุด ค่ายดาวสามแฉกได้เปิดตัวรุ่นที่สองบนงานวิศวกรรมนี้กับ Mercedes-Benz GLB รุ่นใหม่ซึ่งนับเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 2 เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2025 มาพร้อมกับเอกลักษณ์การออกแบบที่มีกลิ่นอายของรุ่นก่อน พร้อมประเดิมตลาดด้วยสองทางเลือกขุมพลัง EV และในอนาคตจะมีการเพิ่มขุมพลัง Hybrid รวมถึง EV รุ่นเริ่มต้นด้วย ส่วนมิติตัวถังมีระยะฐานล้อที่ยาวขึ้น จากรุ่นก่อนหน้า 60 มิลลิเมตร
Mercedes-Benz GLB รุ่นใหม่ ผสานอัตลักษณ์การออกแบบยุคใหม่ของค่าย กับกระจังหน้าใหญ่ขึ้นสไตล์ ‘เขมือบ’ ไฟหน้ามีกราฟฟิกรูปดาวสามแฉกพร้อมแถบไฟ LED เชื่อมต่อหากันตลอดแนว ส่วนกระจังหน้าจะมีความต่างกันตามขุมพลัง โดยในรุ่น Hybrid ใช้กระจังดาวสามแฉกโครเมี่ยม พร้อมโลโก้ดาวเปล่งแสงได้ ส่วน EV จะเปลี่ยนไปใช้กระจังหน้าแบบแผงดาวเปล่งแสงได้ 94 จุด และเล่นกราฟฟิกกับผู้ใช้งานได้ ด้านท้ายเปลี่ยนดีไซน์ไฟท้าย LED เป็นรูปตัว U คว่ำ พร้อมเสริมอัตลักษณ์ SUV ด้วยกาบพลาสติกสีดำชายล่างรอบคัน
Mercedes-Benz GLB รุ่นใหม่ มีให้เลือกทั้งรุ่น 5 และ 7 ที่นั่ง กว้างขวางขึ้นกว่าเดิมโดยเฉพาะผู้โดยสารตอนหลัง จากระยะฐานล้อที่ยาวขึ้น ทั้งยังมีการเพิ่มระบบแสดงผล Mercedes SuperScreen ที่มาพร้อมจอยักษ์ 3 จอ ประกอบด้วย มาตรวัดดิจิตอลขนาด 10.25 นิ้ว, หน้าจอสัมผัสขนาด 14 นิ้ว และ หน้าจอฝั่งผู้โดยสารขนาด 14 นิ้ว ประมวลผลด้วยระบบปฏับัติการ MBUX เจนเนอเรชั่นที่ 4 ทำงานร่วมกับ ChatGPT AI และ Gemini AI พร้อมความสามารถจดจำในระยะสั้น พวงมาลัยมาในทรงท้ายตัด และมีการนำปุ่มกดจริงกลับมาใช้ใหม่
ขุมพลังของ Mercedes-Benz GLB รุ่นใหม่ มี EV ที่รองรับการชาร์จ 800 โวลต์ ให้เลือกด้วยกัน 2 แบบในตอนต้น ดังนี้
- GLB 250+ with EQ Technology มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหลัง กำลังสูงสุด 268 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 335 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ lithium-ion ขนาด 85 kWh ขับได้ไกลสุด 630 กิโลเมตร เร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 7.4 วินาที
- GLB 350 4Matic with EQ Technology มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ขับเคลื่อนสี่ล้อ กำลังรวมสูงสุด 349 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 515 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ lithium-ion ขนาด 85 kWh ขับได้ไกลสุด 615 กิโลเมตร เร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 5.5 วินาที
ในอนาคต จะมีการเพิ่มขุมพลัง EV รุ่นย่อยใหม่ให้กับ Mercedes-Benz GLB รุ่นใหม่ โดยมีรายงานว่าเป็น GLB 200 มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหลัง กำลังสูงสุด 221 แรงม้า แบตเตอรี่ขนาด 58 kWh ขับได้ไกลสุด 450 กิโลเมตร ส่วนขุมพลัง Mild Hybrid จะตามมาในปีหน้า เป็นการผสานเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.5 ลิตร เทอร์โบ กำลังสูงสุด 134 / 161 แรงม้า ในรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า และ 188 แรงม้า ในรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ 4MATIC ทั้งหมดจับคู่แบตเตอรี่ขนาด 1.3 kWh พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 27 แรงม้า ซึ่งอยู่ในเกียร์อัตโนมัติ
Mercedes-Benz GLB รุ่นใหม่ ประกาศราคาจำหน่ายในเยอรมนีแล้ว โดยเริ่มต้นที่ 59,048 ยูโร (ราว 2,192,000 บาท) ในรุ่น GLB 250+ with EQ Technology และ 62,178 ยูโร (ราว 2,308,000 บาท) สำหรับรุ่น GLB 350 4Matic with EQ Technology ซึ่งนี่ยังไม่รวมภาษีนำเข้าของประเทศไทย
