slide 1
slide 1
Image Slide 2
Image Slide 2
previous arrowprevious arrow
next arrownext arrow
HomeAutolife LifestyleMUJI หั่นราคาสินค้าลงเฉลี่ย 20% หวังคนไทยเปิดใจรับแบรนด์

MUJI หั่นราคาสินค้าลงเฉลี่ย 20% หวังคนไทยเปิดใจรับแบรนด์

นายอกิฮิโร่ คาโมการิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มูจิ รีเทล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ตามกลยุทธ์ “Always good Value, Always good price” มุ่งนำเสนอสินค้าคุณภาพ ในราคาที่คุ้มค่า พาแบรนด์มูจิให้ใกล้ชิดกับคนไทยมากขึ้น ตามเป้าหมายการเป็น แบรนด์สินค้าไลฟ์สไตล์สามัญประจำบ้านในใจคนไทยทั่วทุกภูมิภาค โดยที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้เดินหน้ากลยุทธ์ด้านราคาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2562 ควบคู่กับการขยายสาขา ให้ครอบคลุมทั่วประเทศโดยเฉพาะในต่างจังหวัด และมุ่งพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ให้เหมาะสมกับอินไซท์ด้านพฤติกรรม และความต้องการของลูกค้าในแต่ละพื้นที่ โดยตลอดระยะเวลา 6 ปีที่ผ่านมา มูจิมีการปรับราคาสินค้าในทุกๆ หมวดหมู่อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทมีฐานลูกค้าในประเทศไทย ที่ซื้อสินค้า MUJI ซ้ำเป็นประจำ และเพิ่มฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ทำให้ยอดขายมีการเติบโตสูงขึ้นเป็นอย่างมาก

ทั้งนี้ บริษัทยังตั้งเป้าหมายในการเป็นคอมมูนิตี้ที่มีส่วนร่วมช่วยเชื่อมโยง และตอบสนอง ไลฟ์สไตล์ของผู้คนในแต่ละพื้นที่ ให้สามารถเข้ามาช้อปปิ้ง แฮงค์เอ้าท์ พบปะ พูดคุย และรับประทานอาหารภายในร้าน มูจิ ได้เป็นประจำ ด้วยเหตุนี้จึงได้นำกลยุทธ์ทางด้านราคามาใช้ เพื่อเป็นประตูบานแรกให้คนไทยเปิดรับ และมีโอกาสได้สัมผัสประสบการณ์ในการใช้สินค้าคุณภาพ และบริการที่หลากหลาย ในราคาที่คุ้มค่า ตามแบบฉบับของ มูจิ ได้อย่างง่ายดาย และสะดวกสบายมากขึ้น

MUJI
นายอกิฮิโร่ คาโมการิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มูจิ รีเทล (ประเทศไทย) จำกัด

สำหรับ บริษัทเริ่มดำเนินกลยุทธ์ด้านราคามาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2562 เพื่อพาแบรนด์มูจิเข้าถึงกลุ่มลูกค้าคนไทยที่ต้องการซื้อสินค้า มูจิ สำหรับใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น ภายใต้ราคาที่เข้าถึงง่าย ซึ่งปัจจุบันมูจิ ประเทศไทยมีสินค้าจัดจำหน่ายอยู่ทั้งหมด 5,000 รายการ และยังมีสินค้าคุณภาพสำหรับชีวิตประจำวันที่มีราคาต่ำกว่า 300 บาท กว่า 2,500 รายการ หรือคิดเป็นสัดส่วน 50% ของสินค้าทั้งหมด โดยจากกลยุทธ์ด้านราคาดังกล่าว ส่งผลให้บริษัทมีฐานลูกค้าในประเทศไทย ที่ซื้อสินค้า มูจิ ซ้ำเป็นประจำ และเพิ่มฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ทำให้ยอดขายมีการเติบโตสูงขึ้นเป็นอย่างสูง

ล่าสุดบริษัทได้สานต่อกลยุทธ์ทางด้านราคาอย่างต่อเนื่องอีกครั้งผ่านการนำเสนอสินค้าไลฟ์สไตล์คุณภาพที่สามารถใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวันเพิ่มเติมกว่า 126 รายการในราคาที่ปรับลดลงเฉลี่ยกว่า 20% โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 10 พฤษภาคมเป็นต้นไป ในราคาเริ่มต้น 29 บาท ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ตามอินไซท์ด้านพฤติกรรมและความต้องการในการใช้งานของกลุ่มเป้าหมาย โดยมีสินค้าไฮไลท์ที่โดดเด่นใน 4 กลุ่มสินค้าอาทิ

  1.  กลุ่มรองเท้าและกระเป๋า (รุ่นยอดนิยม) ประกอบไปด้วย รองเท้าผ้าใบ, กระเป๋าเป้สะพายหลัง, กระเป๋าเดินทาง
  2. กลุ่มของใช้ในบ้านและเฟอร์นิเจอร์ ประกอบไปด้วย ผ้าปูโต๊ะ, อุปกรณ์ตากผ้า, โซฟาบีนแบค, หมอนโพลีเอสเตอร์, ผ้านวม, เบาะรองนั่ง, เฟอร์นิเจอร์ที่ตั้งถาด, ชั้นไม้สำหรับวางหนังสือ, ชั้นไม้สำหรับวางรองเท้า, อุปกรณ์เครื่องครัวไม้ยางพารา
  3. กลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม ประกอบไปด้วย ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า
  4. กลุ่มอาหารสำเร็จรูป (MUJI Food) ประกอบไปด้วย น้ำโซดา (Sparkling Water) และ Curry (แกงกะหรี่สำเร็จรูป)

muji

อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากกลยุทธ์ด้านราคา MUJI ยังมุ่งเดินหน้ากลยุทธ์ Localization ในการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ให้เหมาะสมกับอินไซท์ด้านพฤติกรรม และความต้องการของลูกค้าในแต่ละพื้นที่ โดยมีการนำเสนอสินค้าใหม่ๆ ที่มีจำหน่ายแบบเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะในสาขาของร้านค้า MUJI ที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย และในภูมิภาคอาเซียน ครบทุกหมวดหมู่ ทั้งเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย และของใช้ในบ้าน โดยคำนึงถึงดีไซน์และฟังก์ชั่นที่เหมาะสมกับบริบทแบบไทยๆ ไม่ว่าจะเป็น ลักษณะนิสัยของผู้คน สภาพภูมิประเทศ ภูมิอากาศ รวมถึงวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม และวิถีชีวิตของคนไทยอีกด้วย โดยในปี 2567 บริษัทมีในการนำเสนอสินค้าใหม่ๆเหล่านี้มากขึ้น เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการในรูปแบบที่เฉพาะเจาะจงของคนไทยอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเพิ่มความหลากหลายของสินค้าให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่หลากหลาย ควบคู่กับการยกระดับร้านค้าให้เป็นไลฟ์สไตล์สโตร์ที่สามารถเข้ามาใช้ชีวิตประจำวัน ได้อย่างครบครันในทุกมิติ โดยบริษัทได้เดินหน้าแผนการขยายสาขาใหม่ไปยังทั่วทุกภูมิภาคในประเทศไทย เพื่อให้เข้าถึงคนไทยในทุกๆ พื้นที่อย่างครอบคลุม ซึ่งมีการขยายสาขาไปแล้วทั้งภาคเหนือ ภาคใต้ และอยู่ในระหว่างการดำเนินการขยายสาขาไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือหลายจังหวัด อาทิ เซ็นทรัล ขอนแก่นในช่วงเดือนมิถุนายน และเซ็นทรัล อุดรธานี ในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้

นางสาวอริญา พันธุมโกมล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท มูจิ รีเทล ประเทศไทย จำกัด

นางสาวอริญา พันธุมโกมล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท มูจิ รีเทล ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ตลอดระยะเวลากว่า 3 ปีที่ผ่านมา MUJI ได้ทำการสื่อสารการตลาดเพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับแบรนด์ไปยังกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ในวงกว้างมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าต่างจังหวัด เพื่อให้ลูกค้ารับรู้และเข้าใจความมุ่งมั่นของแบรนด์ในการเป็นแบรนด์สินค้าในชีวิตประจำวันในราคาที่เข้าถึงได้ แต่ยังคงไว้ซึ่งคุณภาพและมาตรฐานของสินค้าในแบบญี่ปุ่น โดยเน้นกลยุทธ์การสื่อสาร Localize ให้เหมาะสมกับการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในแต่ละพื้นที่ เช่น สื่อป้ายโฆษณานอกบ้านทั้งในรูปแบบของป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ และป้ายโฆษณาในรูปแบบดิจิทัลในจุดที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในแต่ละจังหวัดได้เป็นจำนวนมาก หรือโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านรายการวิทยุท้องถิ่น หรือรถกระจายเสียง รวมถึงการใช้อินฟลูเอนเซอร์ที่เป็นที่รู้จักและมีอิทธิพลต่อการสร้างการรับรู้และการตัดสินใจซื้อของคนในแต่ละพื้นที่ โดยได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ทั่วประเทศไทยด้วยทราฟฟิกการเข้าใช้บริการที่มากขึ้นกว่า 20% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

- Advertisement -spot_img
Mitsubishi Mega Deal
Mitsubishi Mega Deal
ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน แบล็ก เอดิชัน
land rover
previous arrow
next arrow
- Advertisement -spot_img
- Advertisement -spot_img

Stay Connected

400,000FansLike
6,955FollowersFollow
153,000FollowersFollow
319FollowersFollow
107,000SubscribersSubscribe

Must Read

Related News