MINI ประเทศไทย เตรียมเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า MINI Electric ต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2563 เปิดขายผ่าน online เท่านั้น แถมมีโควต้าล็อตแรกแค่ 20 กว่าคันเท่านั้น คาดราคาค่าตัวไม่ถึง 2.5 ล้านบาท
สร้างความประหลาดใจให้กับแฟนๆ รถยนต์มินิ ไม่น้อยกับการเปิดตัวรถยนต์ MINI Electric รถยนต์ไฟฟ้าคันแรกจากค่ายMINI โดยจะเปิดตัวรถรุ่นดังกล่าวในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ ซึ่งการเปิดตัวครั้งนี้ถือว่าเร็วกว่าแผนเดิมที่กำหนดไว้ว่าจะเปิดตัวรถ MINI Electric ในปี 2565
สำหรับ MINI Electric นั้นในตลาดโลกก็คือ MINI Cooper SE แต่ในประเทศไทยจะใช้ชื่อ MINI Electric ในการทำตลาด โดย MINI Electric สูงขึ้นจากรุ่นเครื่องยนต์ปกติ 18 มิลลิเมตร เพราะมีแบตเตอรี่อยู่ใต้ท้อง จึงจำเป็นออกแบบช่วงล่างให้สูงกว่ารุ่นปกติ
MINI Electric เป็นรถขับเคลื่อนล้อหน้า โดยวางมอเตอร์ไว้ใต้ฝากระโปรงหน้าแทนที่เครื่องยนต์ปกติ ใช้แบตเตอรี่ lithium-ion ความจุ 32.6 kWh มอเตอร์มีกำลัง 135 กิโลวัตต์ หรือราว 181 แรงม้า ส่วนแรงบิดอยู่ที่ 270 นิวตันเมตร ความจุแบตเตอรี่ต่อการชาร์จ 1 ครั้งทำระยะทางได้มากถึง 270 กิโลเมตร
สำหรับการชาร์จไฟของ MINI Electric นั้นหากเครื่องชาร์จด้วยเครื่องชาร์จขนาด 11 กิโลวัตต์จะชาร์จได้ 80% ภายในเวลาสองชั่วโมงครึ่ง แต่หากชาร์จที่สถานีชาร์จด่วนขนาด 50 กิโลวัตต์ จะใช้เวลาเพียง 35 นาที
ทั้งนี้จุดเด่นจุดหนึ่งของ MINI Electric คืออัตราเร่งที่สามารถทำได้ทัดเทียมกับรถยนต์ระดับซูเปอร์คาร์นั่นคือ
โดยอัตราเร่ง 0 – 60 ใช้เวลาเพียง 3.9 วินาที และอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง 7.3 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 150 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ทั้งนี้ MINI ประเทศไทย ถือเป็นประเทศแรกๆในโลกที่เปิดตัว MINI Electricถัดจากประเทศในแถบยุโรป โดยการเปิดตัวครั้งนี้เป็นการเปิดตัวก่อนประเทศญี่ปุ่น และประเทศจีน ที่มียอดขายรถยนต์MINI มากกว่าประเทศไทยหลายเท่าตัว แสดงให้เห็นว่า บริษัทแม่ให้ความสำคัญกับตลาดประเทศไทยไม่น้อยทีเดียว ซึ่งรถ MINI Electric ที่นำมาจำหน่ายในประเทศไทยจะนำเข้ามาจากโรงงาน oxford ประเทศอังกฤษ
สำหรับการเปิดตัวMINI Electric ครั้งนี้ ทางMINI ประเทศไทย จะเปิดให้จองผ่านระบบออนไลน์ หรือผ่านทางเว็บไซต์ www.mini.co.th เท่านั้น เนื่องจากปริมาณรถMINI Electric ที่ได้รับจากประเทศอังกฤษมีจำนวนไม่มากนัก ประกอบกับการขายผ่าน online เป็นวิธีการที่ทาง MINI ประเทศไทยประสบความสำเร็จอย่างมากกับการจำหน่ายรถ MINI รุ่นพิเศษ
ส่วนราคาจำหน่าย MINI Electric น่าจะอยู่ไม่เกิน 2.5 ล้านบาท และคาดว่า MINI Electric จะมาพร้อมกับแพ็กเกจ บริการหลังการขายที่จะต้องสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า อย่างการรับประกันแบตเตอรี่นาน 10 ปี อีกด้วย
นอกจากนี้ การตัดสินใจเร่งนำเข้า MINI Electric เข้ามาจำหน่ายในช่วงนี้ก็เพื่อต้องการเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยลดปัญหามลพิษทางอากาศ รวมถึงช่วยลดปัญหาฝุ่น pm 2.5 ด้วย ขณะที่การชาร์จไฟนั้นก็สามารถใช้ร่วมกับสถานีชาร์จ นาว ของบีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ที่ปัจจุบันนี้ได้ขยายไป 32 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งแน่นอนว่ารถยนต์ MINI Electric สามารถเข้าไปใช้บริการที่สถานีชาร์จของ Charge Now ได้ด้วย
ขณะที่ความคืบหน้าการจำหน่ายรถยนต์ MINI Electric ในตลาดโลกนั้น ทาง BMW มีกำหนดที่จะวางตลาดรถไฟฟ้า Mini Cooper SE ในสหรัฐอเมริกาในเดือนมีนาคมปีนี้ โดยมีราคาขายเริ่มต้นที่ 29,900 ดอลลาร์ มาพร้อมหน้าจอขนาด 6.5 นิ้ว พร้อมระบบนำทางบนแผงคอนโซลหน้ารถ, สามารถทำงานร่วมกันได้กับ Apple CarPlay, ระบบ Automatic Dual Zone Climate Control, เบาะนั่งด้านหน้ามีระบบปรับให้เบาะมีความอุ่น (Heated Front Seats) ,ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่, กล้องด้านหลัง (Rear View Camera) และระบบ Keyless Entry
และหากเพิ่มเงินอีก 4,000 ดอลลาร์ ก็จะได้รับ Mini Cooper SE ใช้พลังงานไฟฟ้ารุ่น Signature Plus Trim ซึ่งจะเพิ่มหลังคากระจก Panoramic Moon Roof, Power-folding Mirrors, ระบบเสียง Harman Kardon และ Auto-dimming Interior and Exterior Mirrors (กระจกมองหลังติดตั้งภายในรถและภายนอกรถมีระบบปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ) และยังมีฟีเจอร์อื่นๆ อีก