ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) หรือ MGC-ASIA เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567 (กรกฎาคม–กันยายน) บริษัท มีรายได้รวม 4,530 ล้านบาทชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าจากการลดลงของรายได้ในธุรกิจจำหน่ายยานยนต์ใหม่
ทั้งนี้ บริษัทมีรายได้จากกลุ่มธุรกิจให้บริการหลังการขายเติบโต 5.4% (มกราคม–กันยายน) และมีรายได้จากกลุ่มธุรกิจให้บริการเช่ารถยนต์และคนขับเพิ่มขึ้น ตอบรับเทศกาลท่องเที่ยว รถเช่าเติบโต ส่งผลให้กําไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจําหน่าย (EBITDA) ทำได้ 381 ล้านบาท เติบโต 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อนหน้า
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : MGC-ASIA ลงนามกับ CITY AUTO GROUP ขยายโอกาสลงทุน
นอกจากนี้ กลุ่มธุรกิจให้บริการด้านการเงิน บริษัท อัลฟา เอกซ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนกับบริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีกำไรสุทธิก่อนตั้งสำรอง (Pre-provision operating profit) เติบโตต่อเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของพอร์ตสินเชื่อใหม่ และส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (Net interest margin) ยังเติบโตแข็งแกร่งจากกลยุทธ์การรุกตลาดสินเชื่อ Wealth Lending เจาะกลุ่มลูกค้ามั่งคั่ง (High Net Worth) รวมถึงการมุ่งเน้นการเพิ่มศักยภาพในการบริหารจัดการต้นทุนทางการเงินและต้นทุนในการดำเนินงาน
สำหรับ หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของบริษัทคือการรุกขยายธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ครบวงจร เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคแห่งยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งบริษัทจะมีการเปิดตัว XPENG X9 ที่งาน Thailand International Motor Expo 2024 ครั้งที่ 41 ซึ่งจะจัดขึ้นวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2567 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี รวมถึงบริษัทได้เดินหน้าขยายเครือข่ายศูนย์บริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดยานยนต์ไฟฟ้าและสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า โดยได้เปิดโชว์รูมต้นแบบพร้อมศูนย์บริการครบวงจร XPENG สาขาหัวหมากซึ่งเป็นศูนย์บริการครบวงจรพร้อมด้วยทีมช่างผู้เชี่ยวชาญและอุปกรณ์ที่ทันสมัย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : MGC-ASIA เผยผลการดำเนินงานไตรมาส 2/67 กำไรเพิ่มขึ้น 628.4%
ปัจจุบันได้แต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการจำนวน 12 ราย เพื่อขยายช่องทางการจัดจำหน่ายให้ครอบคลุมและเปิดโชว์รูมยานยนต์ไฟฟ้าพรีเมียม–ลักชัวรี่ พร้อมศูนย์บริการครบวงจร ZEEKR หรือ ZEEKR HOUSE สาขาศรีนครินทร์ และวิภาวดี เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่สำคัญในกรุงเทพฯ พร้อมรองรับจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้น
ขณะที่ ช่วงไตรมาส 4 เตรียมส่งมอบเรือยอตช์ AZIMUT มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท ซึ่งจะส่งมอบเสร็จสิ้นและรับรู้รายได้ในไตรมาส 4 ปีนี้
ส่วน MMS อยู่ในขั้นตอนการเจรจากับคู่ค้าและมีการศึกษาลู่ทางการขยายศูนย์ซ่อมสีและตัวถังยานยนต์ไฟฟ้า รวมถึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพของบุคลากร โดยจัดให้มีการฝึกอบรม เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า รวมถึง ยกระดับมาตรฐานการบริการ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า