นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด (MG) เปิดเผยว่า การเปิดตัว MG3 Hybrid+ บริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้อยู่ที่ 1,000 คัน/เดือน ซึ่งถือเป็นสัดส่วนกว่าครึ่งของยอดขายบริษัทต่อเดือน โดยการเปิดตัวดงกล่าวเป็นไปตามแผนธุรกิจที่วางไว้ ซึ่งแม้จะอยู่ในสถานการณ์เศรษฐกิจชะลอตัว แต่บริษัทเชื่อว่าเศรษฐกิจมีขึ้นมีลง เราจึงมองเป็นโอกาสทางการแข่งขันในขณะที่ตลาดและคู่แข่งชะลอตัวซึ่งเปิดตัวในเวลานี้เชื่อว่าจะได้รับความสนใจจากผู้บริโภคอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาสถานการณ์ตลาดรถยนต์ในเวลานี้มีการเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ๆ ซึ่งเชื่อว่าหลังผ่าน ไตรมาส 3/2567 จะทยอยปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ จากการอนุมัติสินเชื่อที่คาดว่าจะกลับมาผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น สถานการณ์หนี้เสีย (NPL) เริ่มนิ่งขึ้น จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เชื่อว่าตลาดจะทยอยฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ขณะที่ แม้ว่าตลาดรถยนต์ในภาพรวมจะชะลอตัวแต่ตลาดรถยนต์พลังงานทางเลือกอย่าง เทคโนโลยีไฮบริด (HEV) มีอัตราเติบโตขึ้น ดังนั้นหลังจากนี้บริษัทยืนยันว่าจะใช้เทคโนโลยีไฮบริดทดแทนเครื่องยนต์สันดาปภายใน
สำหรับ MG3 ถือเป็นผลิตภัณฑ์แรกของบริษัทนับตั้งแต่การเปิดตัวแบรนด์ในประเทศไทย ที่สร้างชื่อให้คนรู้จักกับแบรนด์และรถยนต์ในเวลานั้น กระทั่งถึงปัจจุบันการแข่งขันของตลาดเปลี่ยนไปซึ่งในรถยนต์รุ่นเดียวกันเราได้มีใส่เทคโนโลยีและออปชั่น แต่หากกล่าวถึงราคาวันนี้และในอดีตแทบจะเป็นราคาที่เท่ากันเลย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ราคาอย่างเป็นทางการ MG 3 Hybrid+ : 559,900 – 599,900 บาท | เบนซิน 1.5 + มอเตอร์ไฟฟ้า 194 แรงม้า
อย่างไรก็ตาม บริษัทมีแผนการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่จำนวน 2 รุ่น/ปี ซึ่งบริษัทมีแผนการเปิดตัวแบรนด์พรีเมี่ยมภายใต้แบรนด์ MG อย่าง แบรนด์ IM ซึ่งเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในระดับพรีเมี่ยม โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะใช้แบรนด์ IM หรือ MG ซึ่งจะเปิดตัวภายในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2025
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับนโยบายการส่งเสริมรถยนต์ไฮบริด (HEV) บริษัทยินดีที่จะเข้าร่วมนโยบายดังกล่าว และเรายังมองว่านโยบายดังกล่าวนี้เป็นนโยบายที่สร้างความเท่าเทียมให้กับผู้ผลิตรถยนต์ทุกสัญชาติ หลังจากในช่วงที่ผ่านมานโยบายรัฐได้เอื้อให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีนเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นจึงมองว่านโยบายดังกล่าวจะเป็นการผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ให้เติบโต
